MAB หนุนไมโครไฟแนนซ์เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก

Myanmar Apex Bank (MAB) ได้จัดสรรเงิน 57,000 ล้านจัต เพื่อสนับสนุนบริษัทสินเชื่อรายย่อยที่ปล่อยกู้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ขณะนี้ MAB ได้ให้การสนับสนุนกับ Fullerton Finance Myanmar, Proximity Finance Microfinance, Vision Fund Myanmar, Early Dawn Microfinance, and Pact Global Finance Microfinance Fund. บริษัท ไมโครไฟแนนซ์มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กในเมียนมา โดยยินดีที่จะให้ธุรกิจขนาดเล็กได้กู้ยืมสินเชื่อเพราะธุรกิจเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสการจ้างงาน MAB ได้จัดตั้งขึ้นในปี 53 มีบทบาทในการสนัยสนุนทุนให้กับ บริษัทไมโครไฟแนนซ์เพื่อสนับสนุนลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ในอนาคตได้วางแผนจะขยายการระดมทุนการเงินรายย่อยเพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ ธุรกิจขนาดเล็กมียอดกู้มากที่สุด 10 ล้านจัตและหากมีการเติบโตจะต้องการเงินทุนเพื่อขยายตัวของธุรกิจ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/microfinance-firms-get-more-support.html

ADB ให้สินเชื่อใหม่เพื่อการพัฒนา สปป.ลาว

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) จัดหาเงินกู้ใหม่ 3 วงเงินมูลค่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรม การศึกษาและเพื่อการบริหารการเงินสาธารณะ ซึ่งการเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบชลประทาน ถนนในชนบทและการปรับปรุงสภาพโภชนาการในพื้นที่ชนบทจะช่วยเพิ่มผลผลิตในฟาร์มให้การเข้าถึงตลาดที่ดีขึ้นและยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประชาชน การให้การสนับสนุนด้านการศึกษาจะช่วยให้สปป.ลาวผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถ และการสนับสนุนการปฏิรูปการคลังสาธารณะจะช่วยลดความเปราะบางของประเทศต่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมและส่งเสริมภาคสังคม

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/adb-provides-new-loans-development-107384

สปป.ลาว-ชิลี ส่งเสริมธุรกิจและความร่วมมือทางการค้า

สปป.ลาวและชิลีมีเป้าหมายที่จะกระชับความร่วมมือทางธุรกิจและการค้า ในระหว่างการประชุมเอกอัครราชทูตชิลีได้แสดงข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมถึงโอกาสทางการค้าและการลงทุนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 ประเทศ การค้าทวิภาคีระหว่างสปป.ลาวและชิลีในปี 60 ประสบความสำเร็จ 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ลดลงเหลือประมาณ 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 61 จากเดือนม.ค.ถึงเดือน ก.ค.ปีนี้ถึง 430,000 ดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกหลักของชิลีไปยังสปป.ลาวคือเครื่องจักรแปรรูปหิน และไวน์ ในขณะที่สปป.ลาวส่งออกไปยังชิลี คือ รองเท้า อุปกรณ์กระจายเสียง และชุดสูทผู้ชายที่ไม่ได้ถัก ทั้งสองฝ่ายหวังว่าการต้อนรับอย่างอบอุ่นจะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านธุรกิจและการค้าและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-chile-boost-business-trade-cooperation-107310

บริษัทญี่ปุ่นเข้าถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังน้ำโพธิ์ซัด

บริษัท ผลิตไฟฟ้าญี่ปุ่น eRex Co Ltd. ประกาศว่าการมีส่วนร่วมในการก่อสร้างและการจัดการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 80 เมกะวัตต์ในจังหวัดโพธิ์ซัด โดยบริษัทในโตเกียวมีแผนที่จะลงทุน 23.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นให้อยู่ในระดับ 34% ในโครงการนี้กับบริษัท Asia Energy Power ประเทศกัมพูชาและ ISDN Energy Pte. Ltd. ซึ่งโครงการนี้กำลังได้รับการพัฒนาโดย SPHP (กัมพูชา) ซึ่งได้รับใบอนุญาตในการสร้างเขื่อน และได้ลงนามในข้อตกลงกับ Electricite Du Cambodge (EDC) ภายใต้ข้อตกลงนี้จะขายไฟฟ้าที่ 7.9 เซนต์ต่อวัตต์ ไปยัง EDC โดยการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 หรือ 2566 โดยรัฐบาลต้องการกระจายการผลิตพลังงานซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ครอบคลุมด้วยพลังน้ำซึ่งคิดเป็นประมาณ 50% ของพลังงานทั้งหมดที่ใช้ไปเมื่อปีที่ และพลังงานแสงอาทิตย์คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของพลังงานทั้งหมดในปี 2018 ซึ่งด้วยกลยุทธ์การกระจายการลงทุนที่หลากหลายของรัฐบาลหวังที่จะยุติการขาดแคลนในด้านพลังงานที่ส่งผลกระทบต่อประเทศในระยะหลัง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50655894/japanese-firm-acquires-stake-at-upcoming-pursat-hydropower-plant/

การสำรวจน้ำมันในลุ่มน้ำกำปงโสมของกัมพูชา

การสำรวจน้ำมันที่ดำเนินการโดย Angkor Resources Corp ที่กำปงโสมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยได้ทำการเริ่มต้นสำรวจ Block VIII ที่เป็นบล็อกใหม่ ถึงความเป็นไปได้ของพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมันเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ ซึ่งจากรายงานการสำรวจกว่า 21 ครั้ง โดยตัวอย่างได้ถูกส่งไปยัง Schlumberger Ltd ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการบ่อน้ำมันชั้นนำของโลกเพื่อยืนยันผลการสำรวจ โดยในเดือนสิงหาคมกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานได้รับใบอนุญาตจาก Angkor Resources Corp เพื่อสำรวจน้ำมันและก๊าซผ่าน EnerCam Resources Co Ltd ซึ่งบริษัทเพิ่งได้ระดมทุนอีก 1 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านการเป็นหุ้นส่วน โดยจะนำเงินที่ได้รับไปชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งกัมพูชาจะผลิตน้ำมันในไม่ช้าหลังจากการค้นพบแหล่งน้ำมันสำรองขนาดใหญ่ในอ่าวไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50655887/oil-exploration-in-kompong-som-basin-off-to-a-promising-start/

CPI ประจำเดือนตุลาคม เพิ่มสูงขึ้นในรอบ 3 ปี

จากแถลงการณ์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.59 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน นับว่าเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยดัชนีฯ ขยายตัว เป็นผลมาจากอุปทานเนื้อหมูลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกัน, ราคาน้ำมันโลกเพิ่มสูงขึ้น และการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมของการศึกษา เป็นต้น ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนตุลาคม ขยายตัวร้อยละ 0.15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่ผ่านมา และขยายตัวร้อยละ 1.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่ ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเฉลี่ย ขยายตัวร้อยละ 1.92 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/cpi-in-october-shows-threeyear-high-rise-405413.vov

“เกาหลีใต้” เป็นผู้ลงทุนโดยตรงรายใหญ่ในเวียดนาม

จากข้อมูลของสำนักสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 2,752.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.5 ของมูลค่าเงินทุนจดทะเบียนใหม่รวม รองลงมาเป็นจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ตามลำดับ โดยตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา รวม 3,094 โครงการใหม่ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนมากกว่า 12,833 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 สำหรับจำนวนโครงการ และลดลงร้อยละ 14.6 สำหรับมูลค่าเงินทุน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจลงทุนในภาคค้าส่งค้าปลีก ยานยนต์ และภาคเกษตร ป่าไม้ และประมง เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/rok-retains-position-as-vietnams-leading-source-of-fdi-405427.vov

KBZPay ขยายบริการทดแทนการใช้เงินสด

KBZPay คาดว่าผู้ใช้จะเพิ่มขึ้น 42% เป็น 5 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้และขยายเป็นหกเท่า 30 ล้านคนภายในปี 2571 ผู้ใช้จะสามารถจองตั๋วสำหรับการท่องเที่ยว ซื้อและขายสินค้า และบริการออนไลน์ จ่ายเงินเดือนและสนับสนุนแพลตฟอร์ม การชำระเงินทางธุรกิจด้วย KBZPay มั่นใจได้ว่าข้อมูลของผู้ใช้จะได้รับการปกป้องและส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับความรู้ทางการเงินและดิจิทัลสำหรับประชาชน ปัจจุบันแอพพลิเคชั่นมีผู้ใช้มากกว่า 3.5 ล้านคน – ราว 1.6 ล้านคนในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และรัฐฉานและ 1.9 ล้านคนในพะโค, ซากะ, อิรวดี,มะกเว , มน, ยะไข่ รวมถึงเนปยีดอ แอพนี้อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมไร้เงินสดได้จำนวน 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐในปีแรก ปัจจุบันสามารถใช้สำหรับการฝากและถอนเงิน เติมเงินมือถือ การซื้อข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต การชำระเงิน QR code และการโอนเงินจากบัญชีออม KBZ ไปยัง KBZPay เป้าหมายของคือลดการใช้เงินสดให้มากที่สุดและช่วยพัฒนาระบบการเงินดิจิทัลในเมียนมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/kbzpay-expand-cashless-service-offering.html