กัมพูชาคาดสนามบินแห่งใหม่ใจกลางเมืองกันดาลและตาแก้ว จะแล้วเสร็จในปี 2024

โครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ที่จีนเป็นผู้ลงทุน หรือที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อสนามบินนานาชาติเทโช ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2024 โดยเม็ดเงินลงทุนมาจาก บริษัท Cambodia Airport Investment Co., Ltd (CAIC) ด้วยเงินลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่อำนวยการก่อสร้างโดย China Construction Third Engineering Bureau Group Co., Ltd. บนพื้นที่ 2,600 เฮกตาร์ ในจังหวัด กันดาล และ ตาแก้ว ทางตอนใต้ของกัมพูชา ซึ่งสนามบินจะมี 4 ชั้น (4F) ซึ่งในปัจจุบันผู้รับเหมาระบุว่างานก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 50 โดยหากโครงการแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคนต่อปีในระยะแรก ซึ่งในระยะที่สองทางการคาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 30 ล้านคนภายในปี 2030 และคาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 50 ล้านคนในปี 2050

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501220244/work-on-cambodian-capital-new-airport-expected-to-finish-in-2024/

ปี 2022 กัมพูชาส่งออกเครื่องแต่งกายลดลง 21%

จากสถานการณ์ความต้องการเครื่องแต่งกายทั่วโลกที่ซบเซาลง ทำให้ปริมาณการส่งออกเครื่องแต่งกายของกัมพูชาปรับตัวลดลง ณ เดือนธันวาคม 2022 กว่าร้อยละ 21 โดยการส่งออกเครื่องแต่งกายของกัมพูชาที่ลดลงคิดเป็นมูลค่า 432.26 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่า 591.85 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกทั้งปี 2022 กลับขยายตัวที่ร้อยละ 12.69 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจากข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ได้รายงานว่ากัมพูชาส่งออกเครื่องแต่งกายมูลค่ารวมกว่า 9.04 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยประเทศผู้นำเข้าสำคัญได้แก่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และแคนาดา เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501219856/21-fall-in-dec-22-pulled-annual-apparel-exports-down/

“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ยังคงมีความน่าสนใจของนักลงทุน

ธนาคารเวียดนาม VIETCOMBANK SECURITIES (VCBS) รายงานว่าจากการที่ค่าเงินดองอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และยังอยู่ในระดับอ่อนค่าหากเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นเวียดนามยังคงเป็นจุดหลายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน ทั้งนี้ การที่ดัชนีดอลลาร์สหัรฐยังคงปรับตัวลดลงเล็กน้อยและการเพิ่มเงินทุนสำรองเงินต่างประเทศของเวียดนามในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งสัญญาเป็นบวกแก่ตลาดในประเทศ ซึ่งในระยะสั้นนั้น สภาพคล่องของเงินดองเวียดนามจะยังปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงในตลาดระหว่างธนาคาร

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-stock-market-still-attractive-to-investors-report/247078.vnp

“ตลาดค้าปลีกเวียดนาม” กลับมาสู่ระดับปกติก่อนวิกฤตเชื้อโรคระบาด

ตามรายงานของ Vietnam Report เปิดเผยผลการสำรวจ ระบุว่าผู้ประกอบการค้าปลีกส่วนใหญ่ 53.8% มองว่าตลาดค้าปลีกกลับมาฟื้นตัวอยู่ในระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และหลังจากควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ตลาดค้าปลีกของเวียดนามเร่งดำเนินการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารธุรกิจ การดำเนินกิจการ โลจิสติกส์และการกระจายสินค้า ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าตลาดค้าปลีกของเวียดนามในปัจจุบัน มีมูลค่า 142 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงถึง 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 คิดเป็น 59% ของ GDP ปี 2565

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/retail-market-returns-to-prepandemic-level/247072.vnp

เวียดนามลงทุนใน สปป.ลาวพุ่ง 52.5%

จากรายงานของ VietnamPlus เผย หลังจากการประชุมความร่วมมือด้านการลงทุนของสปป.ลาว และ เวียดนาม ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2565 บริษัทจากเวียดนามลงทุนในสปป.ลาว มีมูลค่าการพุ่งสูงถึง 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 52.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน (2564) ในขณะเดียวกัน บริษัทจากสปป.ลาว ก็เข้าไปลงทุนในเวียดนามจำนวน 10 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในระหว่างการประชุม รัฐบาลสปป.ลาวให้คำมั่นว่าจะสร้างบรรยากาศการค้า การลงทุน และเตรียมเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในประเทศ ซึ่งเวียดนามเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับ 3 รองจากจีนและไทย ทั้งนี้ ในปี 2564 มีบริษัทจากเวียดนามเข้ามาลงจำนวน 238 โครงการ โดยมีทุนจดทะเบียนรวม 5.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Vietnamese10.php

‘สุริยะ’เยือนญี่ปุ่นหารือเมติ ตอกย้ำการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายนิชิมุระ ยาสึโทชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) หรือ เมติ ระหว่างเยือนประเทศญี่ปุ่นวันที่ 11-15 มกราคม 2565 ว่าการหารือครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมระหว่าง 2 ประเทศ รวมทั้งยังเป็นการครบรอบ 1 ปี ที่ทั้ง 2 กระทรวงได้ร่วมกันปรับแนวคิดจาก “Connected Industries” มาสู่ความร่วมมือ Co-Creation for Innovative and Sustainable Growth ที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เมื่อปลายปี 2565

โดยเฉพาะประเด็นการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะบุคลากรซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือ Cooperation Framework on Human Resource Development for Realizing Industry 4.0 ขับเคลื่อน 3 ประเด็นหลักประกอบด้วย 1.แนวทางการร่วมกันพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรม 2.การขับเคลื่อนนโยบาย BCG ในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3.การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานผ่านแนวคิดการร่วมสร้าง (Co-Creation)

นอกจากนี้ ยังหารือในประเด็นการลงทุนภายใต้กรอบ AJIF (Asia-Japan Investing for the Future) มุ่งเน้นความเชื่อมโยงระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศต่างๆ จึงเน้นย้ำถึงความพร้อมของประเทศไทยในการต้อนรับนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ที่กำกับดูแลโดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park ในพื้นที่จังหวัดระยองมีพื้นที่ประมาณ 1,400 ไร่ เพื่อรองรับอุตสาหกรรม New S-Curve ในพื้นที่ EEC ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลกลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ เป็นต้น ปัจจุบันก่อสร้างแล้วประมาณ 40% และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2567

ที่มา: https://www.naewna.com/business/704687

ค้าชายแดนเมียนมา-จีนอนุญาตให้ใช้เงินหยวนในการซื้อขาย

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ประกาศให้การซื้อ-ขาย แถบชายแดนเมียนมา-จีน ใช้สกุลเงินหงวนได้นอกจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น สินค้าเกษตรอย่าง วพัลส์ ข้าวโพด และงา ส่วนผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปู และปลาไหล ทั้งนี้ จากรายงานพบว่า ระหว่างวันที่ 1 ถึง 3 มกราคม 2566 การซื้อขายแถบชายแดนเมียนมา-จีน มีรถบรรทุกสินค้าส่งออกจำนวน 541 คันและรถบรรทุกนำเข้าจำนวน 114 คัน โดยมีสินค้าส่งออก ได้แก่ ปู งา แตงโม ข้าว ปลายข้าว ปลาไหล และ อ้อย ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ ยานพาหนะและเครื่องจักรกลหนัก โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสาร แอปเปิล ส้ม เครื่องครัว อะไหล่รถจักรยานยนต์ วัตถุดิบพลาสติก หลอดไฟฟ้า หลอดไฟ และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-china-border-trade-allows-yuan-dollar-payments/#article-title

‘เวียดนาม’ ชี้สัญญาบวกส่งออกข้าว

นายเล มิน ฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่ายอดการส่งออกข้าวคุณภาพสูงของเวียดนามมีทิศทางที่เป็นบวก ตั้งแต่มีการคัดเลือกสายพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูกและการกำหนดมาตรฐานข้าวให้เป็นไปตามความต้องการของแต่ละตลาด เนื่องจากเวียดนามตระหนักถึงความจำเป็นที่จะสร้างกลยุทธ์ในระยะยาว ทั้งนี้ นาย โด ห่า นาม รองประธานสมาคมอาหารแห่งเวียดนาม (VFA) ได้แสดงความยินดีจากการที่เวียดนามสามารถแข่งขันตลาดต่างประเทศได้หลายแห่งและยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญมาจากข้าวหอมมะลิและข้าวคุณภาพสูง ทำให้ภาคธุรกิจได้รับคำสั่งซื้อจนถึงเดือนเมษายน หรือจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าผู้ส่งออกข้าวมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจนในปีนี้ เนื่องจากราคาข้าวอยู่ในระดับสูง และความต้องการข้าวจำนวนมากจากจีน ฟิลิปปินส์และแอฟริกา

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/positive-signals-for-rice-exports-in-2023/246674.vnp

บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ย้ายการผลิตไปเวียดนาม

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทแอปเปิล (Apple) เปิดเผยว่าทางบริษัทจะย้ายฐานการผลิตของ MacBook ไปยังเวียดนามในปี 2566 และดำเนินการให้บริษัท ‘Foxconn’ ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของแอปเปิล ทำการเปิดการผลิต MacBook ในเวียดนามตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยในปี 2568 ประมาณ 20% ของจำนวน iPads และ Apple Watch ทั้งหมดจะผลิตในเวียดนาม ในขณะเดียวกัน ประมาณ 5% ของจำนวน MacBook และ 65% ของจำนวน Airpods นอกจากนี้ ซัมซุง (Samsung) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเกาหลีใต้ หลังจากทุ่มเงินกว่า 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในเวียดนามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงวางแผนที่จะขยายการลงทุนในเวียดนาม 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเร็วๆนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่ากิจกรรมทางธุรกิจดังกล่าวมาจากข้อได้เปรียบของเวียดนาม ได้แก่ ต้นทุนแรงงานต่ำและข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามเข้าร่วม 15 ฉบับ ตลอดจนเสถียรภาพทางการเมืองของเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/electronic-firms-continue-to-shift-investment-to-vietnam/247004.vnp

เกาหลีใต้ บริจาคข้าว 1,314 ตัน ให้ชุมชนยากจน ในสปป.ลาว

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ นำโดย นายยุง ซูจอง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีเป็นตัวแทนในการส่งมอบข้าวให้แก่นางเบย์คัม ขัตติยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของสปป.ลาว จำนวน 1,314 ตัน  ณ คลังสินค้าของโครงการอาหารโลก (WFP) ในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในย่านชุมชนยากจนกว่า 100,000 คนทั่วประเทศ โดยการบริจาคในครั้งนี้ จะช่วยเหลือผู้คนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากวิกฤตทางการเงินที่ตึงเครียดและภาวะการขาดแคลนอาหารที่รุนแรงขึ้น ซึ่งนางเบย์คัม ขัตติยา กล่าวในพิธีส่งมอบว่า การบริจาคในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ห่างไกลซึ่งมักเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ด้านนายยุง ซูจอง กล่าวเสริมด้วยว่า สปป.ลาวได้ประโยชน์จากการสนับสนุนนี้มาตั้งแต่ปี 2564 และเกาหลีใต้ตั้งใจอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และการมุ่งเน้นยุทธศาสตร์ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างเกาหลีใต้และประเทศในอาเซียน

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Skorea10.php