ล็อคดาวน์กค.ปี64 ทรุดดัชนีเศรษฐกิจ จากรายได้หด-การจ้างงานลดต่อเนื่อง เทียบช่วง เม.ย.ปี63

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่มีการระบาดในเดือนเม.ย.จนต่ำกว่าปีก่อนในช่วงเดือนเม.ย. 2563 ที่มีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ขณะที่การระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่มีการแพร่ระบาดได้ง่าย และ การล็อกดาวน์ ตลอดจนจำกัดการเดินทางใน 10 จังหวัด ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ จำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับสูงกดดันให้ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) ปรับลงต่อเนื่องจนอยู่ที่ 34.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าช่วงเดือนเม.ย. 63 ที่มีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศที่ 35.1 ดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้น ภาครัฐควรมีมาตรการเยียวยาที่ตรงจุดและเข้าถึงง่ายพร้อมกับเร่งเข้าควบคุมสถานการณ์รวมถึงในเรื่องของวัคซีนเพื่อให้สถานการณ์การระบาดบรรเทาลง

‘เวียดนาม’ ยังคงเป็นแหล่งดึงดูดของบริษัทผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของโลก

ข้อมูลจากศูนย์วิจัย Fitch Solutions เปิดเผยว่าถึงแม้เวียดนามเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เวียดนามยังเป็นที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากให้เป็นฐานการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากการสำรวจชี้ว่าผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติส่วนใหญ่ 65% ได้ตั้งฐานการผลิตในภาคเหนือของเวียดนาม ขณะที่ 30% สร้างโรงงานในภาคใต้และอีกไม่กี่แห่งในภาคกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจของกลุ่มซัมซุงของเกาหลีใต้ที่เข้ามาลงทุนไปแล้วกว่า 17.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนาม และมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของยอดการส่งออกทั้งหมดของเวียดนามผ่านสินค้าไฮเอนด์ ‘โทรศัพท์’ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติเข้ามาเวียดนาม คือ เขตอุตสาหกรรม (IP) โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าเขตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่สะดวกต่อการขนส่งและมีระบบโลจิสติกส์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-attractive-to-multinational-electronics-companies/206095.vnp

‘สตาร์ทอัพเวียดนาม’ ระดมทุน 12 ล้านเหรียญสหรัฐ

เว็บไซต์การเงิน ‘DealStreet Asia’ รายงานว่าสตาร์ทอัพอย่าง ‘Loship’ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าในเวียดนาม ประสบความสำเร็จจากการระดมทุน 12 ล้านเหรียญสหรัฐในระดับ ‘Pre-Series C’ ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการจัดระดมทุนครั้งนี้ นำโดยบริษัทร่วมทุน ‘BAce Capital’ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ‘Ant Group’ และ ‘Sun Hung Kai’ ทั้งนี้ สตาร์ทอัพดังกล่าว มีแผนที่จะขยายกิจการไปยังพื้นที่ท้องถิ่นและลงทุนทางด้านเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริมการทำธุรกิจแบบ B2B นอกจากนี้ ด้วยการระดมทุนรอบใหม่ ‘Loship’ คาดว่าจำนวนประชากรเวียดนามราว 10% จะหันมาใช้แอปนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า และบริษัทยังได้ตั้งเป้าว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการจัดส่งและอีคอมเมิร์ซชั้นนำในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-startup-rakes-in-12-million-usd-funding/206092.vnp

ค้าชายแดนมูเซ ดิ่งลง 12% !

กระทรวงพาณิชย์ เผย การค้าชายแดนของ Muse ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 63-64 ลดลงถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากการติดเชื้อ COVID-19 ในเมียนมาที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้การค้าผ่านแดนมูเซต้องหยุดลงโดยทันที พร้อมกับด่านชายแดนอื่นๆ ของเมียนมาและจีนมาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.64 โดยมูลค่าการค้าด่านชายแดนมูเซระหว่างเมียนมาและจีนลดลงต่ำสุด 3.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 ถึง 23 ก.ค.64 ท่ามกลางความไม่มั่นคงทางการเมืองและการระบาดของไวรัสโควิด-19 ลดลงจาก 4.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ถั่วและข้าวโพด และผลิตภัณฑ์ทางทะเล เช่น ปู กุ้ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังส่งออกก๊าซธรรมชาติไปจีนยังผ่านชายแดนมูเซ-รุยลีอีกด้วย ส่วนการนำเข้าจะเป็นวัตถุดิบ CMP (สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม) เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค

ครม.เตรียมงบจัดซื้อวัคซีนโควิด ปี 2565

กระทรวงสาธารณสุขมีแผนที่จะจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติมในปี 2565 เพื่อให้สามารถเสนอวัคซีนฟรีให้กับประชาชนได้มากขึ้น หากการระบาดของไวรัสยังคงดำเนินต่อไปในปีหน้า กระทรวงสาธารณสุขได้ขอให้รัฐบาลจัดเตรียมงบประมาณสำหรับการซื้อวัคซีนเพิ่มเติม เนื่องจากการจัดหาวัคซีนฟรีผ่าน COVAX Facility ที่นำโดย UN จะสิ้นสุดในปีนี้ เป้าหมายสูงสุดคือการให้วัคซีนแก่ประชากรทั้งหมด โดยตั้งเป้า 50% จะได้รับการฉีดวัคซีนในปีนี้ สปป.ลาวคาดว่าจะได้รับวัคซีน 7.5 ล้านโดสในปีนี้ ซึ่งบริจาคโดยรัฐบาลของประเทศอื่น ๆ รวมถึงผ่าน COVAX Facility “สิ่งนี้จะช่วยขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนไปข้างหน้า และทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการฉีดวัคซีน 50% ของประชากรทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ โดยกระทรวงสาธารณสุขประมาณการว่าจะต้องใช้เงินเกือบ 18 เหรียญสหรัฐฯ ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนเพียงคนเดียว หมายความว่าต้องใช้เงินเกือบ 100 ล้านเหรียญสหรัฐในการฉีดวัคซีนทุกคน อ้างการประมาณการร่วมกันของกระทรวงสาธารณสุข ธนาคารโลกและองค์การอนามัยและยูนิเซฟ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_to_154.php

กัมพูชาตั้งเป้าผลิตเกลือตอบสนองต่อความต้องการภายในประเทศ

กลุ่มผู้ผลิตเกลือในกัมพูชา กล่าวถึงปริมาณผลผลิตเกลือในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศในปีนี้ ช่วยลดความจำเป็นในการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศของกัมพูชา โดย ณ เดือนกรกฎาคม 2021 การผลิตเกลือในจังหวัดกำปอตอยู่ที่ 68,682 ตัน ลดลงจาก 85,000 ตันในปีที่แล้ว แต่ถือว่ามีเกลือเพียงพอต่อความต้องการที่อยู่ที่ประมาณ 37,000 ตันต่อปี ซึ่งนาเกลือของจังหวัดกำปอตมีพื้นที่ประมาณ 3,700 เฮกตาร์ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อยู่ที่จำนวน 2,857 เฮกตาร์ ตามรายงานของชุมชนผู้ผลิตเกลือแห่งกำปอต-แกบ กัมพูชา โดยราคาเกลือในปัจจุบันอยู่ที่ 10,000 เรียล (2.5 ดอลลาร์) ถึง 12,000 เรียล (3 ดอลลาร์) ต่อกระสอบ 50 กก.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50911832/kingdoms-2021-salt-production-will-meet-domestic-demand/

ความเชื่อมั่นอุตฯร่วง ล็อกดาวน์ฉุดกำลังซื้อรายได้หาย

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.64 อยู่ที่ระดับ 78.9 ลดลงจากเดือนที่แล้วที่ระดับ 80.7 ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดในรอบ 14 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 63 ส่วนดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 89.3 ปรับตัวลดจากที่คาดไว้อยู่ที่ระดับ 90.8 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ สอท. เสนอภาครัฐให้เร่งตรวจเชิงรุกในกลุ่มพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากกลุ่มที่ไม่ติดเชื้อ เร่งฉีดวัคซีนให้แก่แรงงาน ม.33 ในสถานประกอบการ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ พร้อมนำระบบแจ้งเตือนผู้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่พัฒนาขึ้นโดย Google และ Apple มาใช้ และเร่งรัดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

ที่มา: https://www.naewna.com/business/593828

กัมพูชาเร่งเดินหน้าพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล “Bakong” ใช้ภายในประเทศ

ธนาคารแห่งชาติของกัมพูชา (NBC) เดินหน้าพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลในกัมพูชาภายใต้หน่วยงานของธนาคารกลาง (CBDC) โดยสกุลเงินดิจิทัลในกัมพูชารู้จักกันในชื่อ Bakong ซึ่งผู้อำนวยการทั่วไปของ NBC และหัวหน้าโครงการ Bakong กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Nikkei ว่ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ Bakong มีผู้ใช้ถึง 200,000 ราย ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากเมื่อ 3 เดือนก่อน บนพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชน ให้บริการด้านธุรกรรมการชำระเงินและการโอนเงิน ซึ่งตั้งแต่โครงการสกุลเงินดิจิทัล Bakong ได้ถูกจัดสร้างขึ้นมีผู้ใช้บริการเกือบ 6 ล้านราย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 สร้างปริมาณเงินหมุนเวียนเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลกัมพูชายังมีนโยบายอื่นๆ ที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มการใช้สกุลเงินท้องถิ่นให้มากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของ Wall Street Journal ปัจจุบันในกัมพูชามีการใช้สกุลเงินดอลลาร์สูงกว่าร้อยละ 90 ของธุรกรรมทางการเงินในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50911542/cambodia-explores-cross-border-transactions-of-cbdc-like-bakong-now-used-by-20000-people/

การส่งออกสินค้าทางทะเลลดฮวบเหลือ 626 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย รายได้จากการส่งออกจากภาคประมง 10 เดือน (1 ต.ค.-23 ก.ค.) ของปีงบประมาณ 63-64 ลดลงเหลือ 626.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 และความยากลำบากในการขนส่ง นอกจากนี้ การส่งออกทางทะเลผ่านพรมแดนจีน-เมียนมา ยังต้องหยุดชะงักหลังผลกระทบและมาตรการด้านความปลอดภัยของ COVID-19 ซึ่งจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมา โดยคิดเป็นมูลค่า 254 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเลโดยรวมที่ 850 ล้านดอลลาร์ในปีประมาณที่ผ่านมา ปัจจุบัน จีนปิดพื้นที่ชายแดน เพราะการระบาดโควิดในเมียนมา เมียนมาส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเล เช่น ปลา กุ้ง และปู ไปยังตลาดใน 40 ประเทศ ได้แก่ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย และประเทศในสหภาพยุโรป สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เมียนมาการนั้นดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาคมาก หากประเทศสามารถส่งเสริมเทคโนโลยีการแปรรูปได้ ก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศและสร้างรายได้ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/marine-product-exports-plummet-to-626-mln-as-of-23-july/#article-title

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าประชากรกว่า 80% ชำระเงินผ่านดิจิทัล

แผนร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและดิจิทัล ปี 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, ข้อมูลดิจิตอล, คุณลักษณะของบุคคลทางดิจิทัล การชำระเงินดิจิทัลและการสร้างรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ซึ่งแผนร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว การชำระเงินค่าน้ำค่าไฟ 75% จะชำระเงินในรูปแบบไร้เงินสด (Cashless) และการชำระเงินผ่านจุดขาย 90% จะใช้วิธีการชำระเงินที่มิใช้เงินสด อีกทั้ง ยังได้ตั้งเป้าประชากรเวียดนามกว่า 90% ให้มาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และภายในปี 2568 ประชากรกว่า 70% จะมีข้อมูลยืนยันตัวบุคคลดิจิทัลในการใช้บริการดิจิทัลทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้เสนอให้ทบทวนและแก้ไขกฎหมายทางการเงิน นโยบาย ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ เพื่อขจัดอุปสรรคในการชำระเงินแบบมิใช้เงินสดและส่งเสริมให้ประชาชนทำธุรกรรมไร้เงินสด

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-to-open-e-payment-for-80-of-population-by-2025-318297.html