โครงการจัดหาน้ำจืดมูลค่า 76 ล้านเหรียญสหรัฐ ในมะริด

บริษัท Myeik Public Corporation ดำเนินโครงการจัดหาน้ำจืดมูลค่า 76 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเมืองมะริด เขตตะนาวศรี โดยร่วมมือกับบริษัท Bright Blue Water จากประเทศไทย วัตถุประสงค์หลักคือ เนื่องจากมะริดต้องพึ่งพาบ่อใต้ดินเป็นหลัก น้ำใต้ดินอาจแห้งในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำ โดยได้เลือกแหล่งน้ำจืดสองแห่งจากแม่น้ำตะนาวศรี น้ำจะถูกส่งไปยังหมู่บ้าน Ingamaw ในเมืองมะริด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตน้ำบริสุทธิ์ เมื่อโครงการประสบความสำเร็จสามารถส่งน้ำไปยังโรงงานแปรรูปปลา กุ้ง โรงงานน้ำแข็ง และเรือประมงกว่า 1,000 ลำในมะริด จากการคำนวณโครงการจะมีมูลค่า 2,300 ล้านบาท (ประมาณ 76 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยจะเริ่มภายในหนึ่งปี ตอนนี้ราคาน้ำจืดในเมืองมะริดต่อหน่วยคือ 1,300 จัต

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/76-million-dollars-fresh-water-supply-project-under-way-in-myeik

รัฐบาลเมียนมาตั้งเป้าคุมการค้าผิดกฎหมาย

รัฐบาลจะเพิ่มการกำจัดการค้าที่ผิดกฎหมายโดยการวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ จากการเปิดเผยระหว่างการประชุมคณะกรรมการพัฒนาภาคเอกชนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา การค้าที่ผิดกฎหมายผ่านบริเวณชายแดนมีผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในท้องถิ่น และเพื่อจัดการกับปัญหารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหา จากข้อมูลล่าสุดพบว่าเมียนมาอยู่ในอันดับต่ำสุดของดัชนีสภาพแวดล้อมการค้าโลกผิดกฎหมายในปี 61 จากข้อมูลการนำเข้าพบว่ามูลค่าการค้ารวมของสินค้าอุปโภคบริโภคหกรายการมีมูลค่า 2.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากทั้งหมด 6.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้าผิดกฎหมายส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนของผ่านเส้นทางการค้าชายแดน ศุลกากรและหน่วยงานรัฐฯ ยึดสินค้าที่ลักลอบนำเข้าจากท่าเรือ สนามบิน และชายแดนมูลค่าเกือบ 34.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (25.14 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปีที่แล้วคิดเป็นเพียง 0.4% ของการค้าที่ผิดกฎหมายตัวขับเคลื่อนหลักของการค้าที่ผิดกฎหมายคือ กำไรจากการเลี่ยงภาษี สาเหตุอีกประการหนึ่งคือข้อการจำกัดการนำเข้าสินค้า คณะกรรมการพัฒนาเอกชนได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อควบคุมการนำเข้าที่ผิดกฎหมายในเก้ารัฐและภูมิภาค สามารถป้องกันการลักลอบขนสินค้า 1,065 มูลค่ามูลค่ารวม 15.645 พันล้านจัต จากกันยายน 61 ถึงตุลาคม 62

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/government-sets-sights-curbing-illegal-trade.html

มูลค่าของเถื่อนเมียนมาสูงถึง 1.56 พันล้านจัต

ตั้งแต่ ก.ย. 61 ถึง ต.ค. 62 กระทรวงพาณิชย์ยึดของต้องห้ามมูลค่าประมาณ 15.6 พันล้านจัต ในเก้าภูมิภาค ปัจจุบันรัฐบาลดำเนินการตามแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนของเมียนมา (2561-2573) ประกอบด้วยห้าเสาหลัก เพื่อสันติภาพ หลักนิติธรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน สำหรับการต่อสู้กับยาเสพติด การฟอกเงินและการพัฒนาธุรกิจจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาของภาคเอกชนและ SMEs นอกจากนี้ยังเร่งป้องกันและปราบปรามเสพติดให้สอดคล้องกับกฎหมายต่อต้านยาเสพติด และให้ปลูกพืชทดแทน เช่น ดอกป๊อปปี้ การควบคุมสารเคมีที่ การให้ความรู้และการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย ส่วนการทำหน้าที่ของตำรวจพบว่ามีคดีฟอกเงิน 10 คดีในปี 61 และ 16 คดีในปี 62 ปัจจุบันรัฐบาลได้เพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับการค้าที่ผิดกฎหมาย

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/estimated-ks-156-billion-worth-of-contraband-seized

รายได้ส่งออกสินค้าเกษตรเมียนมาพุ่ง 470 ล้านเหรียญสหรัฐ

จนถึงวันที่ 22 พ.ย.ของปีงบประมาณนี้รายรับจากการส่งออกของภาคเกษตรอยู่ที่ 473.892 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 114.241 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 359.651 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ส่งออกฟาร์มปสุสัตว์ สินค้าทางทะเลเหมืองแร่ ป่าไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ใช้เทคนิค CMP และอื่น ๆ ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณนี้รายรับจากการส่งออกสูงถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 580 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/farm-produce-export-earnings-exceed-470-m

MAI เปิดตัวเที่ยวบินตรงย่างกุ้ง – โซล

Myanmar Airways International (MAI) เปิดตัวเที่ยวบินตรงย่างกุ้ง – โซลในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยจะทำการบินสี่ไฟท์ต่อสัปดาห์ โดย MAI จับมือกับ Meebang Air Agencies เพื่อเข้าสู่ตลาดการบินของเกาหลีใต้ และมีแผนจะเพิ่มเที่ยวบินเพิ่มเติมในภายหลัง ปัจจุบัน MAI มีเที่ยวบินไปกรุงเทพฯ, สิงคโปร์, กวางโจว, กายา และกัลกัตตา อีกทั้งมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปยังประเทศจีนอยู่ในสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ และจะมีเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศลำดับที่ 5 จากมัณฑะเลย์ไปยังฝูโจว ปัจจุบันได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยระดับ 7 ดาวโดย AirlineRatings.com

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/mai-introduce-yangon-seoul-direct-flights

ฮ่องกงลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐสร้างโรงไฟฟ้า LNG 2 แห่งในเมียนมา

รายงานของคณะกรรมการการลงทุนของเมียนมา (MIC) บริษัทพลังงาน CNTIC VPower YGI Limited จากฮ่องกงมีแผนลงทุนกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน LNG ขนาด 400 เมกะวัตต์ในเมืองธาเกตา และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาด 150 เมกะวัตต์ในเมืองเจ้าผิว เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า การลงทุนทั้งหมด 50 ประเทศมีการลงทุนรวม 82 พันล้านเหรียญสหรัฐถึงสิ้นปีงบประมาณ 61-62 โดยฮ่องกงอยู่อันดับที่ 11 จากผู้ลงทุนต่างชาติทั้งหมด มีตัวเลขลงทุน 8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฮ่องกงได้ลงทุน 276.988 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 ต.ค.ปีนี้ทำให้เป็นผู้ลงทุนอันดับต้นๆ จีน ญี่ปุ่น และไทยลงทุน 8.667 ล้านเหรียญสหรัฐ 6.073 ล้านเหรียญสหรัฐและ 0.400 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ ส่วนใหญ่ลงทุนใน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ พลังงาน การผลิต การขนส่งและการสื่อสาร อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการท่องเที่ยว เหมืองแร่ ปศุสัตว์และการประมง การเกษตร การก่อสร้าง และภาคบริการอื่น ๆ โดยภาคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีรายได้จากการลงทุนจากต่างประเทศ 27% รองลงมา ได้แก่ ภาคพลังงาน การผลิต การขนส่งและการสื่อสาร

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/hong-kong-to-invest-500-million-dollars-in-two-lng-power-stations

มูลค่านำเข้าสินค้าทุนใน 2 เดือนแรกสูงกว่า 890 ล้านดอลลาร์

เมียนมานำเข้าสินค้าทุนมูลค่ากว่า 890 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลาประมาณสองเดือนปีงบประมาณนี้เกินกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึง 22 พ.ย.ของปีงบประมาณ 62-63 มูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนถึง 890.210 ล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 833.025 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่า 57.185 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึง 16 พ.ย. มีธุรกิจจากต่างประเทศ 35 แห่งที่ได้รับการอนุมัติเข้ามาลงทุนมูลค่ารวม 496.282 ล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาล่า มีมูลค่าถึง 14.303 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดจำนวน 529.189 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งรวมถึงการลงทุนที่มีอยู่แล้ว เมียนมาคาดจะมีเม็ดเงินการลงทุนรวมกว่า 220,000 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 20 ปี และตั้งเป้าเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางภายในปี 2573

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/capital-goods-import-value-reaches-over-890m-in-about-two-months-this-fy

การสร้างสะพานกว่า 190 แห่งบนถนนเมะทีลา-กะลอ

บริษัท Robust Goal แจ้งว่าการสร้างสะพานกว่า 190 ใน 200 แห่งบนถนนเมะทีลา-กะลอ โดยใช้แรงงานและเครื่องจักรจำนวนมากเพื่อสร้างสะพานที่เหลือให้เสร็จสิ้น บริษัทได้รับอนุญาตให้สร้างถนนเมะทีลา-กะลอ-ตองยี ภายใต้ข้อตกลง 40 ปีกับระบบก่อสร้างแบบ BOT และจะมีพิธีเปิดถนนกะลอ-ตอง ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ถนนยาวประมาณ 500 ไมล์ผ่านเมะทีลา, กะลอ, ตองยี, Hopone, โลเชม, Nantsan, Takaw, เชียงตุง และท่าขี้เหล็ก เหลือเพียงสะพาน 6 จาก 200 ที่สร้างขึ้นในส่วนของถนนและสะพานที่ใหญ่ที่สุดที่เหลือเพื่อสร้างเป็นสะพานยาว 40 เมตรใกล้หมู่บ้านมาเกว ค่าใช้จ่ายของถนนยาวหนึ่งไมล์มีมากกว่า 1.7 พันล้านจัต และหากมีโค้งมากก็จะมีค่าใช้จ่ายขึ้นสูงถึง 2 พันล้านจัตต่อไมล์

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/over-190-bridges-build-in-meiktila-kalaw-road

GrabFood รุกตลาดย่างกุ้ง

บริษัท Grab เครือข่ายการขนส่งเริ่มให้บริการจัดส่งอาหารในย่างกุ้งครอบคุลม 9 เขตเมือง บริการนี้คือ GrabFood โดยเชื่อมโยงกับร้านอาหารชื่อดังหลายแห่งในย่างกุ้ง ซึ่งผู้บริโภครออาหารไม่เกิน 45 นาที และ 30 นาทีในช่วงเวลาปกติ ลูกค้าสามารถใช้บริการ ผ่านแอปพลิเคชัน Grab มีร้านอาหารมากกว่า 20 แห่งจาก 9 เมืองที่เป็นตัวเลือกให้บริการ โดยมีคำสั่งซื้อตั้งแต่ 300 จัต ถึง 60,000 จัต บริการจะครอบคลุม Kamaryut, Dagon, Bahan, Yankin, San Chaung, Latha, Pabedan และ Kyauktada อาหารจะถูกจัดส่งโดยจักรยานโดยได้รับอนุญาตจากรัฐบาลย่างกุ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนร้านอาหารท้องถิ่นและแบรนด์ต่างประเทศที่ให้บริการ เช่น KOI, Lotteria, Gong Cha, Mr.Wok และ Rangoon Teahouse สำหรับ Brand Ambassador ของ GrabFood คือ ไซ ไซ คำ แลง (Sai Sai Kham Leng) ป็อบสตาร์ อันดับหนึ่งของเมียนมา

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/grabfood-offers-food-delivery-services-yangon.html

ราคาเนื้อหมูพุ่งสูงขึ้น ดัชนี CPI พ.ย.

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (Customer Price Index: CPI) ในเดือนพฤศจิกายนของปี 2562 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.96 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว ซึ่งดัชนี CPI พ.ย. 2562 เป็นการขยายตัวที่สูงที่สุด ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา และมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.52 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากราคาเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ทำมาจากเนื้อหมูพุ่งสูงขึ้น เนื่องมาจากผลผลิตที่ลดลง จากการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมูแอฟริกา อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.57 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นับว่าอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.94 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pork-price-pushes-up-november-cpi/164609.vnp