สปป.ลาวสูญเสียเงินจากการคอรัปชั่นตลอดหลายปีมากกว่า 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ตามรายงานของหน่วยงานตรวจสอบรัฐบาลสปป.ลาว รัฐบาลลาวสูญเสีย 767 ล้านเหรียญสหรัฐจากการคอร์รัปชั่นตั้งแต่ปี 2559 โดยโครงการพัฒนาและการลงทุนของรัฐบาล เช่น การก่อสร้างถนนและสะพานเป็นต้นเหตุของการรับสินบนที่แพร่หลาย แม้จะมีการตรากฎหมายต่อต้านการทุจริตที่ทำให้การใช้อำนาจในทางมิชอบ การฉ้อฉลของภาครัฐ การยักยอกเงิน และการติดสินบน บทลงโทษยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้คนทุจริตเกรงกลัว ทั้งนี้รัฐบาลได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการกับการทุจริตที่แพร่หลายในด้านการเมืองและทุกภาคส่วนของสังคมเศรษฐกิจและยังยืนยั่นว่าการตรวจสอบเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของรัฐบาลและพรรค

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/laos/corruption-losses-04182022171408.html

น้ำมันขึ้นราคา กีบอ่อน ทำร้ายผู้ผลิตลาว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ รายงานวิจัยระบุว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิง ก๊าซ และอาหารสัตว์ขึ้นราคา จากข้มูลระบุว่าราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 28% จาก 77.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ สิ้นปี 2564 เป็น 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนเมษายน 2565 อีกทั้งการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของเงินกีบ จากรายงานเงินกีบอ่อนค่าลง 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และ 5% เมื่อเทียบกับเงินบาทข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและการอ่อนค่าของ kip เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อในสปป.ลาว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6.25% ในเดือนมกราคมเป็น 8.54% ในเดือนมีนาคมทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นส่งผลให้ราคาในตลาดสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อหมู ปลา และผัก สร้างความลำบากให้กับประชาชนทั่วไป เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจสปป.ลาวที่กำลังฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างช้าๆ จากการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten73_rising.php

ตัวเลขผู้โดยสารรถไฟสปป.ลาว พุ่งทะยานรับวันปีใหม่ลาว

จำนวนผู้โดยสารบนรถไฟลาว-จีนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีใหม่ของลาว โดยสถานีต่างๆ ใน Kasy และ Nga จะเปิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รถไฟเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม โดยวันที่ 10 เมษายน รถไฟ EMU จำนวน 468 ขบวนได้เดินทางแล้ว บรรทุกผู้โดยสาร 244,400 คน ที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารสูงสุดในหนึ่งวันคือ 3,160 คน นอกจากนี้ รถไฟบรรทุกสินค้าได้เดินทางข้ามพรมแดนจำนวน 589 เที่ยว บรรทุกสินค้าได้ 365,400 ตัน สินค้าที่ทำการขนส่งได้แก่ ยาง ปุ๋ยชีวภาพ สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์สื่อสาร รถยนต์ สิ่งทอ ผัก และดอกไม้ รถไฟสปป.ลาวได้สร้างแนวโน้มที่ดีให้กับเศรษฐกิจสปป.ลาว จากการเป็นตัวเชื่อมเส้นระหว่างสปป.ลาวไปจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกแง่หนึ่งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและดึงนักท่องเที่ยวจากจีนมายังสปป.ลาว

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten72_Railway.php

สปป.ลาวร่วมมือธุรกิจเกาหลี ดึงนักท่องเที่ยวเกาหลีเพิ่ม

ผู้ประกอบการทัวร์และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องจากสปป.ลาวและสาธารณรัฐเกาหลีกำลังมองหาวิธีดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีให้เดินทางมาลาวมากขึ้น หลังจากที่นักท่องเที่ยวเกาหลีกลุ่มแรกเดินทางมาลาวภายใต้โครงการท่องเที่ยวสีเขียว สมาคมการท่องเที่ยวแห่งเกาหลีกล่าวว่า บริษัททัวร์ได้รับประโยชน์จากขั้นตอนที่ง่ายขึ้นในการนำกลุ่มทัวร์จากต่างประเทศเข้ามา หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายข้อจำกัดการเข้าประเทศ ภายใต้โครงการท่องเที่ยวสีเขียว ซึ่งกำหนดให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด เพื่อความปลอดภัยกระทรวงยังแนะนำให้เปิดใหม่บางส่วนต่อไปในกรณีที่เห็นว่าการเปิดใหม่อย่างเต็มรูปแบบที่เสนอนั้นไม่เหมาะสมในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten71_Lao_Korean.php

เวียดนามสนับสนุนการปรับปรุงการชลประทาน เพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในสปป.ลาว

การก่อสร้างระบบชลประทานบนพื้นที่ 500 เฮกตาร์ของจังหวัดคำม่วนได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงความมั่นคงด้านอาหารและส่งเสริมการทำการเกษตรเชิงพาณิชย์ในสปป.ลาว โดยจะมีการสร้างหัวปั๊มแบบใช้ไฟฟ้าพร้อมทั้งช่องชลประทาน 2,996 เมตร ยาว 20,665 เมตร 2 ช่อง และเขื่อนกั้นน้ำจากดินถล่ม ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนามจำนวน 263 พันล้านดอง และรัฐบาลลาวบริจาค 27,000 ล้านด่อง ต้นทุนโครงการทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 290 พันล้านดอง เมื่อเสร็จสมบูรณ์ จะเพิ่มศักยภาพระบบชลประทานให้แข็งแกร่งขึ้น เสริมสร้างการผลิตในฟาร์มอย่างมีนัยสำคัญและปรับปรุงการเพาะปลูกพืชผลในลักษณะที่ส่งผลให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในสปป.ลาว การก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสองปี โครงการนี้ถูกมองว่ามีความสำคัญทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสังคม นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมมิตรภาพพิเศษระหว่างลาวและเวียดนาม ในปีนี้ รัฐบาลทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือแปดฉบับในด้านความมั่นคง การควบคุมชายแดน การพัฒนาเศรษฐกิจ การธนาคาร การศึกษา การดูแลสุขภาพ และไฟฟ้า

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten70_Vietnam.php

การลงทุน การส่งออกสินค้าเกษตรที่แข็งแกร่งจะผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจสปป.ลาว

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) คาดการณ์เศรษฐกิจสปป.ลาวจะเติบโตร้ยละ 3.4 ในปีนี้และร้อยละ 3.7 ในปี 2566 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวในตลาดภายในประเทศ รวมทั้งการท่องเที่ยว ในเดือนมกราคมรัฐบาล ได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดและเร่งการฉีดวัคซีน โดยเป้าหมายเพื่อให้ประชากรร้อยละ 80 ได้รับวัคซีนครบสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2565 ด้านการส่งออกภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรมีส่วนทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในปีที่แล้ว จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลายแห่งสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเพิ่มการผลิตพลังงานเพื่อการส่งออก การส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นในทุกหมวด ส่วนหนึ่งเพื่อตอบสนองความต้องการจากประเทศจีน ทั้งนี้การเติบโตของการส่งออกมีแนวโน้มดำเนินต่อไปในปีนี้และปีหน้าจากการลงทุนที่คาดการณ์ไว้เพื่อรองรับการพัฒนาพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และไฟฟ้าคาร์บอนต่ำอื่นๆ ในปี 2564 เศรษฐกิจของสปป.ลาวจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากผลประกอบการที่แย่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้โมเมนตัมของเศรษฐกิจในระเทศแย่ลง รัฐบาลจะต้องระมัดระวังตัวโดยให้วัคซีนแก่คนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และส่งเสริมความโปร่งใสในการจัดการการเงินสาธารณะ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาดและดึงดูดการลงทุนที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Investment68.php

กวางสีของจีนเปิดตัวรถไฟบรรทุกสินค้าข้ามพรมแดนผ่านทางรถไฟจีน-ลาว

รถไฟบรรทุกสินค้าออกจากหนานหนิง เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันเสาร์ สู่เวียงจันทน์    สปป.ลาว นับเป็นการเปิดรถไฟบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศแห่งแรกของกวางสีที่วิ่งผ่านทางรถไฟจีน-ลาว Qian Feng ผู้จัดการทั่วไปของ Sinotrans Limited Guangxi Branch ผู้มีส่วนร่วมในการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนกล่าวว่าเมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเลและวิธีการแบบดั้งเดิมอื่น ๆ รถไฟบรรทุกสินค้าสามารถลดเวลาการขนส่งได้นานกว่า 10 วัน ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัทต่างๆ การขนส่ง   การรถไฟจีน-ลาวได้สร้างสภาพการจราจรที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ของกวางสีเพื่อเข้าสู่ตลาดลาว และบริษัทจำนวนมากที่สนใจในการพัฒนาธุรกิจในลาวเนื่องจากมองเห็นโอกาศจากการมีของโรงการรถไฟสปป.ลาว-จีน

ที่มา : http://www.news.cn/english/20220404/333146b908444124934d7ae25e7c2615/c.html

อินเดียให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนา 4 แห่งในสปป.ลาว

รัฐบาลอินเดียได้มอบเงินจำนวน 184,677 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับโครงการสี่โครงการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านสุขภาพ การค้า และการศึกษาในสปป.ลาว เงินทุนนี้จัดทำขึ้นภายใต้โครงการ Quick Impact ของกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง-คงคา อีกโครงการหนึ่งที่จะได้รับการสนับสนุนคือโครงการปรับปรุงการผลิตกาแฟออร์แกนิกและการกระจายความหลากหลายของเศรษฐกิจในชนบทและการเสริมสร้างศักยภาพของชาวบ้านในหมู่บ้านน้ำวัง อำเภอเวียงภูคา จังหวัดหลวงน้ำทา รัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับสปป.ลาวภายใต้กรอบความร่วมมือระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาว และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น นับตั้งแต่ก่อตั้งโครงการ Quick Impact ในปี 2555 ลาวได้อนุมัติโครงการ 11 โครงการ มูลค่ารวม 532,677 เหรียญสหรัฐ โครงการดังกล่าวช่วยส่งมอบผลลัพธ์ที่จับต้องได้ซึ่งช่วยปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของผู้คนทั่วทั้งอนุภูมิภาค ในประเทศลาว กัมพูชา เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Indai_65_22.php

สมาคมธุรกิจเวียดนามตั้งขึ้นในสปป.ลาว

สมาคมธุรกิจเวียดนามสองแห่งในภาคกลางและตอนใต้ของสปป.ลาวได้รับการจัดตั้งขึ้นในฐานะองค์กรสมาชิกของสมาคมธุรกิจเวียดนามเพื่อความร่วมมือและการลงทุนในประเทศลาว (BACI) ในระหว่างการประชุมครั้งแรก สมาคมทั้งสองได้อนุมัติเลือกคณะกรรมการบริหารสำหรับวาระการดำรงตำแหน่งปี 2022-27 รวมถึงหารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงาน  ระหว่างการดำรงตำแหน่ง สมาคมจะมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนสมาชิกและมีบทบาทเป็นสะพานเชื่อมธุรกิจและหน่วยงานการจัดการของรัฐของสปป.ลาวและเวียดนาม พวกเขายังจะทำงานเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างนโยบายเกี่ยวกับการจัดการเศรษฐกิจและสังคมของท้องถิ่นของทั้งสองประเทศ และส่งเสริมกิจกรรมประกันสังคมในสปป.ลาว

ที่มา : https://www.einnews.com/pr_news/567078813/vietnamese-business-associations-set-up-in-laos

ค่าแรงขั้นต่ำไม่เหมาะสมทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในสปป.ลาว

สหพันธ์แรงงานลาว (LFTU) เรียกร้องให้ภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า จ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้คนงานเพิ่มขึ้นจาก 1,100,000 กีบเป็น 1,500,000 กีบต่อเดือนในปีนี้ สหพันธ์ฯ กังวลว่าลาวจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ หากบริษัทไม่จ่ายค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น โดยที่คนจำนวนมากจะแห่ไปทำงานที่ไทย ค่าครองชีพในประเทศลาวสูงขึ้นและค่าแรงขั้นต่ำไม่ตรงกับความต้องการพื้นฐานของคนงาน ในขณะเดียวกัน นายจ้างในประเทศไทยมีความต้องการแรงงานที่มีทักษะเพิ่มขึ้นและเสนอค่าจ้างที่เหมาะสม บริษัทในลาวประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานและขาดข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น กระบวนการจัดหางานอย่างไม่เป็นทางการและการขาดการคุ้มครองการจ้างงาน ในขณะเดียวกัน ยังขาดตัวบ่งชี้ตลาดงานเกี่ยวกับโอกาสในการจ้างงานและการว่างงาน ส่วนใหญ่มีทักษะและสามารถหาเงินได้ในประเทศไทย ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำจะสูงกว่าในลาว สถิติจากกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมระบุว่ามีแรงงานกว่า 246,000 คน เดินทางกลับจากไทยไปยังลาวตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ เมื่อมีการเลิกจ้างคนจำนวนมาก แต่มีแรงงานมีฝีมือ 150,000 คน เดินทางกลับประเทศไทยในเดือนมกราคมปีนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Low63.php