‘ภาคบริการ’ เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ สปป.ลาว

คำเจน วงโพสี รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนและการลงทุน สปป.ลาว เผยอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของ สปป.ลาว ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 ขยายตัว 4.4% โดยการค้าส่งและค้าปลีก การขนส่ง และการบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ถือเป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการดีที่สุด ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจภาคบริการขยายตัว 5.6% ซึ่งมีส่วนทำให้ GDP สปป.ลาว ขยายตัวได้ ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษี ขยายตัว 3.9%, ภาคการผลิตอุตสาหกรรม ขยายตัว 3.5% ภาคเกษตรกรรมและการป่าไม้ ขยายตัว 3.4% นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองที่แข็งแกร่งและความสงบเรียบร้อยทางสังคม ทั้งนี้ ในปี 2567 คาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 5% ตามมาด้วยภาคบริการ ขยายตัว 4.8% ภาษีและศุลกากร ขยายตัว 3.9% และภาคเกษตรกรรม ขยายตัว 2.6% หากบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ GDP สปป.ลาว ปี 2567 จะมีมูลค่า 293,786 พันล้านกีบลาว รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 1,787 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.news.cn/20231102/f12f1f851a9440fc92b266c671b19d89/c.html

‘ศก.ดิจิทัลเวียดนาม’ ปี 68 มูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานประจำปีของกูเกิล (Google), เทมาเส็ก (Temasek) และ Bain & Company เปิดเผยว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามในปี 2566-2568 คาดว่าจะขยายตัว 20% ต่อปี และมีมูลค่ารวมประมาณ 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 โดยการขยายตัวของการชำระเงินทางดิจิทัลในเวียดนาม เป็นผลมาจากการได้รับแรงหนุนจากการส่งเสริมของภาครัฐฯ การลงทุนจากธนาคารพาณิชย์ และความนิยมในการใช้จ่ายผ่าน QR Code

ที่มา : https://www.reuters.com/article/southeast-asia-digital-economy-vietnam/vietnams-digital-economy-on-track-to-reach-around-45-bln-by-2025-industry-report-idINL4N3C20Y0

‘การท่าเรือเวียดนาม’ ชี้ 10 เดือนแรกปีนี้ ปริมาณขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือฟื้นตัว

กรมเจ้าท่าเวียดนาม (VMA) เปิดเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 มีปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือเวียดนาม มากกว่า 624.55 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปริมาณการส่งออกสินค้าลดลงเล็กน้อย 1% แต่การนำเข้ามีการเติบโตที่แข็งแกร่งราว 5%

ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย. ปริมาณการขนส่งสินค้าที่ผ่านท่า 565 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% การส่งออก 132 ล้านตัน ลดลง 1% ในขณะที่การนำเข้า 165 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5%

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnams-seaport-throughput-rebounds-in-10-months-post130835.html

9 เดือนแรกของปี ทางการกัมพูชาจัดเก็บภาษีแตะ 2.8 พันล้านดอลลาร์

กรมสรรพากรกัมพูชา (GDT) รายงานการจัดเก็บภาษีในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่มูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากมูลค่า 2.68 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ครอบคลุมเป้าหมายการจัดเก็บภาษีประจำปีที่ร้อยละ 78.5 ของแผนการจัดเก็บภาษี โดยการจัดเก็บที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากทางการกัมพูชาได้ปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีใหม่ ผ่านการนำระบบดิจิทัลมาปรับใช้อย่างระบบ Tax Administration 3.0 เพื่อให้ทัดเทียมกับระบบที่นานาชาติได้มีการนำมาปรับใช้ สำหรับในปี 2022 GDT จัดเก็บภาษีได้มูลค่า 3.45 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับร้อยละ 122 ของเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีประจำปี แต่ถึงอย่างไรก็ตามจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อปรับกลยุทธ์ในการจัดเก็บภาษีประจำปีต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501384998/tax-collection-hits-2-8-billion-in-nine-months/

การค้าระหว่าง เวียดนาม-กัมพูชา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ปัจจุบันเวียดนามถือเป็นคู่ค้ารายสำคัญอันดับสามของกัมพูชา และใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศอาเซียน ภายในปี 2022 โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.25 สำหรับการนำเข้าของกัมพูชาจากเวียดนามเพิ่มขึ้นเช่นกันกว่าร้อยละ 26.20 ส่งผลทำให้กัมพูชาขาดดุลการค้าระหว่างเวียดนามที่มูลค่า 1.799 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 55.25 ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งสินค้าหลักที่กัมพูชาทำการนำเข้าจากเวียดนาม ได้แก่ ผ้าถักที่ทำจากยางเบามูลค่า 450 ล้านดอลลาร์ ปิโตรเลียมกลั่นมูลค่า 396 ล้านดอลลาร์ และแท่งเหล็กดิบมูลค่า 296 ล้านดอลลาร์ โดยในช่วง 21 ปีที่ผ่านมาการส่งออกของเวียดนามไปยังกัมพูชาขยายตัวขึ้นทุกปีจากมูลค่า 217 ล้านเหรียญดอลลาร์ในปี 2000 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 4.91 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022 สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังเวียดนามมูลค่ารวมกว่า 2.03 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501384968/vietnams-trade-with-cambodia-on-upward-swing/

สปป.ลาว-ไทย ร่วมหารือเกี่ยวกับการก่อสร้าง ‘สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขง’

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และไทย ได้ทำการเจรจาเกี่ยวกับการก่อสร้างสะพานสำหรับใช้เป็นทางรถไฟข้ามแม่น้ำโขง ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว กับจังหวัดหนองคาย ประเทศไทย ซึ่งขยายเส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนจากหนองคายไปยังสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (สถานีคำสะหวาด) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเข้าถึงประเทศจีนได้สะดวกขึ้น ทั้งนี้ จากการหารือทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะส่งเสริมให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาวิธีการส่งเสริมปริมาณการค้า
ทวิภาคี โดยการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่มีอยู่และทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น และมุ่งเป้าไปที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสปป.ลาว กับประเทศไทย โดยใช้เส้นทางรถไฟเป็นระบบขนส่งหลัก

ที่มา : https://english.news.cn/20231101/4129819645d347a6a2b36f7d10d100ed/c.html

‘การเติบโตทางเศรษฐกิจ สปป.ลาว’ ช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมาเติบโตได้ 4.03%

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เผยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ปี 2564 ถึงกลางปี 2566 ขยายตัวได้ 4.03% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4% ทั้งนี้ รัฐบาลได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2566 จากที่คาดการณ์ไว้ 4.5% ปรับลดเหลือขยายตัว 4.2% เนื่องจากผลกระทบของค่าเงินกีบที่อ่อนค่ารุนแรงและปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ต่อหัวของประชากร สปป.ลาว ปีนี้มีแนวโน้มปรับลดลงมาอยู่ที่ 1,712 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม รัฐบาล สปป.ลาว มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้รายได้ต่อหัวของประชากรบรรลุเป้าหมายที่ระดับ 2,880 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ได้ภายในปี 2568 นอกจากนี้ รัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางการเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูง และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน โดยได้สั่งให้ธนาคารกลางใช้กลไกทั้งหมดในลักษณะบูรณาการเพื่อรักษาปริมาณเงิน M2 ในวงกว้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นการใช้สกุลเงินต่างประเทศกับการนำเข้าที่มีลำดับความสำคัญ ยกเลิกร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทั่วไป ให้แลกเปลี่ยนได้เฉพาะกับธนาคารพาณิชย์

ที่มา : https://english.news.cn/20231101/5e4ef2c249474f61b71121209ad22634/c.html#:~:text=VIENTIANE%2C%20Nov.%201%20(Xinhua,Lao%20Prime%20Minister%20Sonexay%20Siphandone.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากรแห่งสหภาพเมียนมา ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจีน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากร U Myint Kyaing ให้การต้อนรับสมาชิกสภาแห่งรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน และนาย Wang Xiaohong รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และคณะฯ ที่กรุงเนปิดอว์ วานนี้ โดย ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนเข้าเมืองเพื่อความมั่นคงและสันติภาพในพื้นที่ชายแดน ทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างสะดวกสบาย โดยจัดตั้งด่านชายแดนระหว่างจีน-เมียนมามากขึ้น รวมทั้งขยายความร่วมมือในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนเข้าเมือง จัดการประชุมระดับอธิบดีเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ยังมีการอภิปรายเรื่องการสนับสนุนของจีนเพื่อตอบสนองความต้องการทางเทคโนโลยี และการสำรวจสำมะโนประชากรและครัวเรือนของเมียนมา และระบบ e-ID ที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศของ เมียนมา จีน ไทย และลาว เพื่อป้องกันการอพยพข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ และการพนันออนไลน์ การฟื้นฟูเสถียรภาพอย่างเร่งด่วนในพื้นที่ชายแดนจีน-เมียนมารซึ่งมีการสู้รบปะทุขึ้น และความพยายามในการรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีฉันมิตรที่ยั่งยืนระหว่างเมียนมาและจีน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moip-union-minister-receives-chinese-delegation/

ราคายางพาราปรับตัวลดลงปลายตุลาคม

ราคายางพาราในตลาดยางของรัฐมอญ ซึ่งเป็นรัฐผลิตยางรายใหญ่ในเมียนมา ปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 1,580 จ๊าดต่อปอนด์ โดย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ยางแผ่นรมควันขั้น 3 ราคาแตะระดับสูงสุดอยู่ที่ 1,790 จ๊าดต่อปอนด์ และยางตากแห้งราคาอยู่ที่ 1,770 จ๊าดต่อปอนด์ ในขณะที่ราคาปัจจุบันของยางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 1,580 จ๊าดต่อปอนด์ และยางตากแห้งราคาอยู่ที่ 1,560 จ๊าดต่อปอนด์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงสองสัปดาห์ ราคาปรับลดลงกว่า 210 จ๊าดต่อปอนด์ ซึ่งมีปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคายางพาราจาก อุปสงค์ของยางพาราทั่วโลก อุปทานของยางพาราในตลาดโลก และปริมาณการผลิตยางในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เมียนมามีเป้าหมายที่จะการส่งออกยางพาราให้ได้ 300,000 ตันในปีงบประมาณปัจจุบัน 2566-2567 อย่างไรก็ตาม การผลิตยางในปีงบประมาณ 2565-2566 ที่ผ่านมามีจำนวนมากกว่า 360,000 ตัน และมีการขนส่งยางมากกว่า 200,000 ตันไปยังคู่ค้าต่างประเทศ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ อินเดีย และ ญี่ปุ่น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-prices-on-decline-in-end-oct/#article-title

Qatar Airways พร้อมกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงเชื่อมกรุงพรมเปญ

สายการบิน Qatar Airways พร้อมกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงมายังกรุงพนมเปญ เชื่อมไปยังนครโฮจิมินห์ของเวียดนาม โดยเริ่มให้บริการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.) กล่าวโดย Vu Thi Thanh Huong ผู้จัดการสายการบิน Qatar Airways ประจำประเทศเวียดนามและกัมพูชา เชื่อว่าจะเป็นการเปิดโอกาสด้านการเดินทางใหม่ๆ ให้กับผู้โดยสาร ขณะที่ Cyril Girot ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสนามบินกัมพูชา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ VINCI Airports ผู้ให้บริการสนามบินเอกชนชั้นนำของโลก ได้กล่าวเสริมว่า สนามบินในกรุงพนมเปญพร้อมที่จะสร้างเครือข่ายจุดหมายปลายทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเชื่อมต่อไปยังสนามบินนานาชาติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ สนามบินในกัมพูชามีการเดินทางผ่านทางอากาศเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 162 โดยมีผู้โดยสารขาเข้าถึง 3.7 ล้านคน รายงานโดยสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ ซึ่งสถิติสำคัญนี้ บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของอุตสาหกรรมการบินพลเรือนของประเทศที่ในช่วงก่อนหน้าเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501384054/qatar-airways-resumes-phnom-penh-flight/