CIB อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 11 โครงการ ด้วยมูลค่า 57.3 ล้านดอลลาร์

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกัมพูชา (CIB) หน่วยงานร่วมสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติข้อเสนอการลงทุนใหม่ 11 บริษัท โดยคาดว่าจะสร้างงานใหม่ให้กับคนในท้องถิ่นเกือบ 11,000 ตำแหน่ง ด้วยการลงทุนรวม 57.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัท 9 แห่ง อยู่ในภาคการผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเดินทาง (GFT) โดยจากข้อมูลของ CDC ในปีที่แล้ว CDC ได้อนุมัติโครงการลงทุนมูลค่ากว่า 4.68 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 คิดเป็นโครงการลงทุนจากบริษัทในท้องถิ่นที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 57 ของการลงทุนทั้งหมด ขณะที่ได้ออกใบรับรองการลงทะเบียนขั้นสุดท้ายสำหรับโครงการลงทุนใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 49 ขณะเดียวกันโครงการลงทุนที่ลงทะเบียนใน SEZ กลับลดลงกว่าร้อยละ 39 มาอยู่ที่มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการลงทุนจากต่างประเทศส่วนใหญ่ที่เข้ามายังกัมพูชา ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น หมู่เกาะเคย์แมน สิงคโปร์ เกาหลี หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มาเลเซีย และออสเตรเลีย เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501237969/57-3m-worth-projects-cleared-to-generate-11000-new-jobs/

ม.ค. 2023 การค้าระหว่างประเทศกัมพูชา หดตัว 29%

การค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาลดลงร้อยละ 29 ในช่วงเดือนมกราคม 2023 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) โดยคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ลดลงร้อยละ 14 ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาก็ลดลงเช่นเดียวกันที่ร้อยละ 37.5 คิดเป็นมูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของกัมพูชาด้วยมูลค่าการส่งออกรวม 562 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 37 ของยอดการส่งออกทั้งหมด ลดลงร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาส่วนใหญ่ได้ทำการนำเข้าจากจีนที่มูลค่า 891 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501238161/cambodias-foreign-trade-declines-29-in-january/

กัมพูชาส่งออกข้าวสารปริมาณ 3.69 หมื่นตัน ในช่วงเดือนแรกของปี 2023

ในเดือนมกราคม 2023 เพียงเดือนเดียว กัมพูชาส่งออกข้าวสารไปแล้วประมาณกว่า 3.69 หมื่นตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า 28.83 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ซึ่งถูกส่งออกไปยัง 34 ปลายทางต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปที่จำนวนกว่า 1.78 หมื่นตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 48 ของการส่งออกข้าวสารทั้งหมด ขณะที่จีน (รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า) ตามมาเป็นอันดับสองโดยได้ทำการนำเข้าข้าวสารจากกัมพูชาจำนวน 1.50 หมื่นตันหรือร้อยละ 41 ของการส่งออก สำหรับพันธุ์ข้าวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวหอมมะลิพรีเมียม (Malys Angkor) จำนวน 2.28 หมื่นตัน, Sen Kra Ob จำนวน 9,359 ตัน, ข้าวขาวพรีเมียม 1,721 ตัน, ข้าวนึ่ง 1,867 ตัน และข้าวสีออร์แกนิค 1,144 ตัน นอกจากนี้ กัมพูชายังได้ทำการซื้อขายข้าวเปลือกกับประเทศเพื่อนบ้านจำนวนรวมกว่า 2.52 แสนตัน คิดเป็นมูลค่ารวมของการส่งออกข้าวสารและข้าวเปลือกในเดือนมกราคม 2023 รวมกว่า 92 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501237755/cambodia-exports-36900-tonnes-milled-rice-in-first-month/

2022 กัมพูชาส่งออกไปยังสหรัฐฯ มูลค่ารวมกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์

การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐอเมริกายังคงแข็งแกร่งในปีที่แล้ว แม้ระบบสิทธิพิเศษทั่วไปทางภาษี (GSP) ของสหรัฐฯ ที่มอบให้กับประเทศที่พัฒนาน้อย (LDCs) จะยังไม่ได้ต่ออายุ ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวมกว่า 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์ ไปยังสหรัฐฯ ในปี 2022 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าสินค้าของกัมพูชามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 450 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกัมพูชาเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่ 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์ รายงานโดยสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าสำเร็จรูป รวมถึงสินค้าต่างๆ เช่น รองเท้า จักรยาน และเฟอร์นิเจอร์ภายใต้สิทธิพิเศษทางการค้า GSP ขณะที่สินค้านำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ ได้แก่ รถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501237385/cambodias-export-to-us-tops-12b-last-year/

“OpenAI” เปิดให้บริการ ChatGPT Plus ในเวียดนาม คิดค่าบริการ 20 เหรียญสหรัฐต่อเดือน

ChatGPT ได้รับการพัฒนาโดย OpenAI ในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่นำโดยแซม อัลต์แมน (Sam Altman) และยังได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft โดยเฉพาะ ChatGPT ที่พึ่งมีการอัพเดตเวอร์ชั่น ‘ChatGPT Plus’ ได้เสนอแผนการเก็บค่าสมาชิกและการปรับปรุงบางอย่าง โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงการใช้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วน ไม่มีความแออัดและตอบสนองที่เร็วขึ้น ทั้งนี้ ล่าสุด มีการประกาศจาก OpenAI ออกมาแล้วว่า ‘ChatGPT Plus’ เตรียมให้บริการในเวียดนาม ซึ่งคิดค่าบริการสมาชิกต่อเดือน 20 ดอลลาร์สหรัฐ โดยบริการสมัครสมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ การจัดลำดับความสำคัญในการใช้งาน เมื่อมีการเข้าถึงแอปพลิเคชันจำนวนมาก การใช้บริการที่เร็วขึ้น ตลอดจนการเข้าถึงฟิเจอร์ใหม่และผู้ใช้สามารถชำระเงิน ‘ChatGPT Plus’ ด้วยบัตรเดบิตระหว่างประเทศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/openai-company-to-sell-chatgpt-plus-in-vietnam-for-us-20-per-month-2109526.html

การผลิตภาคอุตสาหกรรมเวียดนาม เดือน ม.ค. ลดลงฮวบ ช่วงเทศกาลเต็ด

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (IIP) ของเวียดนาม ในเดือน ม.ค. 2566 ลดลง 14.6% จากเดือนก่อน และ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุที่ดัขนีฯ ปรับตัวลดลง เนื่องมาจากตรงกับช่วงเทศกาลเต๊ด (Tet) และธุรกิจอุตสาหกรรมประสบปัญหาจากยอดคำสั่งซื้อที่ลดลง โดยผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำคัญที่มีการลดลงของดัชนี IIP ในเดือน ม.ค. ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ลดลง 33%, รถจักรยานยนต์ (32%), รถยนต์ (32%), เหล็กเส้นและน้ำตาล (29%) และโทรทัศน์ (24%) ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมสำคัญที่ลดลงอย่างมากในเดือน ม.ค. ได้แก่ การขนส่ง ลดลง 27%, การผลิตยานยนต์ (24%), การผลิตเครื่องแต่งกาย (21%), อุปกรณ์ไฟฟ้า (19%) และการผลิตโลหะ (15%)

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1482791/industrial-production-plunges-in-january-over-tet-holiday.html

รอบ 9 เดือน ของปีงบฯ 65-66 เมียนมาส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม โกยเงินเข้าประเทศกว่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ในช่วง 9 เดือนของปีงบประมาณ 2565-2566 (วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566) เมียนมามีรายได้จากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ทะลุ 9.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการส่งออกจากภาคเอกชน 6.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นการส่งออกของภาครัฐ 3.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 2.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ในบรรดาสินค้าอุตสาหกรรมของเมียนมาที่ทำการส่งออก พบว่า เสื้อผ้าสำเร็จรูปครองอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ น้ำตาล อัญมณี และก๊าซธรรมชาติ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/over-us9-bln-earned-from-export-of-finished-industrial-goods-abroad-within-nine-months/#article-title

นายกฯ ฮุนเซน ของกัมพูชา เดินทางเยือน สปป.ลาว เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมด้วยคณะผู้แทนระดับสูงของประเทศ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติวัดไตในเวียงจันทน์ ซึ่งมีกำหนดการเยือนสปป.ลาว ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีนาย Alounxay Sounnalath รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีให้การต้อนรับ ซึ่งในการเยือนสปป.ลาว ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ยาวนานระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ สปป.ลาวและกัมพูชาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตมาตั้งแต่ปี 2499 และในปี 2562 ได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมการพัฒนาในทุกมิติของทั้ง 2 ประเทศ

ที่มา: https://kpl.gov.la/En/detail.aspx?id=71435

กรมการค้าต่างประเทศเตือน ระวังสินค้าเสี่ยงสวมสิทธิ์ไทย

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ปรับปรุงแก้ไขบัญชีสินค้าเฝ้าระวัง หรือสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงที่จะแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าจากไทยส่งออกไปสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มเติมอีก 8 รายการ รวมเป็น 48 รายการ เพื่อให้สอดคล้องกับรายการสินค้าที่สหรัฐฯ และอียูได้ตรวจสอบ รวมถึงป้องกันประเทศอื่นสวมสิทธิ์ไทยส่งออก โดยสินค้า 8 รายการเป็นสินค้าเฝ้าระวังส่งออกไปสหรัฐฯ 6 รายการ คือ 1.พื้นไม้อัด 2.ผ้าแคนวาส 3.เหล็กลวดคาร์บอน 4.ท่อเหล็กคาร์บอน 5.ตะปูเหล็ก 6.ลวดเย็บกระดาษ และส่งออกไปอียู 2 รายการ คือ 1.เหล็กลวดคาร์บอน 2.อะลูมิเนียมเส้นหน้าตัด

อย่างไรก็ตาม มีสินค้า 1 รายการที่นำออกจากรายการสินค้าเฝ้าระวังส่งออกไปอียู ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้า และสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ 1 รายการ ได้แก่ ฟูกที่นอน โดยมีผลวันที่ 1 ก.พ.66 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ส่งออกที่ต้องการส่งออกสินค้าทั้ง 48 รายการไปสหรัฐฯ และอียู ต้องยื่นขอตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าจากกรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในการขอใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (ฟอร์มซีโอทั่วไป) ก่อนส่งออก.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2629101

“ภาคการบินเวียดนาม” กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ในสิ้นปี

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าภาคการบินของเวียดนามมีทิศทางที่จะเริ่มฟื้นตัวเต็มที่หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในสิ้นปีนี้ ด้วยจำนวนผู้โดยสารประมาณ 80 ล้านคน และปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศ 1.44 ล้านตันในปี 2566 ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของการบินของเวียดนาม จากข้อมูลบ่งชี้ว่าปริมาณผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าทางอากาศในปีนี้ ขยายตัว 45.4% และ 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาคการบินของเวียดนามยังมีอุปสรรคใหญ่ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรทางอากาศที่ค่อนข้างจำกัด ความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง การขาดแคลนทรัพยากรบุคคลและความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่ออุตสาหกรรมการบินในปีนี้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1482680/vietnamese-aviation-sector-to-fully-recover-by-end-of-year.html