การลงทุนจากต่างประเทศในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา สูงกว่า 1.86 พันล้านเหรียญสหรัฐตลอดปี 62

ปริมาณการลงทุนจาก 19 ประเทศในเขตเศรษฐกิจเศรษฐกิจพิเศษติละวามีมูลค่ามากกว่า 1.86 พันล้านเหรียญสหรัฐจนถึงกันยายน ปี 62 มีธุรกิจที่ลงทุนทั้งหมด 113 ธุรกิจจาก 19 ประเทศที่เข้ามาลงทุน เมื่อแบ่งเป็นรายประเทศพบว่าญี่ปุ่นอยู่ประมาณ 674.488 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็น 36.21% และจำนวนธุรกิจ 37 แห่ง สิงคโปร์อยู่ที่ 650 ล้านเหรียญสหรัฐคิด คิดเป็น 34% จากจำนวนธุรกิจการลงทุน 27 แห่ง ส่วนไทยมีการลงทุน 170 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็น 9% และเกาหลีใต้ 96 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็น 5% ส่วนการลงทุนของมาเลเซีย, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, ปานามา, จีน, บรูไน, เวียดนาม, ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ยังคงต่ำกว่าร้อยละหนึ่ง

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/foreign-investment-volume-in-thilawa-sez-reaches-more-than-us-186-billion-till-2019-september

เส้นทางบินใหม่เชื่อมชายแดนยูนนาน – เมียนมา

ปลายเดือนตุลาคมนี้เที่ยวบินตรงใหม่เชื่อมโยงเมืองข้อนเมืองชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนานของจีนกับย่างกุ้งซึ่งเป็นเมืองหลวงของเมียนมา โดยจะเริ่มวันที่ 27 ตุลาคม กับเที่ยวบิน DR5039 / DR5040 ดำเนินการโดยสายการบิน Ruili Airlines กับเครื่องบินโบอิ้ง 737NG ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ เที่ยวบินออกจากเมืองซ้อน เวลา 9:25 น. (เวลาท้องถิ่น) และกลับจากย่างกุ้งเวลา 10:30 น. (เวลาท้องถิ่น) เส้นทางนี้คาดว่าจะอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ Ruili Airlines ให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ 61 เส้นทางและเส้นทางระหว่างประเทศ 10 เส้นทาง โดยให้บริการเที่ยวบิน 108 เที่ยวบินต่อวันครอบคลุม 39 เมืองในจีน เวียดนาม กัมพูชา ไทย และเมียนมา

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-10/15/c_138473455.htm

ค้าชายแดนเมียนมามูลค่าเกือบ 40 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 61-62

การค้าชายแดนของผู้ค้าชายแดนประเภทบุคคล (ITCs) มีมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านจัต (39.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปีงบประมาณ 61-62 ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ค้าชายแดนประเภทบุคคล (ITCs) 163 แห่งได้รับอนุญาตจากกระทรวงและมีมูลค่ากว่า 9.38 พันล้านจัต (6.25 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 49.6 พันล้านจัต (33.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 61 ถึงวันที่ 30 กันยายน 62 ประตูชายแดนเมียวดีมีการจดทะเบียนการค้าสูงสุดด้วยเงินทุน 32,000 จัต (21.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งแต่ปีงบประมาณ 55-56 กระทรวงได้ออกใบอนุญาตผู้ค้าชายแดนประเภทบุคคลไปแล้ว 1,687 มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 169.2 พันล้านจัต (112.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยทำการค้าชายแดนกับจีน ไทย บังคลาเทศ และอินเดีย ส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์สัตว์ การประมง แร่ธาตุ และผลิตภัณฑ์จากป่าไปยังต่างประเทศ ในขณะที่สินค้าทุนสินค้าขั้นกลางและสินค้าอุปโภคบริโภคจะเป็นการนำเข้าซะส่วนใหญ่

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-10/15/c_138473812.htm

เมียนมาเตรียมสร้างเขตอุตสาหกรรมสิ่งทอในย่างกุ้งและมัณฑะเลย์

กระทรวงที่ดินจัดสรรพื้นที่เพื่อจัดตั้งเขตพิเศษที่สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม โดยร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินโครงการนำร่องสำหรับอุตสาหกรรมและกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งแผนกำลังดำเนินการตามนโยบายสิ่งทอระดับชาติด้วยความช่วยเหลือของ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอของเมียนมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) กระทรวงพาณิชย์นำ NES ไปใช้กับ 11 ภาคส่วน ซึ่งครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มโดยมีการดำเนินการโดย No (3) อุตสาหกรรมหนักภายใต้การจัดตั้งของคณะกรรมการกระทรวงอุตสาหกรรม

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/separate-plots-planned-to-establish-specialized-textile-and-garment-zones-in-yangon-mandalay

อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 17 เดือนติดต่อกัน

จากข้อมูลของ Central Central Organization (CSO) อัตราเงินเฟ้อเมียนมาแตะระดับ 8.53% ช่วง ส.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่ 8.35% ตั้งแต่ เม.ย. 61 ถึงเดือน ส.ค. 62 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 17 เดือน เมื่อเทียบปีต่อปีอยู่ที่ 10.37 เปอร์เซ็นต์ ปลายเดือน ส.ค.เขตมาเกว มีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดที่ 12.57% รองลงมาคือ เขตสะกาย ที่ 10.66% และเชตชิน ที่ 10.07% เขตสะกาย มีอัตราเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงที่เยอะสุดที่ 15.70% ในขณะที่รัฐคะฉิ่นเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดที่ 2.59% ในเดือน พ.ย.62 CSO ได้จัดทำแบบสำรวจครัวเรือนและการบริโภคจำนวน 32,669 ครัวเรือนใน 82 เมืองทั่วประเทศเพื่อคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และอัตราเงินเฟ้อ อดีตอัตราเงินเฟ้อคำนวณโดยใช้ปี 49 เป็นปีฐาน ปัจจุบันใช้ปี 55 เป็นปีฐานในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อ ภายใต้แผนพัฒนาแห่งชาติห้าปีที่สอง (จาก 59-60 ถึง 63-64 ) รัฐบาลได้วางแผนที่จะลดอัตราเงินเฟ้อผ่านนโยบายการเงินการคลังการค้าและนโยบายสกุลเงินต่างประเทศ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/average-inflation-rate-increases-for-17-consecutive-months

จำนวนนักท่องเที่ยวในปีงบประมาณที่ผ่านมา

ปีงบประมาณ 61-62 มีจำนวนนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพื่อทำธุรกิจจำนวน 1,218,891 คนเพิ่มขึ้น 442,843 คน จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 526,248 คน ซึ่งในปี 62 มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 954,929 คน และที่เข้ามาทำธุรกิจ 263,962 คน จากเดือน ม.ค. – ส.ค ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนสูงสุด รองลงมาคือเกาหลี โดยนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 161% และเกาหลีเพิ่มขึ้น 77% จากปัญหาชาวยะไข่ในปี 60 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกลดลงถึง 40% ภายในปี 61 นโยบาย Look East ในปี 61-12 ที่ใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และมาเก๊าและวีซ่าสำหรับพลเมืองจีนที่เดินทางเข้าประเทศโดยเครื่องบิน ซึ่งมีระยะทดลอง 1 ปี หลังจากนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้นจาก 3,443,133 คน ในปี 60 เป็น 3,551,428 ในปี 61 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านชายแดนเป็นอันดับแรกและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศด้วยการยื่นขอวีซ่าเป็นครั้งที่สอง

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/tourist-arrivals-up-last-fy

เนปิดอร์ตั้งเป้าหารายได้จากธุรกิจการจัดประชุม

เนปิดอร์มุ่งเน้นที่จะพัฒนาการจัดประชุม การจัดนิทรรศการและการแข่งขันกีฬาในปี 63 เพื่อสร้างรายได้มากขึ้นให้กับเมืองหลวง สมาคมการท่องเที่ยวแห่งเมียนมาอ้างจากสื่อของรัฐว่า เนปิดอร์มีศักยภาพในการเป็นสถานที่สำหรับการจัดประชุมขนาดใหญ่ การประชุมทางวิชาการหรือวิชาชีพ และการจัดกิจกรรมกีฬา เนปิดอร์มีโรงแรมหลายแห่งและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้ำ สนามกีฬา และสนามกอล์ฟ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการแข่งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ แผนการสำหรับการท่องเที่ยวการกีฬาได้ถูกร่างขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเริ่มในปี 63

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/nay-pyi-taw-targets-convention-business.html

ความเสียหายจากน้ำท่วมในนาข้าวปีนี้ผลกระทบน้อยกว่าปีที่แล้ว

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรปศุสัตว์และการชลประทาน (MOALI) ระบุว่าพื้นที่นาข้าวกว่า 600,000 เอเคอร์ถูกน้ำท่วมขังในช่วงฤดูมรสุมในปีนี้ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 130,000 เอเคอร์หรือ 21% ที่ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ที่เสียหายในปีนี้มีพื้นที่กว่า 30,000 เอเคอร์เหมาะสำหรับการเพาะปลูกในช่วงฤดู จากข้อมูลของ MOALI คาดว่าผลผลิตข้าวในปีนี้จะลดลง 700,000 ตัน  การเพาะปลูกข้าวมากกว่า 70% อยู่ในช่วงฤดูมรสุม ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่พะโคและอิรวดี แต่ความเสียหายของปีนี้น้อยกว่าเมื่อปีที่แล้ว ในปี 61 พื้นที่นาข้าวมากกว่า 1,300,000 เอเคอร์ถูกน้ำท่วมเสียหายกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/less-flood-damage-local-paddy-fields-year-moali.html

ปี 61 – 62 เมียนมาส่งออกข้าวถึง 691 ล้านเหรียญสหรัฐ

เมียนมามีรายรับมากกว่า 691 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกข้าวและข้าวหัก 2.29 ล้านตัน ใน 11 เดือนของปี 61-62 โดย 73% ของการส่งออกทั้งหมดผ่านทางทางทะเล การส่งออกข้าว 1.792 ล้านตันไปยัง 65 ประเทศคิดเป็น 559.894 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังส่งออกข้าวหัก 498,000 ตันไปยัง 41 ประเทศและมีรายได้ 132.139 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้านการส่งออกข้าวไปยังตลาดอียูและแอฟริกาผ่านทางการค้าทางทะเลและจีนผ่านการค้าชายแดนมูเซเป็นหลัก ปริมาณส่งออกข้าวประมาณ 3.6 ล้านทำลายสถิติการส่งออกมากที่สุดในรอบห้าสิบปีเพราะมีการเปิดตลาดใหม่มากขึ้น สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) กำลังจัดการกับปัญหาที่ราคาตลาดที่ต่ำในปีนี้ เกษตรกรกำลังเผชิญกับความลำบากในการมีไซโล ระบบอบแห้งข้าวเปลือกและยานพาหนะที่จะใช้บรรทุกข้าว ก่อนหน้านี้มีเพียง 11 บริษัทที่ส่งออกข้าวไปจีนแต่ปัจจุบันมีมากกว่า 40 บริษัท

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-earns-us691-m-from-rice-export-in-2018-19-fy

เครื่องบิน ATR ลำใหม่ของ MNA

สายการบินประจำชาติแห่งเมียนมา (MNA) ได้รับเครื่องบินซีรี่ส์ใหม่ ATR 72-600 จาก บริษัท ATR ของฝรั่งเศส MNA จำนวน 10 ลำ ประกอบด้วย ATR 72-600 series และเครื่องบิน ATR 72-500 Series โดยเครื่องบินใหม่จะถูกเพิ่มในเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ เครื่องบินดังกล่าวบินมาจากตูลูสประเทศฝรั่งเศสและใช้เวลาสามคืนในสนามบินกรีซ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินเดียก่อนบินไปย่างกุ้ง โดยสายการบินได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อเครื่องบิน ATR 72-600 series จำนวน 6 ลำจาก ได้เปิดศูนย์ซ่อมบำรุงที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้งซึ่งได้รับการยอมรับจากสำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งยุโรป (EASA) ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารวมถึงการตรวจสอบ 8 ปีมีมูลค่าสูงกว่า 700,000 เหรียญสหรัฐสำหรับเครื่องบิน ATR รุ่นปี 2007 และมากกว่า 400,000 เหรียญสหรัฐสำหรับรุ่นปี 2010 ของสิงคโปร์ การบำรุงรักษาของมาเลเซียจะมีราคาสูงกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐสำหรับเครื่องบิน ATR รุ่นปี 2012 ส่วนของเมียนมาจะอยู่ที่ 100,000 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/mna-receives-new-atr-plane