‘นายกฯ เวียดนาม’ เข้าพบทิม คุก หารือหนุนการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นาย ฝ่ามมิงห์ ชินห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เข้าพบกับนายทิม คุก (Tim Cook) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอปเปิล เมื่อวันที่ 16 เม.ย. โดยนายกฯ ยอมรับว่าดีใจที่ได้เจอกันเป็นครั้งที่ 2 และกล่าวขอบคุณที่ตอบรับคำเชิญให้มาเยือนเวียดนามในครั้งนี้ รวมถึงหารือการขยายธุรกิจของแอปเปิลในประเทศและการสร้างงานให้กับคนเวียดนามมากกว่า 2 แสนตำแหน่ง ทั้งนี้ เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนาม-สหรัฐฯ นายกฯ กล่าวว่าเวียดนามรอคอยที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากแอปเปิลทั้งในแง่การส่งเสริมการเติบโตสีเขียว การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลังงานทดแทน พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-pm-meets-ceo-tim-cook-seeks-apples-support-for-green-growth/

‘เวียดนาม’ ทำรายได้จากการขายคาร์บอนเดรติคป่าไม้ ทะลุ 51.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม กล่าวว่าในปี 2566 นับเป็นก้าวครั้งสำคัญของภาคป่าไม้ของประเทศ เนื่องจากเวียดนามประสบความสำเร็จจากการขายคาร์บอนเครดิตป่าไม้เป็นครั้งแรก (Forest Carbon Credit) จำนวน 10.3 ล้านคาร์บอนเครดิตให้กับธนาคารโลก (World Bank) คิดเป็นมูลค่า 51.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการขายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสัญญาการซื้อขายก๊าซเรือนกระจก (ERPA) ที่ลงนามเมื่อวันที่ 22 ต.ค.63

นอกจากนี้ จากรายงานของสำนักงานป่าไม้เวียดนาม ระบุว่าเวียดนามปลูกป่าในปีที่แล้ว ประมาณ 250,000 เฮกตาร์ สูงกว่าแผนที่ตั้งเป้าไว้ และพื้นที่ป่าไม้มีสัดส่วน 42.02% ในขณะที่รายได้จากการให้บริการทางด้านสิ่งแวดล้อมของป่าไม้ มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 4.1 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 169 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-earns-515-million-usd-from-first-forest-carbon-credit-sale/275994.vnp

‘ลาว-สิงคโปร์’ ร่วมประชุมหารือทวิภาคี ตอกย้ำความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน

กระทรวงการต่างประเทศลาวและสิงคโปร์ จัดการประชุมทวิภาคีความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนความคืบหน้าในความพยายามร่วมกันในการปกป้องสิ่งแวดล้อม การจัดการแหล่งน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ ฝ่ายลาวได้ขอให้รัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนให้นักธุรกิจสิงคโปร์เข้าลงทุนในลาวมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในด้านการเกษตร พลังงานสะอาด การท่องเที่ยวและโรงแรม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_Laosomga201_23.php

สปป.ลาว เริ่มดำเนินการโครงการพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สปป.ลาว เริ่มติดตั้งกังหันพลังงานลมสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดเซกอง หลังจากกังหันและใบพัดจัดส่งมาถึงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) ซึ่งโครงการดังกล่าววางแผนติดตั้งกังหันลมประมาณ 110 ตัว ในอำเภอดักจึง จังหวัดเซกอง และในอำเภอสานไชน แขวงอัตตะปือ 23 ตัว โดยการก่อสร้างโครงการได้เริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายน 2023 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2025 ด้วยกำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ กระจายไปทั่วพื้นที่สัมปทานกว่า 1,000 เฮกตาร์ ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งออกไปยังเวียดนามภายใต้กรอบสัญญาระยะเวลา 25 ปี

ขณะที่รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) รายงานว่าการก่อสร้างจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ป่าในระยะสั้น ทำให้ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าได้รับผลกระทบเป็นการชั่วคราว และการสร้างถนนสายใหม่ใกล้กับป่าก็อาจทำให้การล่าสัตว์ป่าของชาวบ้านเพิ่มขึ้นในระยะถัด โดยโครงการดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อภาคครัวเรือนในแขวงเซกองกว่า 360 ครัวเรือน และอีก 36 หลังคาเรือนในแขวงอัตตะปือ ที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการพลังงานลม

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/08/14/installation-of-turbines-begins-in-laos-for-se-asias-largest-wind-power-project/

กัมพูชาตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 5.6 ล้านคน ภายในปี 2024

กัมพูชาคาดการณ์ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 5.6 ล้านคน และนักท่องเที่ยวภายในประเทศอีกกว่า 16.4 คน ภายในปี 2024 ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว พัฒนาสนามบินแห่งใหม่ ทางด่วน การจัดงานแข่งขันกีฬา และการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ตามแผนโรดแมปของกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวโดย Thong Khon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ในระหว่างการสัมนาสรุปแผนส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชา หลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลตกลงที่จะสนับสนุนผ่านกลยุทธ์เพิ่มความยืดหยุ่นและการฟื้นตัว เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบัน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมกัมพูชาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับแผนสร้างสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่จุผู้ชมได้ประมาณ 10,000-20,000 คน เพื่อส่งเสริมการแข่งขันกีฬาและการท่องเที่ยวในจังหวัดเสียมราฐ  ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้เปิดตัวแคมเปญ “IBEST” เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ การจอง สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และเทคโนโลยี เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501314073/cambodia-eyes-over-5-6m-international-tourists-by-2024/

ตัวแทนอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สปป.ลาว ร่วมหารือลดต้นทุนด้านพลังงาน

สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สปป.ลาว (ALGI) เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยทางสมาคมได้จัดหลักสูตรทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับระบบการจัดการพลังงาน รวมถึงการฝึกอบรม ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การดำเนินการตามแผนที่มีอยู่ของบริษัทสำหรับภาคส่วนอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูป ที่ได้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-22 มิถุนายน ณ หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติ สปป.ลาว (LNCCI) ที่ได้รับความร่วมมือกับทางกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ สปป.ลาว ในการถ่ายทอดความรู้

โดยภาคอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ระบบการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิตและสอดคล้องกับนโยบายและพระราชกฤษฎีกาการอนุรักษ์พลังงานของรัฐบาล นอกจากนี้ คู่ค้าในปัจจุบันยังต้องการสินค้าที่ผลิตโดยกรรมวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังเป็นมิตรต่อแรงงานในสายการผลิต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Garment120.php

BYD หารือนายกฯ สปป.ลาว ถึงแผนการจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา Mr. Liu Xueliang ผู้จัดการทั่วไป BYD Asia-Pacific, Mr. Ye Chenghui ผู้อำนวยการภูมิภาค BYD Asia-Pacific และ Mr. Mok Leng Tou ประธานบริษัท MOK Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทพันธมิตรของ BYD ใน สปป.ลาว ได้เดินทางเข้าพบกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ณ กรุงเวียงจันทน์ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้รถยนต์พลังงานทดแทนและการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในระหว่างการประชุม Liu Xueliang กล่าวว่า ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้า BYD มียอดขายสะสมเกินกว่า 1.86 ล้านคัน ในช่วงปี 2022 คิดเป็นการขยายตัวกว่าร้อยละ 208.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นตลาดต่างประเทศที่ BYD ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา BYD ได้จัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในต่างประเทศแห่งแรกในประเทศไทย และบริษัทหวังว่าจะมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ใน สปป.ลาว ในอนาคตเพื่อรองรับการผลิต โดยทาง BYD พร้อมที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่นของ สปป.ลาว เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินโครงการนี้จะเพิ่มฉันทามติระหว่างจีนและ สปป.ลาว ในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศและโครงการมลพิษต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาเวียงจันทน์ให้เป็นต้นแบบด้านเมืองคาร์บอนต่ำต่อไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten115_BYD_y23.php

กระทรวงฯ ท่องเที่ยวกัมพูชา เน้นแนวคิด IBEST ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาจ่อนำแนวคิด IBEST มาใช้เพื่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้เข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชามากขึ้น กล่าวโดย Song Tong Hap เลขาธิการกระทรวงการท่องเที่ยว ในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการของกระทรวง ซึ่งแนวคิด IBEST จะเน้นคุณภาพในการให้บริการ สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย เทคโนโลยี และความสะดวกในการจองใช้บริการ โดย I ย่อมาจาก Improving คือการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว, B ย่อมาจาก Booking หมายถึงพัฒนาระบบการจอง ในขณะที่ E ย่อมาจาก Environment หมายถึงเน้นการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การดำเนินการตามมาตรฐานสีเขียว และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อมด้านการท่องเที่ยว, S ย่อมาจาก Safety คือการคำนึงถึงความปลอดภัยรอบด้าน และ T ย่อมาจาก Technology คือการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยแนวคิด IBEST เป็นเหมือนแผนที่นำทางสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการปรับผลิตภัณฑ์และการให้บริการของภาคธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน และเพื่อเป็นแผนในการสนับสนุนแคมเปญ Visit Cambodia Year 2023 ซึ่งเป็นแคมเปญหลักในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวกัมพูชาในช่วงปี 2023 โดยในช่วงปี 2022 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.28 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 1,058% จากปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501262731/ministry-focuses-on-ibest-concept-to-attract-tourists/

“สิงคโปร์-สปป.ลาว” กระชับความสัมพันธ์ด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อมและดิจิทัล

เดอะสเตรตส์ไทมส์ (The Straits Times) รายงานว่าประเทศสิงคโปร์และสปป.ลาว กำลังยกระดับความร่วมมือในสาขาใหม่ ได้แก่ พลังงาน ดิจิทัล ความยั่งยืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม เนื่องจากครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี ทั้งนี้ นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ และนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) จำนวน 4 ฉบับ พิธีลงนามในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นของความร่วมมือเพื่อโครงข่ายไฟฟ้าระดับภูมิภาค พลังงานหมุนเวียนและการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับการค้าไฟฟ้าข้ามพรมแดน สิ่งนี้จะข่วยส่งเสริมการค้าไฟฟ้าข้ามพรมแดนในภูมิภาคและทำให้ประเทศต่างๆ ร่วมกันลดคาร์บอน ในขณะเดียวกันก็สร้างงานและยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Singapore189.php

รัฐบาลสปป.ลาวเปิดประมูลซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

รัฐบาลลาวได้เปิดกระบวนการประมูลซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากว่าร้อยคันสำหรับผู้นำพรรคและรัฐบาล รัฐบาลหวังที่จะซื้อยานพาหนะไฟฟ้าจำนวน 183 คัน รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า 23 คันที่มีกำลังมอเตอร์ 121KW-163KW และรถยนต์ไฟฟ้าอีก 160 คันที่มีกำลังมอเตอร์ 100KW-160KWรัฐบาลลาวได้หารือเกี่ยวกับการจัดซื้อยานพาหนะไฟฟ้าสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 โดยมีเป้าหมายที่จะแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินด้วยรถยนต์ไฟฟ้าตามมาตรการลดต้นทุนเป็นการนำร่องการนำรถไฟฟ้ามาใช้ในประเทศโดยหวังว่าการนำรถไฟฟ้ามาทดแทนจะช่วยเหลือเรื่องสิ่งแวดล้อมตามเทรนด์โลกที่กำลังให้ความสนใจในเรื่องนี้

ที่มา : https://laotiantimes.com/2022/03/30/government-of-laos-opens-bidding-for-electric-vehicle-purchase/