“ไทย” เป็นเจ้าภาพจัดฟอรั่มธุรกิจเวียดนาม-ลาว

การประชุม Thailand-Vietnam-Laos Business Forum 2022 ยกระดับการแลกเปลี่ยนทางการค้าและความเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจจากสามประเทศ 27-29 พ.ย. ที่จังหวัดอุดรธานี การประชุมครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีแก่ภาคธุรกิจเวียดนามที่จะได้นำเสนอบรรยากาศทางธุรกิจ ดึงดูดให้ผู้ประกอบการไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ส่งเสริมการส่งออกสินค้าไปยังตลาดไทยและสปป.ลาว ตลอดจนส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างสามประเทศในภูมิภาค นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนธุรกิจ SMEs ของเวียดนามที่จะสร้างความสัมพันธ์ในตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เป็นการเปิดตัวสินค้าในท้องถิ่นสู่สายตาต่างประเทศ ทั้งนี้ เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทั้งสองประเทศเป็นประเทศกำลังพัฒนาสองแห่งในภูมิภาคที่มีความคล้ายคลึงกัน อาทิเช่น วัฒนธรรมผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์และบริการ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/thailand-to-host-thailand-vietnam-laos-business-forum-post985109.vov

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตร 10 เดือนแรก พุ่ง 3 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรปริมาณกว่า 7.62 ล้านตัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3.07 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง (MAFF) โดยผลิตภัณฑ์หลักที่กัมพูชาส่งออก ได้แก่ ข้าว กล้วย มะม่วง มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพด น้ำมันปาล์ม พริกไทย และยาสูบ เป็นต้น ซึ่งจีนถือเป็นหนึ่งในผู้นำเข้ารายใหญ่ของกัมพูชา ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งภาคเกษตรกรรมถือเป็นหนึ่งใน 4 เสาหลักที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 24.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501187892/cambodia-earns-3-billion-from-agricultural-products-exports-in-first-10-months/

กัมพูชาส่งออกยางพารามูลค่าเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี

ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกยางพาราและไม้ยางพารามูลค่ากว่า 396 ล้านดอลลาร์ รายงานโดยกรมยาง ซึ่งในแง่ของปริมาณการส่งออก ณ เดือนตุลาคม 2022 กัมพูชาส่งออกยางไปกว่า 264,918 ตัน ลดลง 1,552 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การส่งออกไม้ยางพารามีปริมาณอยู่ที่ 1,683 ลูกบาศก์เมตร โดยราคาเฉลี่ยของยาง ณ เดือนตุลาคม อยู่ที่ 1,482 ดอลลาร์ต่อตัน ลดลง 181 ดอลลาร์ต่อตัน หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่ง ณ เดือนพฤศจิกายนปีนี้ กัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกยางทั้งหมดอยู่ที่ 404,044 เฮกตาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501187462/nearly-400-million-earned-by-cambodia-in-10-months-through-rubber-rubber-wood-exports/

CBM อนุญาติให้ใช้เงินหยวนจีนและเงินบาทสำหรับรายได้จากการส่งออก

ธนาคารกลางเมียนมา (CBM) อนุญาติให้ผู้นำเข้า-ส่งออก ใช้เงินสกุลเงินหยวนจีนและเงินบาทนอกเหนือจากเงินดอลลาร์สหรัฐในการทำการค้าได้ โดยจะมีผลกับสินค้าส่งออกอย่าง ถั่วชนิดต่างๆ (ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วลูกไก่ และถั่วแระ) พืชน้ำมันที่บริโภคได้ (ถั่วลิสงและงา) ข้าวโพด ยางพารา สินค้าประมง (ปลา กุ้ง ปู ปลาไหล) และสินค้าปศุสัตว์ (โค หนังสัตว์ เนื้อแช่แข็ง และเนื้อแห้ง) ทั้งนี้ผู้ค้าจำเป็นต้องขอใบอนุญาตเพื่อชำระเงินหยวนหรือบาทในการซื้อ-ขาย และใช้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลอ้างอิงจาก CBM เท่านั้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/cbm-announces-resumption-of-chinese-yuan-thai-baht-for-export-earnings/#article-title

บริษัทเกาหลี เร่งเครื่องลงทุนอสังหาฯ ในสปป.ลาว

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา KB Lao Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากเกาหลีใต้ได้เปิดตัวอาคารอพาร์ตเมนต์ระดับพรีเมียมภายใต้ชื่อโครงการ “The Riverfront Apartments”  ซึ่งนับเป็นการพัฒนาตลาดที่พักอาศัยที่สำคัญในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสปป.ลาว ในพิธีนี้มีผู้เข้าร่วมได้แก่ นาง Suanesavanh Vignaket  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว, นาง Phonevanh Outhavong, นาย Hwang Soo Nam ซีอีโอของ KB Lao Group และ นาย Yungsoo Jung เอกอัครราชทูตเกาหลีประจำสปป.ลาว ร่วมเป็นสักขีพยาน โดย The Riverfront Apartments ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Phanman อำเภอศรีสัตตนาค ของเวียงจันทน์ ซึ่งอพาร์ทเมนท์มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและที่สำคัญคืออยู่ติดริมแม่น้ำโขงที่งดงาม ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถเติมความรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการมองดูพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามเหนือแม่น้ำโขง โดยอพาร์ตเมนต์จะมีทั้งหมด 9 ชั้น 39 ห้องที่มีขนาดแตกต่างกันไป มีทั้งแบบ 1 – 3 ห้องนอน และยูนิตพิเศษอย่างห้องชุดเพนต์เฮาส์ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า โรงหนัง สนามกอล์ฟจำลอง และฟิตเนสเซ็นเตอร์

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten226_Korean.php

ไทยถกเวียดนาม พัฒนาความร่วมมือ ด้านลงทุน-ส่งออก สินค้าเกษตร-อุตฯ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือกันในทางเศรษฐกิจ กับนายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายเร่งอนุญาตการนำเข้า-ส่งออกสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรประเภทผัก ผลไม้ ข้าวสินค้าปศุสัตว์ พร้อมเร่งสานความสัมพันธ์โดยการทำความตกลงและกลไกเจรจาด้านการเกษตรระหว่างกัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยินดีที่จะอำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคด้านการขนส่งสินค้าจากไทยผ่านเวียดนามไปประเทศที่ 3 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญอื่นๆ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยาและเวชภัณฑ์ ขณะเดียวกันในด้านการลงทุน ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมสนับสนุนนักลงทุนให้เข้ามาทำธุรกิจ โดยที่ผ่านมาได้ให้ไทยจัดตั้งหอการค้าไทยในเวียดนาม(ThaiCham) เมื่อปี 2564 ซึ่งช่วยเพิ่มการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้จำนวนมาก

ที่มา: https://www.naewna.com/business/693263

กำปอต กัมพูชาส่งออกพริกไทยไปยังตลาดโลกลดลงกว่า 50% ในช่วงไตรมาส 3/2022

ไตรมาส 3 ปี 2022 จังหวัดกำปอต หนึ่งในจังหวัดผู้ผลิตพริกไทยของกัมพูชาส่งออกพริกไทยลดลงเหลือเพียง 57 ตัน หรือคิดเป็นการลดลงกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดย Nguon Lay ประธานสมาคมส่งเสริมพริกไทยกำปอต (KPPA) ซึ่งผลดังกล่าวมาจากวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จนส่งผลทำให้การส่งออกพริกไทยของจังหวัดกำปอตลดลงเป็นอย่างมาก โดยตลาดหลักของกัมพูชาในการส่งออกพริกไทยได้แก่ ยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน และสาธารณรัฐเช็ก แต่ถึงอย่างไรทางสมาคมยังคงคาดการณ์ไว้ว่าจังหวัดกำปอตจะส่งออกพริกไทยในช่วงปี 2022 อยู่ที่รวม 106 ตัน เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรยังเก็บเกี่ยวพริกไทยได้ไม่เต็มตามจำนวน ซึ่งปัจจุบันราคาพริกไทยดำภายในประเทศกัมพูชาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม, พริกแดง 25 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม และพริกไทยขาว 28 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม โดยปัจจุบันมีเกษตรกรเป็นสมาชิกสมาคมส่งเสริมพริกไทยกำปอตจำนวน 377 ราย และมีบริษัทผู้รับซื้อผลผลิตจำนวน 30 ราย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501183550/kampot-pepper-exports-reach-57-tonnes-in-third-quarter-of-2022/

ปริมาณการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาเพิ่มขึ้นกว่า 15% ในช่วง 10 เดือน

ปริมาณการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาพุ่งแตะ 44.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 14.9 จากมูลค่า 38.7 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในปริมาณดังกล่าวเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 18.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 และคิดเป็นการนำเข้ารวมอยู่ที่ 25.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา รองลงมาคือสหรัฐฯ เวียดนาม ไทย และสิงคโปร์ เป็นสำคัญ โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงกัมพูชาได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีเพิ่มอีกหลายฉบับ และอุปสงค์ทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501183569/cambodias-intl-trade-up-nearly-15-percent-to-44-5-billion-in-10-months-year-on-year/

ธปท.เดินหน้าสังคมไร้เงินสด ลดใช้เช็ค!ตั้งเป้า 3 ปีดันพร้อมเพย์เอกชน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกแนวนโยบาย “ภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยเพื่อ เศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม การบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุม และการส่งเสริมให้ภาคการเงินยืดหยุ่นมากขึ้น และยังได้กำหนดทิศทางการพัฒนาระบบการชําระเงิน หรือ Payment Strategic Directions ระยะ 3 ปี (พ.ศ.2565-2567) ทําให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวของเห็นภาพที่ชัดเจน เพื่อต่อยอดและปรับปรุงการให้บริการการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่คนไทยนิยมใช้เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ .และ สร้างระบบพร้อมเพย์เอกชนกับเอกชนโดยจะเพิ่มการชำระเงินให้ภาคธุรกิจมีทางเลือกใช้บริการ การชำระเงินดิจิทัล และมีกระบวนการธุรกิจแบบดิจิทัลที่ครบวงจร ผ่านระบบ PromptBiz และกำหนดเป้าหมาย เพิ่มปริมาณการโอนเงินชำระเงินของภาคประชาชนผ่านระบบดิจิทัลเป็น 2.5 เท่า จาก 312 ครั้งในปี 2564 เป็น 800 ครั้งต่อคนต่อปี ภายใน 3 ปี หรือในปี 2567 เพิ่มสัดส่วนมูลค่าการใช้การชำระเงินดิจิทัลต่อการใช้เงินสดเพื่อการชําระเงินของประชาชน อีก 5% ภายใน 3 ปี จากเดิมที่มีสัดส่วน 37% ของระบบเศรษฐกิจ รวมในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 42% ในปี 2567 ขณะเดียวกัน ยังตั้งเป้าจะขยาย ระบบการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลในไทยในภาพรวมให้เป็นทางเลือกหลักของทุกกลุ่มคนทดแทนการใช้เงินสด และใช้เช็ค ขณะที่ปริมาณการใช้เช็คลดลง 5 ปีต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ปริมาณการใช้เช็คลดลง 16% มูลค่าเงินผ่านเช็คลดลง 12%

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2549080

“ยูนิโคล่” บุกเวียดนาม เปิด 2 สาขาใหม่ที่ฮานอย

Uniqlo (ยูนิโคล่) ได้เปิดร้านใหม่ 2 แห่ง บริเวณศูนย์การค้า ‘Vincom Royal City’ และ Vincom Trần Duy Hưng ในเมืองฮานอย การเปิดสาขาใหม่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ของยูนิโคล่ในเวียดนาม ผ่านการดำเนินงานด้วยการเปิดร้านใหม่ 3 แห่งในเมืองฮานอย ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนี้ ทั้งนี้ การเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ทำให้ยูนิโคล่มีจำนวนร้านค้าปลีกรวมกันทั้งสิ้น 15 แห่ง และยังได้ให้บริการซื้อของออนไลน์ตามช่องทาง ‘UNIQLO.com’ นอกจากนี้ คุณ Osamu Ikezoe ผู้อำนวยการของยูนิโคล่ ประจำประเทศเวียดนาม กล่าวว่าการเปิดสาขาใหม่ดังกล่าวนั้นจะช่วยดึงนำปรัชญา ไลฟ์แวร์ (LifeWear) ของธุรกิจไปสู่ลูกค้าวงกว้างมากขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1393975/uniqlo-opens-two-new-stores-in-ha-noi.html