ธุรกิจเวียดนามลงทุนไปต่างประเทศ ‘พุ่ง’ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

กระทรวงวางแผนและการลงทุน เผยว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจเวียดนามลงทุนไปยังต่างประเทศ มูลค่า 545.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี จำนวนโครงการใหม่ 18 โครงการ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนราว 142.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนใหญ่จะลงทุนไปยังโครงการทางด้านเทคโนโลยี คิดเป็นสัดส่วน 19.6% ของยอดลงทุนรวม รองลงมาค้าปลีกค้าส่ง เป็นต้น สหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนชาวเวียดนามมากที่สุด ด้วยเม็ดเงินเงิน 302.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยกัมพูชา (89.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ฝรั่งเศส แคนาดา เยอรมันและเนเธอแลนด์ ตามลำดับ ทั้งนี้ ณ วันที่ 20 เมษายน เวียดนามมีโครงการลงทุนไปยังต่างประเทศ เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 21.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ลงทุนในภาคขุดเหมือง (36% ของยอดเงินทุนทั้งหมด) และการเกษตรกรรม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-firms-overseas-investment-surges-in-first-four-months/201241.vnp

การยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายส่งผลราคาข้าวโพดเมียนมาตกฮวบ

Myanmar Corn Industrial Association เผย ไทยไฟเขียวนำเข้าข้าวโพดปลอดภาษี (พร้อมยื่น Form D) ผ่านด่านแม่สอด ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31  และสถานะการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับการส่งออกข้าวโพดได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาข้าวโพดตกต่ำลง ทั้งนี้เมียนมาตั้งเป้าส่งออกข้าวโพดไปไทย 1 ล้านตันในปีนี้ จนถึงขณะนี้มีการส่งออกไปแล้วประมาณ 600,000 ตัน ในปีประมาณ 62-63 มีการส่งออกข้าวโพด 2.2 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 360 ล้านดอลลาร์ ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่อยู่ในรัฐชาน , คะฉิ่น, กะเหรี่ยง, มัณฑะเลย์, ซะไกง์ และมะกเว ผลผลิตข้าวโพดในประเทศอยู่ที่ประมาณ 2.5-3 ล้านตันต่อปี –

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/revocation-of-withholding-tax-exemption-on-corn-exports-causes-price-downtrend/#article-title

ส.อ.ท.ผวาโควิดยืดเยื้อ ฉุดความเชื่อมั่นผู้ประกอบการต่ำสุดในรอบ 8 เดือน แนะรัฐกู้เงินเพิ่มเยียวยาระลอกใหม่

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. 64 อยู่ที่ระดับ 84.3 ลดจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 87.3 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนก.ย. 63 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงทั้งการค้าการลงทุน การเดินทางท่องเที่ยว ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับเดือนเม.ย. ที่มีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ภาคการผลิตชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งหากมีการฉีดวัควีนล่าช้า เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทที่นำมาเยียวยาประชนอาจไม่เพียงพอ จึงเสนอว่ารัฐบาลควรกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท หรือกู้เพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้มาตรการเยียวยาครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มและผู้ประกอบการ

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6389438

มูลค่าหลักทรัพย์ PPAP แตะระดับสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา

หุ้น Phnom Penh Autonomous Port (PPAP) พุ่งสูงสุดตลอดกาลในช่วงของการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) ในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.83 ณ ราคาปิดที่ 5,120 เรียลต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทพุ่งไปแตะเกือบ 78 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศอนุมัติขอยกเว้นการจ่ายเงินปันผลที่ร้อยละ 6.5 ตามที่บริษัทเคยได้กล่าวไว้ โดยผู้ถือหุ้นทั้งหมดร้อยละ 92.3 เห็นด้วยที่จะพักการจ่ายเงินปันผลประจำปี ซึ่งหากสถานการณ์เป็นปกติ ผู้ถือหุ้นในกลุ่ม “คลาส A” จะได้รับเงินปันผลที่ร้อยละ 6.5 ของราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 5,120 เรียล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50853449/ppap-shares-reach-all-time-high-on-csx-index/

มูลค่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสแรก

กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 1.47 พันล้านดอลลาร์ ไปยังเวียดนามในไตรมาสแรกของปี 2021 เพิ่มขึ้นอย่างมากกว่า 443% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 103% สู่ 2.69 พันล้านดอลลาร์ ตามตัวเลขของกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม รายงานโดยสำนักข่าวเวียดนาม (AVI) ในจำนวนนี้การส่งออกของเวียดนามไปยังกัมพูชาขยายตัว 15.83% แตะ 1.22 พันล้านดอลลาร์ โดยสินค้าหลักที่กัมพูชาส่งออกไปยังเวียดนามในช่วงเวลานี้ ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์มูลค่ารวม 711 ล้านดอลลาร์, ยางพารา 318.3 ล้านดอลลาร์, ผัก 13.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 497%, 999% และ 48.2% ตามลำดับ ซึ่งสินค้าที่นำเข้าจากเวียดนามส่วนใหญ่ ได้แก่ เหล็ก, น้ำมัน, ก๊าซ, เสื้อผ้าและรองเท้าเพิ่มขึ้น 20.8% 18.4% และ 10.6% ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50853469/cambodias-exports-to-vietnam-up-443-in-first-three-months/

ไทยสนับสนุนสปป.ลาว ในการรับมือการแพร่ระบาดโควิด -19

สถานเอกอัครราชทูตสปป.ลาวได้มอบเงินสดและวัสดุมูลค่ากว่า 16 ล้านบาทให้กับรัฐบาลลาวเพื่อสนับสนุนความพยายามในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด -19 โดยเงินทุนและวัสดุอุปกรณืดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือจากประเทศไทย รัฐบาลไทยบริจาคเงินพร้อมเวชภัณฑ์รวมมูลค่ากว่า 12.8 ล้านบาท (4.1 พันล้านกีบ) โดยประกอบด้วยเงินบริจาค 2 ล้านบาท เตียงผู้ป่วย 180 เตียง หน้ากากอนามัย 50,000 ชิ้น อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) 2,370 ชิ้น เครื่องกระตุ้นหัวใจ, เครื่องตรวจสอบผู้ป่วย, เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด, เครื่องควบคุมออกซิเจนและเครื่องวัดออกซิเจนแบบพัลส์ ทั้งนี้จะยังมีการส่งมอบอีกครั้งในสิ้นเดือนนี้มูลค่ากว่า 8.5 ล้านบาท ถึงแม้สถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ในสปป.ลาวจะรุนแรงเกินการควบคุมของสาธารณสุขสปป.ลาว แต่กระนั้นสปป.ลาวได้รับความช่วยเหลือที่ดีจากพันธมิตรที่สำคัญอย่างจีนและล่าสุดไทย ซึ่งจะทำให้สปป.ลาวก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรในด้านสาธารณสุขตลอดการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการรับมือวิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Thailand_88.php

“ไอโฟน” เสียตำแหน่งท็อป 5 ตลาดสมาร์ทโฟนในเวียดนาม

แอ๊ปเปิ้ล (Apple) หลุดจากรายชื่อแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำ 5 อันดับแรกในเวียดนาม ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนแบ่งการตลาดที่มียอดขายสูงสุดในเวียดนาม ได้แก่ ซัมซุง (Samsung), ออปโป้ (Oppo), เสียวหมี่ (Xiaomi) และวิโว่ (Vivo) และวินสมาร์ท (VinSmart) ทั้งนี้ ความต้องการ ไอโฟน (iPhone) ลดลงในช่วงต้นปี เนื่องจากผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์แอ๊ปเปิ้ลในเทศกาลช็อปปิ้งช่วงปลายปี ในขณะเดียวกัน กลุ่มสมาร์ทโฟนแอนดรอย (Android) จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดที่หลากหลาย และผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากกว่าไอโฟน นอกจากนี้ กรมศุลกากร เผยว่ายอดการส่งออกสินค้าสูงสุดของเวียดนาม คือ โทรศัพท์และชิ้นส่วน มีมูลค่า 14.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจีนเป็นตลาดรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รองลงมาสหภาพยุโรป สหรัฐฯ เกาหลีใต้และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/iphone-loses-position-in-top-five-in-vietnam-31428.html

ธุรกิจสหรัฐฯ เล็งขยายห่วงโซ่อุปทานในเวียดนาม

ตามรายงานของบริษัท QIAM (ผู้ให้บริการทางด้านซัพพลายเชนในสหรัฐอเมริกา) เผยว่าจากการสำรวจของกลุ่มธุรกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ 43% มองว่าเวียดนามเป็น 1 ใน 3 ประเทศชั้นนำในภูมิภาคที่มีการซื้อสูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2564 และพุ่งขึ้น 2 เท่าจากปี 2562 ซึ่งข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความต้องการในการตรวจสอบและติดตามคุณภาพการดำเนินงานในเวียดนามเพิ่มขึ้น การเติบโตในครั้งนี้ ขยายตัวมากกว่าในช่วงระดับก่อนการระบาดโควิด-19 เป็นผลมาจากความต้องการในการตรวจสอบในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2562 นอกจากนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ระบุว่าเวียดนามไม่ใช่ประเดียวในภูมิภาคที่ได้รับประโยชน์จากปริมาณธุรกิจที่ขยายตัว เนื่องจากมีความต้องการทางด้านงานตรวจสอบและติดตามคุณภาพการดำเนินงานในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/944703/us-firms-interested-in-vietnamese-supply-chain.html

ผู้ผลิตเร่งหาแนวทางผลิตสินค้าเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ในการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างสมาคมสหกรณ์อุตสาหกรรมของเมียนมา กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และชลประทาน และกระทรวงสหภาพแรงงาน เมื่อเช้าวันที่ 8 พฤษภาคม 64 ที่ผ่านมา โดยมีความเห็นตรงกันว่าควรส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่มีคุณภาพและจำหน่ายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อพัฒนาชนบทสร้างโอกาสในการทำงานและยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ซึ่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิตต้องหาแนวทางและวิธีการในการผลิตซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิภาคและเพื่อเจาะตลาดในและต่างประเทศ ทั้งนี้ยังขอความช่วยเหลือทางเทคนิคในการผลิตจากกรมเกษตรและกรมอุตสาหกรรมขนาดเล็กเพื่อการผลิต

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/manufacturers-urged-to-seek-ways-for-commercial-scale-manufacturing-of-products-penetrate-local-and-foreign-markets/#article-title

โควิดแรง ชาวบ้านแห่ซื้อของห้างเพิ่ม30% พาณิชย์ยันไม่ต้องตื่นกักตุน

กรมการค้าภายใน เผย จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมีประชาชนจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยนิยมซื้อสินค้าในร้านโชห่วยหรือร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ส่วนห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่จะซื้อสินค้าในกลุ่มอาหาร ซอสปรุงรส อุปกรณ์ประกอบอาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่ม 20%-30% ซึ่งมีการเตรียมสต๊อกสินค้าไว้เพียงพอ ขณะที่สินค้าจำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือยังคงมีปริมาณเพียงพอสามารถจัดส่งได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือให้ขายหน้ากากอนามัยไม่เกินกว่าราคาที่กำหนด และขอมั่นใจว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพอไม่จำเป็นต้องกักตุน

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/842356