GMAC แนะนำให้สมาชิกเข้าร่วม REX

สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศกัมพูชา (GMAC) ขอให้สมาชิกเข้าร่วมระบบรับรองตนเองของผู้ส่งออก (REX) ของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นรูปแบบของการรับรองตนเองที่อนุญาตให้บริษัทส่งออกที่ไม่มีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าก่อนสิ้นปีที่สหภาพยุโรปจะหยุดรับใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์ โดยระบบ REX จะอนุญาตให้บริษัทจัดส่งสินค้าไปต่างประเทศโดยใช่คำสั่งต้นทาง “Form A” ของหนังสือรับรองแหล่งกำเนิด ซึ่งเมื่อเข้าร่วมระบบบริษัทต่างๆจะกลายเป็น “ผู้ส่งออกที่ลงทะเบียน” ซึ่งทำให้สามารถออกหลักฐานแสดงแหล่งกำเนิดสินค้าของตนเองได้ โดยตั้งแต่ปีที่แล้วกระทรวงพาณิชย์และ GMAC ได้ขอให้ผู้ส่งออกเข้าร่วมระบบซ้ำหลายครั้ง ซึ่งเมื่อถึงกำหนดเวลาทางฝั่ง EU จะไม่รับใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์อีกต่อไป เป็นเพราะต้องการให้ผู้ส่งออกทุกรายใช้ระบบ REX เพื่อให้สามารถแหล่งกำเนิดของสินค้าภายใต้มาตรฐานเดียวกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50652812/gmac-urges-members-to-join-rex/

ตุรกีช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลในกัมพูชา

ตุรกีได้ตกลงที่จะช่วยให้กัมพูชาพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลที่พึ่งเริ่มเข้ามาในประเทศ ในระหว่างการเยือนอังการาที่ประเทศตุรกี โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาขอความช่วยเหลือจากตุรกีในการปรับปรุงคุณภาพของอาหารฮาลาลในกัมพูชาและเผยแพร่ความตระหนักในหมู่ชาวกัมพูชา ซึ่งอาหารฮาลาลในกัมพูชายังคงเป็นสิ่งใหม่ โดยต้องการการสนับสนุนและความช่วยเหลือด้านเทคนิคของตุรกีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับข้อกำหนดและการรับรองด้านสุขอนามัย ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศเห็นด้วยที่จะกระชับความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ โดยมีโอกาสมากมายสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมฮาลาลของกัมพูชา ที่มีทั้งวัตถุดิบอยู่มากและบางประเทศมีความสนใจในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50652813/turkey-to-help-develop-cambodias-halal-industry/

NBC soft ของกัมพูชาเปิดตัวระบบการชำระเงินระหว่างธนาคาร

ธนาคารแห่งชาติของกัมพูชา (NBC) ประกาศเปิดตัวบริการชำระเงินระหว่างธนาคารแบบใหม่โดยร่วมมือกับธนาคารในประเทศและสถาบันการเงินรายย่อยหลายแห่ง โดยระบบการชำระเงินแบบใหม่ถูกเรียกว่า “ระบบการชำระเงินค้าปลีก” เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมในส่วนของการปรับปรุงธุรกรรมระหว่างธนาคารและทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ซึ่งธนาคารกลางกล่าวว่าโซลูชั่นใหม่ประกอบด้วยระบบการชำระเงินสามระบบได้แก่ ระบบการโอนเงินแบบเรียลไทม์ (RFT), ระบบชำระเงินมือถือ (MPS) และระบบชำระเงิน QR-code (QPS) จนถึงตอนนี้ NBC ได้ร่วมมือกับ Prasac Microfinance, Acleda Bank, Post Bank, Vattanac Bank, Canadia Bank, Kookmin Bank และ Phnom Penh Commercial Bank โดยระบบชำระเงินค้าปลีกหลักของ NBC เชื่อมโยงธนาคารเหล่านี้ทั้งหมดทำให้ลูกค้าสามารถโอนเงินโดยใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งก่อนหน้านี้จะต้องทำธุรกรรมที่เคาน์เตอร์ธนาคาร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651770/nbc-soft-launches-interbank-retail-payment-system/

กัมพูชารวมอยู่ใน 20 อันดับแรกของจุดหมายปลายทางสำหรับปี 2563

เป็นปีที่ดีสำหรับกัมพูชาและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังจากกัมพูชาเห็นความสามารถในการแข่งขันของการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยการจัดอันดับของกัมพูชาในดัชนีความสามารถในการแข่งขันการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยว (TTCI) อยู่ในลำดับที่ 98 จากทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกัมพูชาถูกรวมอยู่ในรายชื่อของ 20 ประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในปี 2020 โดย Conde Nast Traveller หนึ่งในนิตยสารไลฟ์สไตล์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งจัดอันดับตามการตอบสนองของผู้อ่านมากกว่า 600,000 คน ที่ถูกขอให้จัดอันดับทั้งประเทศ โรงแรม เส้นทางเดินเรือ เมือง และรีสอร์ตทั่วโลก โดยรางวัลล่าสุดนี้ชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ว่าประเทศกัมพูชากำลังดำเนินการเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการนำเสนอสิ่งที่หลากหลายไปสู่โลกภายนอกที่กำลังก้าวไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งกัมพูชามีนักท่องเที่ยวเดินมาถึง 6.2 ล้านคนในปี 2561 และคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยือน 6.7 ล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651827/cambodia-included-in-top-20-destinations-for-2020/

กัมพูชาส่งเสริมการค้าทวิภาคีกับเวียดนามโดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน

รัฐบาลกัมพูชามีความพยายามที่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศรวมถึงการแก้ไขและดำเนินการตามแผนเพื่อผลักดันโครงการทางด่วน พนมเปญ-เบเวต ซึ่งคาดว่าจะเป็นการกระตุ้นธุรกิจการลงทุนและการค้ากับเวียดนาม โดยนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาสั่งให้สถาบันที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในกัมพูชาทบทวนการศึกษาความเป็นไปได้และกำหนดแผนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านธุรกิจและการขนส่งที่ชายแดนกับเวียดนาม ซึ่งเชื่อว่าจะมีการขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากเวียดนามไปยังกัมพูชาโดยตรง โดยการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการดำเนินการโดยหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งจะมีมูลค่าของโครงการอยู่ที่ 3.8 พันล้านเหรียญ โดยมีความยาวอยู่ที่ 160 กิโลเมตรที่เชื่อมต่อพนมเปญและบาเวต ซึ่งการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 2560 และเติบโตอย่างรวดเร็วที่ระดับ 2.72 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงหกเดือนแรกของปี 2562 และคาดว่าจะสูงถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651252/cambodia-boosts-bilateral-trade-with-vietnam-by-improving-infrastructure/

ปริมาณการขนส่งสินค้าในกัมพูชาเพิ่มขึ้น 18% ที่ PAS

ปริมาณการขนส่งสินค้าที่ Sihanoukville Autonomous Port (PAS) ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของประเทศเพิ่มขึ้น 18% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยประธานสมาคมผู้ขนส่งสินค้ากัมพูชา (CAMFFA) กล่าวว่าการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสิ่งทอและสินค้าเกษตร ซึ่งสังเกตว่าการเติบโตในภาคการขนส่งเป็นผลมาจากประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของกัมพูชา โดยการนำเข้าและส่งออกของกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 70% ได้ทำการส่งผ่านท่าเรือและกำลังทำการก่อสร้างพื้นที่แห่งใหม่ด้วยการลงทุนประมาณ 203 ล้านเหรียญสหรัฐที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2566 จะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ของท่าเรือเป็น 900,000 TEUs ต่อปี ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านสัญญาเงินกู้ช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) โดยลงนามกับรัฐบาลกัมพูชาไว้ในปี 2560 ซึ่งในปี 2561 มีจำนวน 541,288 TEUs ผ่าน PAS ซึ่งเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในปี 2563 คาดว่าปริมาณของตู้สินค้าที่ผ่านท่าเรือจะเกินกว่า 700,000 TEUs

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651165/cargo-traffic-up-18-pct-at-pas-ceo/

เปิดตัวหอการค้าจีนในสีหนุวิลล์

หอการค้าแห่งใหม่ของจีนเปิดทำการในเมืองสีหนุวิลล์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยหอการค้าแห่งใหม่ของจีนตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) นำโดย Chen Jiangang ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานของหอการค้าจีน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพกล่าวยกย่องการเคลื่อนไหวของจีนในครั้งนี้และเชื่อว่าจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศและส่งเสริมการลงทุนของจีนในพื้นที่ชายฝั่งของกัมพูชามากขึ้น ซึ่งหอการค้าจีนจะมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและส่งเสริมกัมพูชาให้กับนักลงทุนจีนที่สนใจที่จะลงทุนในกัมพูชา โดยจีนยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในกัมพูชาตามรายงานล่าสุดจากสภาเพื่อการพัฒนาประเทศกัมพูชา ซึ่งจีนถือเป็นยักษ์ใหญ่ในเอเชียตะวันออกลงทุนไปกว่า 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมคิดเป็นกว่า 35% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50651144/china-chamber-of-commerce-opens-in-sihanoukville/

ปตท.สนใจส่งออกน้ำมันดิบของกัมพูชาในอนาคต

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แสดงความสนใจในการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศกัมพูชา โดยอธิบดีกรมปิโตรเลียมของกัมพูชากล่าวว่าบริษัทมีความกระตือรือร้นที่จะส่งออกน้ำมันดิบของกัมพูชา ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจาเบื้องต้นกับกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน โดยปตท.อาจจะทำการหารือกับ บริษัท KrisEnergy เผื่อในอนาคตอาจจะได้ร่วมงานกันหลังจาก KrisEnergy เริ่มสกัดน้ำมันดิบจากแหล่งน้ำมัน Apsara เป็นครั้งแรก ซึ่ง KrisEnergy เป็นบริษัทจากทางประเทศสิงคโปร์ทำการสำรวจน้ำมันและก๊าซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำลังพัฒนา Block A ในบ่อน้ำมัน Apsara และคาดว่าจะมีการสกัดน้ำมันดิบครั้งแรกในปลายปีนี้หรือต้นปี 2563 ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเหมืองแร่และพลังงานพบกับตัวแทนของปตท.ที่กรุงพนมเปญและได้หารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงานและการพัฒนาน้ำมันของกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามน้ำมันดิบจะไม่ถูกกลั่นในประเทศและจะถูกขายในรูปแบบของน้ำมันดิบเท่านั้นเนื่องจากกัมพูชาขาดสิ่งอำนวยความสพดวกในการผลิต โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชานำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 2.5 ล้านตันเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50650625/ptt-keen-to-export-cambodian-crude-in-future/

การลงทุนในกัมพูชาพุ่งสูงขึ้นในปีนี้

สภาเพื่อการพัฒนาของกัมพูชา (CDC) ประกาศว่าได้อนุมัติโครงการลงทุนไปกว่า 831 โครงการด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 22.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ปี 2559 ถึงสิงหาคม 2562 ตามรายงานล่าสุด โดยรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีมีการอนุมัติโครงการลงทุนกว่า 222 โครงการมูลค่ารวม 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจำนวนโครงการการลงทุนและมูลค่าการลงทุนยังคงเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในทางตรงกันข้ามการลงทุนในภาคเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานกลับชะลอตัวลง ซึ่งจีนก็ยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในกัมพูชาซึ่งคิดเป็น 56% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมด ในช่วงแปดเดือนแรกของปีลงทุนไปกว่า 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (35% ของการลงทุนทั้งหมด) ตามด้วยญี่ปุ่น (7.8%), เวียดนาม (2.9%), สิงคโปร์ (1.8 %), เกาหลีใต้ (1.7%), มาเลเซีย ( 1.36%) และประเทศไทย (0.9%)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50650679/cdc-approves-6bln-in-investment-projects-in-first-eight-months-of-the-year/

WEF : เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีความสามารถในการแข่งขันเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก

จากรายงานของเวิร์ล อีโคโนมิกส์ ฟอร์ม (World Economic Form : 2019) เปิดเผยว่าดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก ซึ่งกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกเป็นภูมิภาคทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ ด้วยคะแนนสารสนเทศมากที่สุด โดยประเทศสิงคโปร์ขึ้นแท่นเป็นอันดับที่ 1 ของโลก เป็นประเทศที่ได้คะแนนสูงที่สุด (84.8/100) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านความมั่งคงในเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน และประสิทธิภาพของตลาด เป็นต้น ทางด้านข้อมูลของประเทศเวียดนามที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดสูงที่สุดในโลก ทำให้อันดับขยับเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 อันดับ มาขึ้นเป็นอยู่ในอันดับที่ 67 ของโลกในปีนี้ เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น ประเทศกัมพูชา (อันดับ 106) สปป.ลาว (อันดับ 113) ซึ่งการขาดดุลการค้าระหว่างประเทศมีนับสำคัญต่อการจัดอันดับข้างต้น

ที่มา :  https://vietnamnews.vn/economy/536849/wef-east-asia-pacific-the-worlds-most-competitive-regional-economy.html#voVbdo0if7cB2tIC.97