เวียดนามก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนยอดนิยม จาก 140 ประเทศทั่วโลก

กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เผยเวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางของการลงทุนยอดนิยมในหมู่นักลงทุนต่างประเทศกว่า 140 ประเทศทั่วโลก มีจำนวน 33,000 โครงการที่มาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ด้วยเม็ดเงินจดทะเบียน 394 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 แต่ว่าเวียดนามสามารถบรรลุการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ แม้ว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั่วโลก ยังไม่แสดงสัญญาการฟื้นตัวเท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าเวียดนามถือเป็น “ดินแดนที่ปลอดภัย” แก่การไหลเข้าของเม็ดเงินทุนจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกและธุรกิจอีกจำนวน เร่งหาโอกาสทางการลงทุนในเวียดนาม เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวต้องการกระจายห่วงโซ่อุปทาน และลดการพึ่งพาในตลาดจีน

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnam-emerges-as-popular-investment-destination-for-140-countries-31827.html

เวียดนามเผยราคาอาหารพุ่ง ส่งสัญญาภาวะเงินเฟ้อ

นาย Ðỗ Văn Khuôl ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหาบริษัทไซ่ง่อน ฟู้ด กล่าวว่าต้นทุนของปัจจัยการผลิตทั้งมาจากในประเทศและต่างประเทศ ล้วนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงข้าวและอาหารทะเลที่มีผลผลิตลดลง และอีกปัจจัยหนึ่ง การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าและราคาสูงขึ้นราว 10-25% ในไตรมาสที่ 3-4 ปีนี้ ทั้งนี้ นาย Nguyễn Anh Đứ ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัทไซ่ง่อน คอร์ป กล่าวว่าในเดือนเมษายน ซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่แจ้งว่ามีแผนที่จะปรับราคาในเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะน้ำมันสำหรับทำอาหาร นมและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ทางกระทรวงการคลัง ระบุว่าจะดำเนินติดตามราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นและยังเสนอแนวทางแก้ไข เพื่อรักษาเสถียรภาพของอุปสงค์และอุปทานของตลาด หากจำเป็น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/950553/foodstuff-prices-rise-pose-inflation-threat.html

เวิลด์แบงก์ เผยตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเวียดนามอยู่ในระดับที่ดี

ตามรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ประจำเดือนพฤษภาคม 2564 ระบุว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของเวียดนามในเดือนเมษายนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อย่างไรก็ตาม ได้เตือนสัญญาถึงความเสี่ยงหลายด้านต่อเศรษฐกิจเวียดนาม เนื่องจากการระบาดครั้งล่าสุดของโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนเมษายน ทั้งนี้ การผลิตของภาคอุตสาหกรรมยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ขณะที่ การส่งออกมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องจักรที่มีการเติบโตเร็วที่สุด นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังให้ความสำคัญกับความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเวียดนาม ด้วยจำนวนวัคซีน 506,000 โดสในเดือนเมษายน เทียบกับจำนวน 50,000 โดสในช่วงปลายเดือนมีนาคม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/wb-most-of-vietnams-economic-indicators-in-april-good/201631.vnp

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนาม ยังมีเทคโนโลยีในระดับต่ำ

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่าการผลิตและการซื้อขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เติบโตขึ้นอย่างมาก การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิสก์ของเวียดนาม มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 50% นับตั้งแต่ปี 2553-2562 โดยกลุ่มสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือและส่วนประกอบ มีมูลค่าการส่งออกถึง 50.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับปี 62 เหตุจากได้รับปัจจัยเชิงบวกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ ศูนย์ส่งเสริมการส่งออกของสำนักงานการค้าเวียดนาม เผยว่าจากการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของโลก อาทิ สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ทำให้ธุรกิจเวียดนามยกระดับความสามารถการทำธุรกิจผ่านห่วงโซ่อุปทานของบริษัทขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ ยังอยู่ในระดับต่ำ ประมาณ 5-10% ซึ่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดเวียดนามส่วนใหญ่ นำเข้าหรือประกอบในประเทศ จากการใช้ส่วนประกอบที่นำเข้าเป็นส่วนใหญ่

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-electronics-industry-still-low-in-technology-and-value/201568.vnp

เวียดนามเผยเดือนเมษายน ยอดส่งออกข้าว 362 ล้านเหรียญสหรัฐ

ปริมาณการส่งออกข้าวในเดือนเมษายน ประมาณ 700,000 ตัน เป็นมูลค่า 362 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกข้าวรวมทั้งสิ้นในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 1.9 ล้านตัน เป็นมูลค่า 1.01 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 10.8% ในแง่ปริมาณ แต่เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามรายงานของหน่วยงานด้านการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรเวียดนาม เผยว่าฟิลลิปปินส์เป็นตลาดบริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีส่วนแบ่งตลาด 36.3% ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาประเภทของข้าวในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ายอดการส่งออกข้าวขาว คิดเป็น 39.3% ของยอดการค้ารวม รองลงมาข้าวหอมมะลิและข้าวหอม (36%), ข้าวเหนียว (22%) และข้าวประเภทอื่นๆ (3%) นอกจากนี้ ในปี 2564 คาดว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายในหลายพื้นที่ทั่วโลก ส่งผลให้การผลิตอาหารในหลายๆ ประเทศลดลงและความต้องการนำเข้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-earns-362-million-usd-from-rice-exports-in-april/201573.vnp

เวียดนามดึงดูดโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ แม้เผชิญโควิด-19 ระบาด

ตามรายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุน เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เปิดเผยว่าเวียดนามยังคงพยายามอย่างหนักในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยในปี 2563 เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวก (GDP) ถึง 2.91% และคาดว่าในปี 2564 เศรษฐกิจจะโตถึง 6.7% ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีจำนวน 33,000 โครงการที่มาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 394 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าการลงทุนทั่วโลกจะไม่ขยายตัว แต่เวียดนามมียอดการลงทุนจากโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 12 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 24.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : http://dtinews.vn/en/news/018/73882/vietnam-attracts-fdi-projects-amid-covid-19.html

เวียดนามคาดยอดส่งออกปี 64 แตะ 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่ายอดตัวเลขการส่งออกของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าตัวเลขการส่งออกจะมีมูลค่าแตะ 600 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 นาย Tran Thanh Hai รองผู้อำนวยการสำนักงานการค้าต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) กล่าวว่าเวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการรักษาการเติบโตทางการส่งออกในอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ ข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามได้ลงนามไว้ โดยเฉพาะข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับความร่วมมือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก (CPTPP) และความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) สร้างความได้เปรียบแก่ผู้ส่งออกในประเทศและช่วยให้ผู้ประกอบการขยายไปยังตลาดใหม่ๆ นอกจากนี้ กระทรวงมุ่งเน้นไปที่การปฏิรูปสถาบันและการบริหารที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ตลอดจนให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการส่งออก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-eyes-us600-billion-in-export-turnover-in-2021-858058.vov

เวียดนามเผยมูลค่าโมบายอีคอมเมิร์ซ แตะ 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 66

บริษัทวิจัยทางตลาด “Appota” เผยว่าโมบายพาณิชย์ในเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยมูลค่าราว 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 ซึ่งการเติบโตดังกล่าว มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้มาจากธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ในเวียดนาม และในอีกแง่หนึ่ง อัตราการทำธุรกรรมครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือได้รับความนิยมมากกว่าเดสก์ท็อป คิดเป็นสัดส่วน 62% ของการทำธุรกรรมทั้งหมด ทั้งนี้ เมื่อปีก่อน จำนวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในเวียดนาม ทั้งสิ้น 49 ล้านคน ติดอันดับที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย (137 ล้านคน) และฟิลิปปินส์ (57 ล้านคน) สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซและระบบการชำระเงิน ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้และมูลค่าการซื้อในเวียดนาม ตลอดจนยกระดับศักยภาพของตลาดอีคอมเมิร์ซเร็วๆนี้

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-mobile-e-commerce-to-value-us102-billion-by-2023-317335.html

“หอเยอรมัน” เผยผู้ประกอบการชาวเยอรมันเชื่อมั่นเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวปีหน้า

จากการสำรวจของสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเยอรมนี (DIHK) เผยเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ระบุว่าผู้ประกอบการ 46% มองว่ามีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในปีที่แล้ว และ 66% หวังว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในปีนี้ ตามาด้วย 30% เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในปี 2565 “เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนในการปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ในระดับโลกและยังเป็นห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาค” ทั้งนี้ เมื่อถามถึง 10 เดือนข้างหน้า พบว่านักธุรกิจส่วนใหญ่ 55% มองว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดี และ 11% มองว่าแย่ ในขณะเดียวกัน ข้อสังเกตอื่นๆ บริษัทเยอรมัน 47% มั่นใจว่าจะขยายการทำธุรกิจในเวียดนาม และ 50% จะจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นในปีนี้และปีหน้า อย่างไรก็ตาม หอเยอรมัน ระบุเพิ่มเติมว่า เวียดนามยังขาดแรงงานที่มีคุณภาพและความต้องการอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของนักธุรกิจชาวเยอรมันในเวียดนา

ที่มา : http://hanoitimes.vn/german-businesses-expect-vietnam-economic-recovery-by-2022-dihk-317333.html

สมาคมยานยนต์เวียดนามเผยยอดขายในเดือนเมษายน ลดลงเล็กน้อย

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่ายอดขายรถยนต์ในเดือนเมษายน อยู่ที่ 30,065 คัน ลดลง 3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หากแบ่งประเภท พบว่ายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 20,398 คัน ลดลง 3% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ตามมาด้วยยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ 8,887 คัน และรถยนต์ที่ใช้งานเฉพาะทาง 780 คัน ทั้งนี้ ฮุนได (Hyundai) ติดอันดับยอดขายที่ดีที่สุด รองลงมาโตโยต้า เกีย ฟอร์ต มาสด้าและฮอนด้า เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vama-members-see-slight-fall-in-april-car-sales/201393.vnp