ตลาดไอพีโออาเซียนร้อนแรง ‘ไทยโดดเด่นสุด’

นักวิเคราะห์ต่างแดนมอง ปีนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะทำไอพีโอทุบสถิติ ข้อมูลชี้การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดดเด่นมากในบรรดาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานอ้างคำพูดของ เคน ฟง หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดทุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทวิเคราะห์ดีลลอจิก ระบุ “ไทยกำลังทำได้ดีมาก สานต่อเทรนด์ดีๆ ต่อเนื่องจากปีก่อน” ซึ่งข้อมูลจากดีลลอจิกชี้ว่าขณะนี้ไทยมีการนำหุ้นออกขายต่อสาธารณะครั้งแรก (ไอพีโอ) รวมแล้ว 2.92 พันล้านดอลลาร์ โดยประมาณร้อยละ 70-80 ของการทำไอพีโอเกิดขึ้นจากไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ของทุกปี

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/943792

เอกชนเซ็งเลื่อนวัคซีนโควิด-19 ซ้ำเติมธุรกิจ หวั่นฉุดเศรษฐกิจฟื้นตัวช้านำไปสู่การปิดกิจการ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผย เอกชนมีความกังวลแผนการบริหารการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของภาครัฐที่เลื่อนออกไปพร้อมมูลข่าวสารต่างๆ ที่สร้างความสับสนให้ประชาชน จนอาจกระทบต่อเป้าหมายที่ต้องการฉีดให้ประชาชน 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 70% ภายในสิ้นปีนี้ และการเปิดประเทศก็ยิ่งชะลอออกไปจะซ้ำเติมเอสเอ็มอี เพราะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าก็อาจนำไปสู่การปิดกิจการในที่สุด ซึ่งขณะนี้เอกชนมีความกังวลการเลื่อนฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกันตนม.33 บางส่วนออกไป ซึ่งเป็นแรงงานประมาณ 5-6 ล้านคน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6452820

กัมพูชาและไทยตกลงส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดน

กัมพูชาร่วมกับไทยตกลงส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าข้ามพรมแดนระหว่างกัน เพื่อที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายทางด้านการค้า ซึ่งในปี 2020 ทั้งสองประเทศกำหนดเป้าหมายไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกล่าวผ่านการประชุมร่วมกันระหว่างรองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลทำให้การค้าทวิภาคีมีมูลค่าอยู่ที่เพียง 7.24 พันล้านดอลลาร์ หรือครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งสินค้าเกษตรยังคงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังประเทศไทย ในขณะที่การส่งออกของไทยไปยังกัมพูชาส่วนใหญ่ประกอบด้วยพลังงาน ปุ๋ยทางการเกษตร อาหาร และเครื่องสำอาง เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50872147/cambodia-thailand-agree-to-boost-cross-border-checkpoint-trade/

ไทยจ่อรับอานิสงส์อาร์เซ็ป จากการที่ญี่ปุ่นลดภาษีเพิ่มเติม

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผย ผลวิเคราะห์ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เจาะเป็นรายประเทศ ล่าสุดได้ศึกษาการลดภาษีของญี่ปุ่น หลังจากที่รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติเข้าร่วมความตกลงในเดือน เม.ย.64 พบว่ามีสินค้า 207 รายการที่จะลดเหลือ 0% ทันทีที่อาร์เซ็ปมีผลบังคับใช้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร ได้แก่ ประมง ผลไม้ เช่น ส้ม สับปะรด แป้งจากมันฝรั่ง แป้งสาคู น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวัน เป็นต้น  ภายใต้อาร์เซ็ป จีนยังลดภาษีเพิ่มเติมอีก 33 รายการ เช่น พริกไทย สับปะรดแปรรูป น้ำมะพร้าว ฯลฯ ส่วนเกาหลีใต้ ลดภาษีเพิ่มเติมอีก 413 รายการ เช่น เช่น ผักผลไม้แปรรูปและไม่แปรรูป น้ำมันที่ได้จากพืช แป้งมันสำปะหลัง ฯลฯ

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2114956

ปลื้มค้าไทย-เวียดนามโต ‘จุรินทร์’ยัน4เดือนแรกขยายตัว20%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 ได้ให้การต้อนรับนายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr.Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ณ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือแนวทางเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ และการค้าในยุคโควิด-19 พร้อมผลักดันแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่งออกสินค้าไทยและเตรียมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม ใน 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค. – เม.ย.) ขยายตัวถึง 20% แม้ในปี 2563 การค้าสองฝ่ายจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มูลค่า 600,000 ล้านบาททำได้ 517,524 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทั้งนี้ การหารือดังกล่าว มี 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-เวียดนาม (Joint Trade Committee: JTC) และ ประเด็นที่ 2 เวียดนามได้สนับสนุนความเห็นของไทยในการประชุมเอเปกที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.naewna.com/business/578555

ความเชื่อมั่นนักลงทุน ร้อนแรง การฉีดวัคซีนเป็นปัจจัยหนุน

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือน มิ.ย.64 ว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า หรือเดือน ส.ค.64 อยู่ที่ 126.40 เพิ่ม 1.6% จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ 124.37 โดยมีปัจจัยหนุน คือ การฉีดวัคซีน ความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการไหลเข้าของเงินทุน ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังยังเป็นขาขึ้น โดยมีเป้าหมายดัชนีปีนี้ไว้ที่ 1,650 จุด แต่ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน และยุโรป จากการเปิดประเทศ ส่วนปัจจัยในประเทศ คือ การจัดสรรและกระจายวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/investment/2110485

ดีเดย์เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวไม่กักตัว 1 ก.ค. นี้

ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ เห็นชอบเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วของจังหวัดภูเก็ต (Phuket Sandbox) ในวันที่ 1 ก.ค. 2564 โดยมีข้อกำหนด ดังนี้ (1) ต้องได้รับวัคซีนครบโดสตามเกณฑ์ของวัคซีนแต่ละชนิด มีระยะเวลาการฉีดมากกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี (2) รับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีน ส่วนอายุระหว่าง 6 – 18 ปี จะต้องได้รับการตรวจเชื้อก่อน (3) มีเอกสารรับรองการฉีดจากประเทศต้นทาง (4) ติดตั้งแอปพลิเคชันแจ้งเตือน (5) พักในโรงแรมที่ผ่านมาตรฐาน 14 คืน หลังจากนั้นสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นได้ (6) รายงานตัวและรับการตรวจตามมาตรการควบคุมโรคและท่องเที่ยวได้ภายใต้มาตรการป้องกันตามมาตรฐาน DMHTTA

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/654831

เวียดนามเผยเมืองไหเซือง ส่งออกลิ้นจี้ไปยังไทยเป็นครั้งแรก

บริษัท Ameii Vietnam ทำการส่งออกลิ้นจี่สดกว่า 10 ล้านตัน ไปยังประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผลไม้สดของเวียดนามไปยังชั้นวางสินค้าในประเทศไทย ทางตัวแทนของบริษัทดังกล่าว กล่าวว่าการส่งออกลิ้นจี่ข้างต้นนั้น ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของธุรกิจ เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองชั้นนำของผลไม้สดในภูมิภาค และสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าลิ้นจี่ของเวียดนามสามารถแข่งขันกับผลไม้ชนิดอื่นได้ อย่างไรก็ดี จากรายงานของกรมวิชาการทางการเกษตรและพัฒนาชนบท จังหวัดไฮเซือง (Hai Duong) เมื่อวันที่ 31 พ.ค. เผยว่าทางจังหวัดได้เก็บเกี่ยวและจำหน่ายลิ้นจี่ 29,000 ตัน และในจำนวนดังกล่าว มีปริมาณ 15,000 ตัน ที่ทำการส่งออกไปยังประเทศจีน สปป.ลาวและกัมพูชา

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hai-duong-exports-lychee-to-thailand-for-first-time/202634.vnp

การค้าชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาลดลงในช่วง 4 เดือนแรกของปี

การค้าข้ามพรมแดนของไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ทำให้รัฐบาลไทยเชื่อมั่นว่าการค้าดังกล่าวจะกลับมาเติบโตร้อยละ 3 ถึงร้อยละ 6 ในปี 2021 หลังจากมูลค่าหดตัวที่ร้อยละ 1.7 ในปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การค้าข้ามพรมแดนกับกัมพูชาลดลงร้อยละ 4.5 ในช่วงเวลาเดียวกัน สาเหตุหลักมาจากการปิดชายแดนในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน โดยการเติบโตทางด้านมูลค่าการค้าข้ามพรมแดนของไทยเป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวง หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ผ่านคณะกรรมการที่ปรึกษาภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ร่วม เพื่อขจัดอุปสรรคด้านการส่งออกและเร่งการเปิดด่านชายแดนอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50867316/cambodias-border-trade-with-thailand-down-4-5-percent-in-four-months/

ดึงโมเดล EEC ปั้นเขตเศรษฐกิจใหม่ ดูดลงทุนหลังโควิด 4 แสนล้าน

คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือเลขาฯอีอีซี) เผย ในช่วงที่ทั้งโลกต้องเผชิญกับกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นจังหวะดีที่ไทยจะใช้เวลานี้เพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและเตรียมพื้นที่เพื่อรอการลงทุนที่จะกลับมาหลังสถานการณ์ปกติ โดยการเพิ่มเขตเศรษฐกิจพิเศษ 21 เขต 9 กลุ่มทั่วไทยและใช้เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้นแบบ พร้อมเสริมสิทธิประโยชน์อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ศักยภาพสูงในแต่ละพื้นที่ โดยแผนนี้จะถูกผลักดันเข้าไปเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับ 13 (ปี 2566-2570) หวังดึงเงินลงทุนโดยตรง (FDI) กว่า 4 แสนล้านบาท ดัน GDP โตได้ถึง 4-5%

ที่มา: https://www.prachachat.net/economy/news-679526