ตลาดผลไม้มัณฑะเลย์ขายแอปเปิลจีนดีกว่าแอปเปิลไทย เหตุจากราคาที่ต่างกัน

แอปเปิลนำเข้าจากจีนหรือที่เรียกว่า panlonethee ขายได้ดีในตลาดผลไม้มัณฑะเลย์ เมื่อเทียบกับแอปเปิลนำเข้าจากไทย เนื่องจากราคาต่างกันมาก เฉพาะผู้ที่มีกำลังซื้อเท่านั้นจึงจะสามารถบริโภคแอปเปิลจากไทยได้ และการค้าขายแอปเปิลจากจีนก็ดีขึ้นในปีที่แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ดี แอปเปิลจีน มีการบริโภคสูงและมีราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ทุกชนชั้น นอกจากนี้ แอปเปิลไทย เนื่องจากมีราคาแพง จึงมีผู้ค้าเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่สามารถขายผลไม้นำเข้าจากไทยในเมืองมัณฑะเลย์ได้ และตลาดผลไม้ส่วนใหญ่พึ่งพาผลไม้นำเข้าจากจีนและผลไม้พันธุ์พื้นเมืองเป็นหลัก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/chinese-apples-sell-better-than-thailand-apples-in-mandalay-fruits-market-due-to-price-gap/

ภูมิภาคพะโคจะปลูกกาแฟโรบัสต้า 1,000 เอเคอร์

รัฐบาลภูมิภาคพะโคได้กำหนดพื้นที่ปลูกกาแฟโรบัสต้า 1,000 เอเคอร์ โดยบริษัท The Light House ซึ่งตั้งอยู่ในตำบล Yedashe อำเภอ Toungoo ภูมิภาคพะโค ที่ทำการรับซื้อเมล็ดกาแฟในท้องถิ่นและส่งออกผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีมูลค่าเพิ่ม อย่าไรก็ดี ธุรกิจในกลุ่มผู้ประกอบการด้านป่าไม้จะเพิ่มรายได้ด้วยการปลูกกาแฟโรบัสต้า กาแฟของเมียนมาได้รับชื่อเสียงที่ดีในตลาดกาแฟโลกแล้ว และกำลังพยายามขยายการเพาะปลูกและการส่งออกให้เป็นพืชที่มีมูลค่าเพิ่มที่จำเป็น นอกจากนี้ ยังส่งผลให้รายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากการปลูกกาแฟโดยรักษาคุณภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ความชื้น และแสงแดด ความทนทานต่อสภาพอากาศและศัตรูพืช ซึ่งให้ผลผลิตถึง 2.82 ตันต่อเอเคอร์ ทั้งนี้ กาแฟโรบัสต้าพันธุ์ที่ปลูกในพื้นที่ราบซึ่งมีมูลค่าในตลาดโลกนั้นเหมาะสำหรับการปลูกในระดับความสูงไม่เกิน 2,500 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล และต้องการปริมาณน้ำฝนระหว่าง 60 ถึง 100 นิ้ว เมียนมาสามารถผลิตกาแฟได้ที่ประมาณ 7,000 ตันต่อปี โดยครึ่งหนึ่งของผลผลิตส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย และจีน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/bago-region-to-grow-1000-acres-of-robusta-coffee/

สปป.ลาว ผ่อนปรนข้อจำกัดด้านวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับช่วงที่เหลือของปี 67

รัฐบาล สปป.ลาว อนุมัติให้นักท่องเที่ยวจากบางประเทศสามารถเข้าประเทศลาวได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า และยังได้เพิ่มจำนวนวันที่นักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้สามารถอยู่ในลาวได้มากขึ้นอีกด้วย การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีท่องเที่ยวลาว 2024 โดยกฎระเบียบใหม่นี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมถึง 31 ธันวาคม 2567 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมทั้งผู้ถือหนังสือเดินทางที่ออกฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน และที่เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจทัวร์ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าประเทศลาวโดยใช้บัตรผ่านแดนหรือบัตรผ่านแดนชั่วคราว และสามารถอยู่ในประเทศลาวได้นานถึง 10 วัน จากปกติ 3 วัน และสามารถเดินทางไปยัง 3 จังหวัดที่อยู่ติดกัน โดยต้องออกจากประเทศลาว ณ ทางเข้าประเทศ และต้องใช้บริการของบริษัททัวร์ลาวที่จดทะเบียนกับกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวด้วยเงื่อนไขเดียวกันนี้ใช้กับชาวเวียดนามที่เข้าประเทศลาวด้วยบัตรผ่านแดนหรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวตามข้อตกลงทวิภาคี 15 วัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_124_govteases_y24.php

กัมพูชาเร่งผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในประเทศ

กัมพูชาเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้พลังงานสะอาดเป็นทางเลือกด้านการลงทุนที่ดี โดยปัจจุบันพลังงานสะอาดคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 62 ของกำลังการผลิตพลังงานทั้งหมดของกัมพูชา ซึ่งทางการยังคงผลักดันให้มีการใช้พลังงานสะอาดในโครงข่ายมากขึ้น กล่าวโดย Keo Rattanak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน สำหรับการผลักดันนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงาน (PDP) ประจำปี 2022-2040 ของกัมพูชา โดยให้ความสำคัญกับการขยายแหล่งพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาสามารถผลิตพลังงานได้ประมาณ 4,000 เมกะวัตต์ต่อปี แต่การบริโภคต่อปีอยู่ที่ประมาณ 2,400 เมกะวัตต์เท่านั้น ดังนั้น กัมพูชาจึงกำลังพิจารณาส่งออกพลังงานไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคในอนาคต ตามที่กระทรวงฯ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501515050/cambodia-steps-up-renewable-energy-push/

กัมพูชาจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว

ตามแถลงการณ์ของกระทรวงการท่องเที่ยวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) กัมพูชาได้เปิดตัวคณะกรรมการการตลาดและส่งเสริมการท่องเที่ยวกัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวสู่ตลาดโลก ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว Sok Soken ร่วมกับคณะกรรมการการตลาดและส่งเสริมการท่องเที่ยวกัมพูชา (CTB) ประกอบด้วยตัวแทนจากสถาบันสาธารณะ 8 แห่ง และภาคเอกชน 7 แห่ง ที่มีบทบาทสำคัญในภาคการท่องเที่ยว โดยกำหนดแนวทางการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะส่งเสริมให้การท่องเที่ยวกัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวและเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของกัมพูชาต่อไป ขณะที่ข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยว ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 2.11 ล้านคน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2024 เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 22 จากจำนวน 1.72 ล้านคน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติสำคัญ 3 อันดับ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501515189/cambodia-launches-tourism-marketing-promotion-board/

‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวครึ่งปีแรก 67 ทะลุ 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกข้าวในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 4.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และมูลค่า 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 32%YoY ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวของเวียดนามในชวงครึ่งปีแรก พบว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าว 3.48 ล้านเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.5%YoY และผลผลิตข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7 ตันต่อเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.7 ตันต่อเฮกตาร์ ส่งผลให้ผลผลิตรวมอยู่ที่ 23.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.6%YoY ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ 670 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศกัมพูชาและอินเดีย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-earns-298-billion-usd-from-rice-exports-in-h1-post289412.vnp

‘เวียดนาม’ ลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 8% จนถึงสิ้นปีนี้

รัฐบาลเวียดนาม อนุมัติพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้าและบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. ตามมติ 142/2024/QH15 ที่สภาแห่งชาติรับรอง โดยการลดภาษีมูลค่าเพิ่มจะไม่สามารถใช้ได้รับการให้บริการและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ โทรคมนาคม การเงินการธนาคาร การรักษาความปลอดภัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ก.ค. จะมีการลดค่าธรรมเนียมต่างๆ จนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อจัดการปัญหาคอขวดของธุรกิจและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามกรอบของกระทรวงการคลัง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-cuts-vat-to-8-till-year-end-post289405.vnp

เกาหลีใต้เล็งเจาะตลาดพลังงานไฟฟ้าใน สปป.ลาว

เกาหลีใต้แสดงความสนใจขยายการลงทุนใน สปป.ลาว และแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิคพลังงานไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย จึงได้จัดงานสำคัญที่มีชื่อว่า “สัมมนาพลังงานไฟฟ้าลาว-เกาหลี” และการประชุมจับคู่ธุรกิจที่มีชื่อว่า การประชุมคณะผู้แทนการค้าอุปกรณ์และอุปกรณ์ไฟฟ้าปี 2024 ที่มีผู้ร่วมจับคู่ธุรกิจระหว่างบริษัทชั้นนำของเกาหลีใต้ 10 แห่ง และบริษัทของ สปป.ลาว 20 แห่ง และร่วมจัดแสดงสินค้าและนวัตกรรม เช่น อุปกรณ์กราวด์แบบกะทัดรัด, รีโคลเซอร์แบบหุ้มฉนวนโพลีเมอร์, สวิตช์บอร์ดแบบปิด, แผงจ่ายไฟ, สวิตช์เกียร์, เบรกเกอร์แบบหล่อ, ระบบจัดการพลังงาน, สวิตช์เกียร์หุ้มฉนวนก๊าซที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, หม้อแปลงเฟสขั้ว และเครื่องปฏิกรณ์แบบซีรีส์ โดยงานนี้จัดขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์หลัก คือ การเร่งความร่วมมือและส่งเสริมความร่วมมือที่มั่นคงในภาคส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว และเกาหลีใต้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_123_S_Korea_eyes_y24.php

กัมพูชาจ่อสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีต่อไป

รัฐบาลกัมพูชา (RGC) มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีต่อไป และพร้อมที่จะเจรจาการปฏิรูปใดๆ ที่จะทำให้ระบบมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามคำกล่าวของ Sok Sopheak ปลัดกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ซึ่งได้ย้ำถึงจุดยืนระหว่างการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปี ของกัมพูชาในฐานะสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่จัดขึ้น ณ เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนความช่วยเหลือด้านการค้าระดับโลกครั้งที่ 9 ในโอกาสสำคัญครั้งนี้ Sok Sopheak ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของกัมพูชาในเศรษฐกิจโลก โดยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงโครงสร้างเป็นผลโดยตรงจากการที่กัมพูชาผนวกตนเองเข้าไปในระบบการค้าพหุภาคีขององค์การการค้าโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501514640/cambodia-to-continue-supporting-multilateral-trading-system/

BYD วางแผนเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในกัมพูชา

นายกฯ ฮุน มานิต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่า บริษัท BYD ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีนชั้นนำระดับโลก มีแผนที่จะเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในกัมพูชา โดยนายกฯ ได้กล่าวไว้ในระหว่างการเป็นประธานในงานจัดเลี้ยงสมาคมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และหัตถกรรม (MSMEs) ของกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องในโอกาส MSME DAY ครั้งที่ 1 ซึ่งการประกาศนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับกัมพูชา ในขณะเดียวกันนายกฯ ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของภาคเอกชน โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดเล็ก ต่อการพัฒนาประเทศ สำหรับปัจจุบันมีโรงงานประกอบรถยนต์ในกัมพูชาอย่างน้อย 6 แห่ง ได้แก่ Daehan Auto ผู้ผลิต Ssangyong, RMA Automotive ผู้ผลิต Ford, Camko Motor ผู้ผลิต Hyundai, HGB Motors Assembly ผู้ผลิต Kia, GTV Motor ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ท้องถิ่น GTV, Toyota Tsusho Manufacturing (Cambodia) ผู้ผลิต Fortuner และ Hilux ขณะเดียวกันตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2024 กัมพูชาได้มีการนำเข้ารถยนต์มูลค่าประมาณ 385 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501513833/byd-intends-to-open-automotive-assembly-factory-in-cambodia/