เมียนมา เอธิโอเปีย ร่วมมือกันภาคการค้า อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม

ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาระบุ เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำอินเดียและเอกอัครราชทูตเอธิโอเปียประจำอินเดีย ได้จัดการเจรจาเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเมียนมาและเอธิโอเปีย ในการพัฒนาภาคการค้า อุตสาหกรรม และการเกษตร โดยมีการหารือกันเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่สถานทูตเมียนมาในอินเดีย U Moe Kyaw Aung เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำอินเดีย และ Mr. Demeke Atnafu Ambulo เอกอัครราชทูตเอธิโอเปียประจำอินเดีย กล่าวถึงประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับความร่วมมือทางการเมืองและสถานการณ์การค้าระหว่างเมียนมาและเอธิโอเปีย ตลอดจนแนวโน้มความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมและการพัฒนาภาคเกษตรกรรม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ethiopia-to-cooperate-in-trade-industrial-agriculture-sectors/#article-title

หนังสือเชิญแสดงความสนใจ สำหรับสมาคมวิสาหกิจที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลเมียนมา ในความร่วมมือโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์

ในการจัดตั้งสมาคมวิสาหกิจที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลของเมียนมา คณะกรรมการกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียนมาภายใต้กระทรวงพาณิชย์จะเรียกร้องให้มีการแสดงหนังสือความสนใจ (EOI) และมาตรการต่างๆ กำลังดำเนินการเพื่อจัดตั้งสมาคมหน่วยงานที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลเมียนมา เพื่อร่วมมือกันในโครงการท่าเรือทะเลลึกนอกชายฝั่ง เขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ บริษัทที่เป็นของชาวเมียนมาจะถูกตรวจสอบเพื่อเข้าร่วมกลุ่มภายใต้กฎและข้อบังคับ โดยบริษัทจะต้องเป็นบริษัทเอกชนในประเทศหรือบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายบริษัทเมียนมาปี 2017 จะต้องดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่การจัดตั้งบริษัท และจะต้องถือแบบฟอร์มแยกบริษัทและใบรับรองการจดทะเบียนบริษัทที่ออกโดยคณะกรรมการการลงทุนและการจดทะเบียนบริษัท และต้อง ไม่ถูกระงับบนระบบทะเบียนออนไลน์ MyCO ของ DICA ทั้งนี้ บริษัทจะต้องจัดตั้งขึ้นมานานกว่า 10 ปีหรือต้องมีประสบการณ์ 5 ปีในกระบวนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ประสบความสำเร็จ หากนิติบุคคลถูกจัดตั้งขึ้นในรัฐยะไข่ ระยะเวลาในการจัดตั้งนิติบุคคลที่กำหนดจะผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ มูลค่าการซื้อขายขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปีจะต้องเท่ากับ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือจำนวนเทียบเท่าในสกุลเงินต่างประเทศหรือสกุลเงินท้องถิ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และจะต้องไม่ถูกขึ้นบัญชีดำหรือถูกตัดสิทธิ์โดยกระทรวง สภาเนปิดอว์ และรัฐบาล รวมทั้งบริษัทเหล่านั้นจะต้องจ้างพนักงานที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญเพียงพอซึ่งสามารถให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่โครงการได้ แต่ละหน่วยงานจะต้องเสนอเอกสารยืนยันว่าพวกเขาสามารถลงทุนอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในข้อเสนอ ต้องส่งรายงานงบการเงินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพร้อมกับใบรับรองด้านภาษีจากสำนักงานสรรพากรที่เกี่ยวข้องด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/eoi-invited-for-myanmar-gde-consortium-in-kyaukphyu-sez-collaboration/#article-title

การก่อสร้างท่าเทียบเรือ Union National Race Village (Yangon) มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือน พ.ย

การก่อสร้างท่าเทียบเรือที่หมู่บ้าน Union National Races Village (ย่างกุ้ง) เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวที่จะมาที่หมู่บ้าน Union National Races Village (ย่างกุ้ง) ในเมือง Thakayta เขตย่างกุ้ง ผ่านทางแม่น้ำพะโค โดยโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือแม้ว่าจะมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน โครงการดังกล่าวได้รับการพัฒนาในปีงบประมาณ 2565-2566 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 449.505 ล้านจ๊าด ท่าเทียบเรือดังกล่าวมีความยาว 96 ฟุต กว้าง 12 ฟุต และมีสะพานโครงเหล็กขนาด 80 ฟุต ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำ ป่าชายเลน ระหว่างการเดินทางทางทะเล และยังสามารถล่องเรือเที่ยวได้อีกด้วย นอกจากนี้ ท่าเรือดังกล่าวยังสามารถเชื่อต่อกับท่าเทียบเรือ Botahtaung และ Pansodan และผู้ที่มาจากตอนบนของแม่น้ำพะโค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/union-national-race-village-yangon-jetty-construction-set-to-be-completed-in-nov/#article-title

เมียนมาและอินเดียลงนามบันทึกความเข้าใจภายใต้โครงการ Quick Impact Project (QIP)

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดียภายใต้โครงการ Quick Impact (QIP) ประกอบด้วย บันทึกความเข้าใจเรื่องการจัดหาน้ำโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในเขตแห้งแล้งตอนกลางของเมียนมา บันทึกความเข้าใจสำหรับโครงการห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ของจังหวัด และบันทึกความเข้าใจเพื่อการใช้พลังงานไฟฟ้าของหมู่บ้านในชนบทด้วยพลังงานลมขนาดเล็กในเมืองกูนจานโกน ย่างกุ้ง ซึ่งจัดขึ้นที่กระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ กรุงเนปิดอว์ โดยมี ดร.คาน ซอ รัฐมนตรีสหภาพว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ นายดอ ตัน ทัน ลิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการเงิน นายอู ลวิน อู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดร. วาวา หม่อง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ ดร. Htain Lin Oo รัฐมนตรีช่วยว่าการและรองอัยการสูงสุดฝ่ายกฎหมาย เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง นาย Ashish Sharma รองหัวหน้าคณะผู้แทนสถานทูตอินเดีย และเจ้าหน้าที่จากสถานทูตอินเดีย เข้าร่วมในพิธี โดยรัฐบาลอินเดียจะมอบเงินช่วยเหลือให้โครงการ Quick Impact (QIP) โครงการละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวม 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินช่วยเหลือนี้จะนำไปบริจาคให้กับการประปาโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในเขตแห้งแล้งตอนกลางของเมียนมา และโครงการที่คล้ายกันจะต้องได้รับการเจรจากับรัฐบาลอินเดีย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-india-sign-mous-under-quick-impact-projects-qip/

เมียนมา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ประชุมความร่วมมือโครงการเทคโนโลยีและนวัตกรรม

Dr. Myo Thein Kyaw รัฐมนตรีสหภาพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พบปะกับศาสตราจารย์ Yin Hejun รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน วานนี้ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่โรงแรม Wyndham Chongqing Yuelai ในเมืองฉงชิ่ง โดยเน้นไปที่วิทยาศาสตร์และการร่วมมือกันในโครงการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อมากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งนี้มีเป้าหมายในการดำเนินการตามความพยายามที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเทคโนโลยีอาหารและนวัตกรรมเทคโนโลยีเคมีคุณภาพสูง ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ ตลอดจนความร่วมมือในการวิจัยด้านโลหะวิทยาและวัสดุศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและครูอีกด้วย อย่างไรก็ดี ยังได้มีการเยี่ยมชมศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศในเมืองฉงชิ่ง ห้องปฏิบัติการ Jinfeng ในช่วงเย็น และได้เยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมยานพาหนะที่เชื่อมต่ออัจฉริยะของเมืองวิทยาศาสตร์ตะวันตก หู เหิงฮวา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-peoples-republic-of-china-explore-collaborative-technology-and-innovation-projects/

การลงทะเบียนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับสถานที่จัดเก็บเมล็ดพืช กับ MyRO

กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ จัดพิธี Go-Live สำหรับเว็บไซต์ Myanmar Rice Online (MyRO) และการประชุมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการลงทะเบียน MyRO สำหรับโรงเก็บเมล็ดพืชที่โรงแรม Thingaha ในเมืองเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยตั้งเป้าประกันการพึ่งพาตนเองในสินค้าข้าว การส่งออกอย่างเป็นระบบ ความมั่นคงด้านราคาและการลงทะเบียนการจัดเก็บเมล็ดพืชอย่างเป็นระบบและการนำระบบการเงินใบเสร็จรับเงินของคลังสินค้าไปใช้ ด้าน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้านการวางแผนและการคลัง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงการดำเนินการตามกระบวนการทำงานของการประชุมข้าวเมียนมาร์ 2022 เช่น ระบบประกันพืชผลสำหรับเกษตรกร และการยกระดับสินค้าข้าว โดยระบบ MyRO นี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนโรงเก็บธัญพืช ใบอนุญาตผู้ส่งออก และการจดทะเบียนโรงสีข้าวผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยจะจัดให้มีระบบการลงทะเบียนที่ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเหมือนกับการจดทะเบียนบริษัท มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นก้าวแรกสำหรับภาคส่วนสินค้าข้าวในการก้าวไปข้างหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รัฐจะช่วยสร้างความมั่นคงทางนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างความสามัคคีที่มากขึ้นมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ อย่างไรก็ตาม โครงการนำร่องดังกล่าวมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการในเขต เนปิดอว์ ย่างกุ้ง อิรวดี พะโค และมัณฑะเลย์ MyRO จะเผยแพร่ข้อมูลสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมข้าว รวมถึงเกษตรกร พ่อค้า โรงสีข้าว ผู้ส่งออก ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริโภค และอำนวยความสะดวกในกระบวนการลงทะเบียน ดังนั้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในอุตสาหกรรมจึงได้รับการสนับสนุนให้ร่วมมือกันในโครงการนี้

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/registration-on-myro-required-for-grain-storage-facilities/

นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางทางอากาศพุ่งแตะ 880,000 คนใน 9 เดือน

U Aung Aye Han รองอธิบดีกรมโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมียนมา กล่าวว่าตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงกันยายน 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังเมียนมาทางอากาศมากกว่า 880,000 คน ทั้งนี้ การมาถึงของนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ผ่านทางเที่ยวบินในปีนี้ และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วในปี 2565 มีอัตราการเติบโตคิดเป็นเกือบ 5 เท่า ด้านนาย U Aung Aye Han กล่าวว่า การเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศเมียนมา เดินทางผ่านแดนเข้ามาโดยผ่านทั้งทางอากาศและทางทะเล ปัจจุบัน ในปี 2023 เริ่มเปิดให้มีการเดินทางทางอากาศและการเข้าชายแดนเป็นหลัก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้ และยังได้เชิญนักท่องเที่ยวชาวไทยและรัสเซียเข้าเยี่ยมชมประเทศด้วย อีกทั้งจำนวนประเทศปลอดวีซ่ากับเมียนมาในปัจจุบันมีถึง 24 ประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีคนมาเที่ยวเมียนมาเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ในเมียนมา มีการระบุและจัดเตรียมจุดหมายปลายทาง 14 แห่ง สำหรับให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้ และมีโรงแรม โมเทล และเกสท์เฮาส์กว่า 2,000 แห่งเพื่อรองรับ นอกจากนี้ ยังมีไกด์นำเที่ยวที่ได้รับใบอนุญาตมากกว่า 2,000 ราย และบริษัทท่องเที่ยวกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/foreign-tourist-arrivals-via-air-soar-to-880000-in-nine-months/#article-title

มูลค่าการค้าชายแดนเมียวดี มีมูลค่ารวม 74.643 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม

เมียนมารายงาน มูลค่าการค้าชายแดน ระหว่างวันที่ 1-27 ตุลาคม 2566 ผ่านชายแดนเมียวดีกับไทยมีมูลค่ารวม 74.643 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบด้วยการส่งออกมูลค่า 17.594 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้ามูลค่า 57.049 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้าส่งออก ได้แก่ พริก กะหล่ำปลี หัวหอม ถั่วหมากแห้ง ถั่วดำ กรัมดำ มะยมแห้ง ปู กุ้ง ปลาสับ ปลาแอนโชวี่ ปลาฮิลซา และผลิตภัณฑ์ปลาอื่นๆ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ผลิตแบบ CMP วัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเป็นที่ต้องการมากในตลาดของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมี อาหารสัตว์ จักรยาน เสื้อผ้า เครื่องเขียน ชิ้นส่วนรถยนต์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร ชิ้นส่วนจักรยาน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง วัตถุดิบ CMP ยา รองเท้า ผลไม้ต่างๆ ของใช้ในครัวเรือน สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ใช้ในการประมง เป็นต้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myawady-border-trade-value-totals-us74-643-mln-in-oct/

ราคาถั่วลิสงเมียนมามีแนวโน้มลดลงท่ามกลางความต้องการจากต่างประเทศ

ตามข้อมูลของตลาดค้าส่งมัณฑะเลย์ เมียนมามีการส่งออกเมล็ดพันธุ์น้ำมัน ได้แก่ เมล็ดงา และถั่วลิสง ไปยังต่างประเทศ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ราคาถั่วลิสงแตะระดับสูงสุดอยู่ที่ 7,550-11,000 จ๊าดต่อ viss เนื่องจากมีอุปสงค์จากต่างประเทศและในประเทศที่แข็งแกร่ง ณ ปัจจุบัน ราคาลดลงอยู่ในช่วงระหว่าง 5,500 จ๊าดต่อ viss ถึง 6,100 จ๊าดต่อ viss ในตลาดภายในประเทศซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุ์ของถั่ว ทั้งนี้ หากไม่มีอุปสงค์จากต่างประเทศ ราคาถั่วลิสงจะยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีถั่วลิสงที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใกล้พื้นที่มัณฑะเลย์ และได้เข้าสู่ศูนย์ค้าส่งมัณฑะเลย์แล้ว ในขณะเดียวกันอุปสงค์ของผู้ซื้อรายใหญ่จากจีนก็ค่อนข้างจะชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี แม้ว่าราคาถั่วลิสงจะลดลง แต่ราคาน้ำมันถั่วลิสงก็ไม่ได้ลดลงตามไปด้วย และยังคงมีราคาสูงกว่า 15,000 จ๊าดต่อ viss

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/peanut-prices-on-downward-trend-amid-lack-of-foreign-demand/#article-title

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากรแห่งสหภาพเมียนมา ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจีน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากร U Myint Kyaing ให้การต้อนรับสมาชิกสภาแห่งรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน และนาย Wang Xiaohong รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และคณะฯ ที่กรุงเนปิดอว์ วานนี้ โดย ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนเข้าเมืองเพื่อความมั่นคงและสันติภาพในพื้นที่ชายแดน ทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างสะดวกสบาย โดยจัดตั้งด่านชายแดนระหว่างจีน-เมียนมามากขึ้น รวมทั้งขยายความร่วมมือในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนเข้าเมือง จัดการประชุมระดับอธิบดีเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ยังมีการอภิปรายเรื่องการสนับสนุนของจีนเพื่อตอบสนองความต้องการทางเทคโนโลยี และการสำรวจสำมะโนประชากรและครัวเรือนของเมียนมา และระบบ e-ID ที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศของ เมียนมา จีน ไทย และลาว เพื่อป้องกันการอพยพข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ และการพนันออนไลน์ การฟื้นฟูเสถียรภาพอย่างเร่งด่วนในพื้นที่ชายแดนจีน-เมียนมารซึ่งมีการสู้รบปะทุขึ้น และความพยายามในการรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีฉันมิตรที่ยั่งยืนระหว่างเมียนมาและจีน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moip-union-minister-receives-chinese-delegation/