กลุ่มโลจิสติกส์เรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนปรนข้อจำกัดด้านการขนส่ง

ในขณะที่ธุรกิจภายในประเทศกัมพูชากำลังเผชิญกับความกดดัน พยายามดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดของรัฐบาลหลังจากที่ได้ออกมาตรการล็อกดาวน์ ร่วมกับความกังวลเรื่องความปลอดภัยทางด้านอาหาร โดยสมาคมโลจิสติกส์แห่งกัมพูชา (CLA) จึงได้ขอให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงเพื่อช่วยบรรเทาความตึงเครียดเหล่านี้ลง ซึ่งอุปสรรคที่พบในขณะนี้คือบริษัทที่มีสำนักงานในเขตพื้นที่สีแดงจำเป็นต้องหยุดกิจการชั่วคราว เจ้าหน้าที่เกือบทั้งหมด ไม่สามารถเดินทางผ่านไปยังพื้นที่นั้นๆได้ โดยถูกจำกัดหรือห้าม กิจกรรมทางศุลกากร ซึ่ง CLA ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานรัฐเพื่อขอใบอนุญาตจราจรสำหรับรถบรรทุกสำหรับงานหนักทุกประเภทที่มีความจำเป็นในการเดินทางเข้าและออกจากพื้นที่ที่ถูกปิดกั้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50843076/logistics-group-calls-on-govt-to-ease-restrictions-to-ensure-deliveries/

การล็อกดาวน์ที่ผ่านมาของกัมพูชา อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

รัฐบาลกัมพูชาได้ทำการล็อกดาวน์ประเทศลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ขึ้น โดยในบางพื้นที่ของเมืองหลวงถูกกำหนดให้เป็น “เขตพื้นที่สีแดง” ส่งผลทำให้จำเป็นต้องทำการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2021 ใหม่อีกครั้ง จากผลกระทบข้างต้น ซึ่ง The Economist Intelligence Unit (EIU) สื่อจากสหภาพยุโรปได้ตีพิมพ์ในหัวข้อ The Economist รายงานว่าอาจจะมีการปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกัมพูชาในปี 2021 ลงจากร้อยละ 4.6 ลงมาสู่ช่วงระดับร้อยละ 3 ถึง 4 จากรายงานของ Nikkei Asia โดยการระบาดและการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและธุรกิจภาคเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนสำคัญคิดเป็นประมาณร้อยละ 70 ของ GDP ประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50843002/lockdowns-movement-restrictions-could-affect-economic-outlook/

เวียดนามเผยเมืองฮานอยตั้งเป้าดึงดูดเม็ดเงินทุนจากต่างชาติ 40 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า

นาย Vũ Duy Tuấn รองผู้อำนวยการกระทรวงวางแผนและการลงทุนประจำเมือง กล่าวว่าเมืองฮานอยวางแผนที่จะดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ราว 30-40 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564-2568 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณากาการดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศตั้งแต่ปี 2559-2560 พบว่าเมืองดังกล่าว ดึงดูดโครงการที่ได้รับทุนจากต่างชาติ จำนวน 3,113 โครงการ เป็นเงินทุน 26.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นตัวเลขที่สูง 4.2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตามตัวเลขสถิติการลงทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม มีจำนวน 2,907 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 71.52 พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่ไม่ได้รับงบประมาณจากท้องถิ่น นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการประชาชนของเมือง ขอให้สำนักงานติดตามเป้าหมายของเมืองไว้และจัดทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแผนงานที่ตั้งไว้ ตลอดจนให้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/929376/ha-noi-set-to-attract-up-to-40-billion-in-fdi-over-next-five-years.html

ผู้เชี่ยวชาญเผยอีคอมเมิร์ซของเวียดนาม เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 64

ตัวแทนจากสมาคมอีคอมเมิร์ซเวียดนาม (VECOM) กล่าวว่าองค์กรต่างๆ เริ่มปรับตัวให้เข้ากับอีคอมเมิร์ซ จากจำนวนผู้บริโภคออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ค้าปลีก การขนส่งอาหาร การชำระเงินออนไลน์ การฝึกอบรมและการตลาดเติบโตขึ้น อีกทั้ง เมืองฮานอยและกรุงโฮจิมิหน์ เป็นเมืองสำคัญในการผลักดันตลาดอีคอมเมิร์ซและผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้นกับสินค้าที่มีความหรูหราและมูลค่าสูง หรือซื้อสินค้าที่จำเป็น ทั้งนี้ Amazon Global Selling Vietnam ระบุว่าอีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยอัตราการขยายตัว 22% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าในปี 2564 จะโตพุ่ง 20%

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/business/experts-e-commerce-to-grow-solidly-in-2021-729420.html

ท่าเทียบเรือกำแพงกันดินเมืองคาเลวาคืบหน้าไปแล้ว 40%

หน่วยงาน Water Resources and Improvement of River Systems Department ของเมืองคาเลวา เผยก่อสร้างท่าเทียบเรือกำแพงกันดินเสร็จแล้ว 40% ในตลาดเมืองคาเลวา จังหวัดกะเล่ เขตซะไกง์ โครงการจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 64 โดยโครงการนี้เริ่มก่อสร้างวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 64 ขณะนี้กำลังสร้างกำแพงกันดินยาว 350 ฟุต โดยบริษัท Chindwin Dragon (Chindwin Nagar) ซึ่งมีงบประมาณการก่อสร้าง 150 ล้านจัต จากกองทุนรัฐบาลในส่วนของภูมิภาคสำหรับปีงบปรัมาณ 63-64 เมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้วจะมีภูมิทัศน์สวยงาม เป็นระเบียบและสามารถป้องกันดินถล่มได้

ที่มา : https://cdn.myanmarseo.com/file/client-cdn/gnlm/wp-content/uploads/2021/04/21-April-2021.pdf

เวียงจันทน์เข้าสู่การปิดกั้นหลังจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวประกาศปิดนครหลวงเวียงจันทน์เป็นเวลา 14 วันเนื่องจากหลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 20 รายในวันนี้ (20 เมษายน 64) คาดการณ์ว่ามีจุดเริ่มต้นในช่วงวันหยุดปีใหม่ของสปป.ลาวขณะ โดยรายละเอียดในประกาศเป็นมาตรการที่เข้มงวดสูงสุดเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อาทิ การให้พนักงานรัฐทำงานที่บ้าน ห้ามเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปยังจังหวัดอื่นและจากจังหวัดอื่นเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์ยกเว้นผู้ที่อาศัยอยู่ถาวร ห้ามพ่อค้าและเจ้าของร้านค้ากักตุนสินค้า การชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมและศาสนาต้องมีคนไม่เกิน 20 คน จุดตรวจและจุดผ่านแดนระหว่างประเทศและแบบดั้งเดิมทั้งหมดจะยังคงปิดอย่างเข้มงวดในอีก 14 วัน มาตรการดังกล่าวทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องชะงักอีกครั้ง ภายหลังจากคลี่คลายจาการระบาดระบาดแรก

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/04/21/vientiane-enters-lockdown-following-covid-19-outbreak/

ภาคธุรกิจในกัมพูชาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชากล่าวถึงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายในประเทศและต่างประเทศ มีจำนวนกว่า 7,997 รายการ ในปี 2020 เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกิดการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อให้เป็นเครื่องหมายการค้าประจำชาติและเสริมสร้างเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ ซึ่งกระทรวงยังวางแผนที่จะจดทะเบียนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เป็นเครื่องหมายการค้าของประเทศ เช่น Nom Banh Chok (ก๋วยเตี๋ยวเขมรแบบดั้งเดิม) ในจังหวัดเสียมราฐ เครื่องปั้นดินเผาในจังหวัดกำปงจนัง เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50842368/trademarks-registered-up-30-percent-more-unique-products-promoted/

การส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี

การส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 สู่มูลค่าประมาณ 99 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 อยู่ในปัจจุบัน โดยข้อมูลจากสมาคมการค้าระหว่างประเทศของเกาหลีใต้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มว่ากัมพูชานำเข้าสินค้าจากเกาหลีลดลงเล็กน้อยคิดเป็นมูลค่า 146 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงเพียงร้อยละ 0.6 ซึ่งสินค้าสำคัญของกัมพูชาที่ส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าเดินทาง เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยาง ผลิตภัณฑ์ยา และสินค้าการเกษตร ในขณะที่สินค้านำเข้าหลักเกาหลี ได้แก่ ยานพาหนะ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในครัว เครื่องดื่ม ยา และผลิตภัณฑ์พลาสติก โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 884 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 ลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งคาดว่าปริมาณการค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีมีผลบังคับใช้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50842371/cambodias-exports-to-south-korea-up-5-percent-in-first-quarter/

จุรินทร์ ฟิตจัด ดันส่งออกต่อเนื่อง เปิดไทม์ไลน์แผนจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ปี 64

จุรินทร์ ฟิตจัด ดันส่งออกต่อเนื่อง เปิดไทม์ไลน์แผนจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ปี 64 ตั้งเป้าทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท พร้อมจัดอบรมทีมเซลล์แมนจังหวัดให้เป็นแม่ไก่ไปอบรม SME ในทุกพื้นที่เพื่อเพิ่มยอดส่งออก โดยเมื่อ วันที่ 21 เมษายน 2564 ที่สถาบันพัฒนา ผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานมอบนโยบายให้กับทีม Salesman จังหวัดในรูปแบบ ออนไลน์ผ่านระบบ Webinar ภายใต้โครงการฝึกอบรมเชิง ปฏิบัติการ Salesman จังหวัด Go-inter โดยในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา การส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และมีความเห็นตรงกันว่าการส่งออกของไทยน่าจะพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังทะยานขึ้น ตัวเลขการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่ประเผชิญกับวิกฤตโควิด สงครามการค้า และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตัวเลขการส่งออกที่ต่ำสุดช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ติดลบร้อยละ 22 โดยในเดือนธันวาคม 63 กลับมาบวกถึงร้อยละ 4.7 ซึ่งในปีนี้การส่งออกยังมีสัญญาณที่ดี ทะยานขึ้นเป็นลำดับ สำหรับสินค้าสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกประกอบด้วย สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร เครื่องใช้ในบ้าน และภาคอุตสาหกรรม อื่นๆ ตลาดสำคัญที่มีศักยภาพ รองรับสินค้าของไทย เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นอาเซียน CLMV และตลาดในทวีปออสเตรเลีย ขยายตัวได้ดี แม้การท่องเที่ยวจะติดปัญหา

ที่มา : https://www.naewna.com/business/567431

ประธานาธิบดีเรียกร้องให้นานาประเทศเสริมสร้างเอกภาพเพื่อรับมือกับความท้าทาย

ประธานาธิบดีสปป.ลาว Thongloun Sisoulith ได้เรียกร้องให้ประเทศที่เป็นมิตรในภูมิภาคและทั่วโลกเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการเสริมสร้างธรรมาภิบาลระดับโลกและสร้างอนาคตที่ดีในทางเศรษฐกิจเละสังคมให้กับโลกในงานประชุม Boao Forum for Asia Annual Conference 2021 การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่น รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้นำในภูมิภาคเอเชียหารือเกี่ยวกับแผนการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด -19และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว งานประชุมนี้มีความสำคัญต่อสปป.ลาวอย่างยิ่งจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำระดับภูมิภาค นักวิจัยและผู้กำหนดนโยบายอื่น ๆ เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคและเพิ่มความร่วมมือในประเด็นต่างๆ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการก้าวผ่านวิกฤตของโลกในปีนี้และอนาคตที่ยังไม่แน่นอนเกี่ยวกรระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_President_75.php