งาน Job Fest by 108-1009 สร้างตำแหน่งกว่า 500 อัตรา

หลังจากการระบาดของ COVID-19 เริ่มเกิดขึ้นหลายธุรกิจกลับมาดำเนินทำให้มีความต้องการแรงงานเช่นกันดังนั้นโอกาสสำหรับทั้งผู้หางานและภาคธุรกิจ จึงเกิดเป็นเป็น Job Fest by 108-1009 ที่จะเป็นตัวกลางในการนำทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกันในงานโดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-30 มิถุนายน 2563 ในรูปแบบออนไลน์ 100% โดยผู้จัดงานมีเป้าหมายที่จะสร้างตำแหน่งงานแก่แรงงานกว่า 500 อัตราและภาคธุรกิจอีกนับร้อย งานจะมีกิจกรรมที่หลากหลายรวมถึงตลาดงานออนไลน์โดยผ่านทาง www.JobFest.la นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาสดบน Facebook “Job Fest by 108” สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วม ปัจจุบันจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้อัตราการว่างงานของาสปป.ลาวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2 มาเป็นร้อยละ 25 ซึ่งงานดังกล่าวจะช่วยบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 ด้านแรงงาน ในอีกด้านยังถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนและการจ้างงานที่มากขึ้นอีกด้วย

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/06/09/78851/

สายการบินภายในประเทศจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อความอยู่รอดหลังวิกฤติ COVID-19

กระทรวงคมนาคมและสื่อสารเผย สายการบินภายในประเทศของเมียนมาจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อความอยู่รอดในช่วงหลังวิกฤติ COVID-19 ซึ่งก่อนที่จะมีวัคซีนต้องปฏิบัติตามแนวทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารมาตร การรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับสนามบินเครื่องบินและพนักงานต้องดำเนินการ เป็นผลให้สายการบินจะต้องร่วมมือกันเพื่อลดต้นทุนหรือพิจารณาเพิ่มค่าตั๋วเครื่องบินเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น สายการบินขนาดเล็กจะไม่สามารถอยู่รอดได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการรายใหญ่หรือการควบรวมกิจการ สายการบินในประเทศมีค่าใช้จ่ายสูงและส่วนใหญ่พึ่งพาผู้โดยสารชาวต่างชาติ ตอนนี้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลขยายสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไปยังภาคธุรกิจเพื่อช่วยให้สายการบินในประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลกำลังพิจารณาแผนให้เงินจำนวน 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยสายการบินแห่งชาติเมียนมาโดยจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ในขณะเดียวกันสายการบินบางแห่งได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินและค่าธรรมเนียมการจอดเป็นเวลาหนึ่งปี

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/domestic-airlines-need-join-hands-survival-post-covid.html

เมียนมาพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการค้าภายในอาเซียน

อาเซียนรวมถึงรวมถึงเมียนมาจะร่วมกันเพื่อฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยการเสริมสร้างการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมถึงความพยายามจัดการกับอุปสรรคทางการค้าส่งเสริมการค้าและการลงทุนและขยายสาขาของความร่วมมือเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจของ COVID-19 โดยมีผู้นำอาเซียน ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีตกลงที่ประสานงานเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจของการระบาดไปยังประเทศของตนและภูมิภาค ซึ่งเมียนมาจะร่วมมือกันเพื่อลดขั้นตอนการนำเข้าและส่งออกภายในภูมิภาค การอำนวยความสะดวกในการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์สำหรับการป้องกัน COVID-19 และการยกเว้นอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในการนำเข้าและข้อกำหนดของ FDA (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเพื่อรักษาการหมุนเวียนของสินค้าและบริการ ยกเว้นจากการใช้มาตรการที่ไม่จำเป็นที่ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร สินค้ายา และเวชภัณฑ์ในภูมิภาค

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-commits-facilitating-trade-within-asean.html

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของกัมพูชาคาดว่าจะลดลงมากกว่าร้อยละ 10 ในปีนี้

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของกัมพูชาคาดว่าจะลดลงมากกว่าร้อยละ 10 ในปีนี้ เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวที่ถือเป็นแหล่งรายได้หลักและการส่งออก รวมถึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัส Covid-19 โดยความพยายามของทางภาครัฐบาลในการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในเศรษฐกิจกัมพูชา ซึ่งธนาคารโลกกล่าวว่ามีการใช้เงินเรียลหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3 ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.5 ในปี 2561 ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัว โดยคาดว่าเงินสำรองระหว่างประเทศของกัมพูชาจะลดลงในปีนี้มาอยู่ที่ 16.8 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 6.8 เดือนของการนำเข้าที่คาดหมาย ไปจนถึงมูลค่า FDI ที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดของกัมพูชาลดลงร้อยละ 52.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2020 ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดทั่วโลกของ COVID-19 ต่อความต้องการการลงทุนระหว่างประเทศตามรายงานของธนาคารโลก โดยเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2563 คาดว่าจะหดตัวระหว่างร้อยละ -1 ถึง -2.9 เนื่องจากการแพร่กระจายของโรคระบาดตามการรายงานทางเศรษฐกิจล่าสุดของธนาคารโลกสำหรับประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731635/cambodias-forex-reserves-to-decline-in-2020/

พนมเปญเมกามอลล์พร้อมเปิดตัวในปี 2565

ผู้บริหารระดับสูงของ Chip Mong Retail กล่าวว่าการก่อสร้าง Chip Mong 271 Mega Mall เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 20 และพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าภายในปี 2565 โดยมีขนาดพื้นที่กว่า 150,000 ตารางเมตร 5 ชั้น มีที่จอดรถ 2,000 คันและมอเตอร์ไซค์ 500 คัน รวมมูลค่ากว่า 130 ล้านดอลลาร์ในการก่อสร้างบนที่ดินมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ ในใจกลางกรุงพนมเปญ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ภายในพื้นที่พัฒนา Chip Land ของ Landmark 271 เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศกัมพูชา โดยเชื่อว่าโครงการก่อสร้างนี้จะช่วยให้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางตอนใต้ของกรุงพนมเปญไปสู่เขตการค้าที่ทันสมัยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลเพื่อเพิ่มเมืองสีเขียวและศูนย์กลางการค้า ซึ่งกรรมการผู้จัดการของ DBD Engineering Co Ltd. กล่าวว่าการลงนามใน MoU กับ Chip Mong เพื่อดำเนินการพัฒนาและติดตั้งระบบไฟฟ้าแสดงให้เห็นถึงการดำเนินการที่เหมาะสมของโครงการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731799/mega-mall-20-percent-complete/

กัมพูชาเพิ่มแรงกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวในประเทศ

กระทรวงการท่องเที่ยวและสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชา (CATA) ได้กระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดใหญ่ ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเมษายน 2563 ซึ่งกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.16 ล้านคน ซึ่งลดลงมากกว่าร้อยละ 52 ตามตัวเลขจากกระทรวงการท่องเที่ยว โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงร้อยละ 70 และนักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงร้อยละ 50 ขาดทุนราว 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจอื่นๆ ในภาคบริการด้วย ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวแผนกขนส่งและการท่องเที่ยวกล่าวว่ากระทรวงกำลังให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในช่วงวิกฤต ด้วยการจัดแพคเกจทัวร์ รวมถึงการเดินทาง, ร้านอาหาร, โรงแรม, มัคคุเทศก์และอื่นๆ ในราคาที่สมเหตุสมผล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731378/boost-urged-for-tourism/

ไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชาอนุมัติสินเชื่อ 817 ล้านดอลลาร์ เพื่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

สมาคมไมโครไฟแนนซ์ของกัมพูชา (MFIs) อนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่าเกือบ 817 ล้านดอลลาร์สำหรับลูกค้ามากกว่า 180,000 ราย จากจำนวนลูกค้าเกือบ 200,000 ราย ที่ร้องขอความช่วยเหลือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมตามรายงานของไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา (CMA) โดยโฆษกของ CMA กล่าวว่าในปัจจุบันมีเพียง 4 ภาคธุรกิจที่ได้รับอนุมัติให้ปรับโครงสร้างสินเชื่อ รวมถึงการท่องเที่ยว, การก่อสร้าง, การขนส่งและอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งสมาคมกำลังพิจารณาเพิ่มการเกษตรเป็นภาคที่ห้าในการปล่อยสินเชื่อ โดยธนาคารแห่งชาติของกัมพูชา (NBC) ออกคำสั่งในเดือนมีนาคมให้กับทุกธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างการชำระคืนเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและลดภาระของลูกหนี้ที่ต้องเผชิญกับรายได้ลดลงอันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งขอให้สถาบันการเงินลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับเครดิตและยกเลิกค่าปรับจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731293/microfinance-817-million-of-loans-approved-for-restructure/

โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีน คืบหน้าไปกว่า 90 %

นายบุญทองพิชิตผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองและหัวหน้าหน่วยต่อต้านการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลได้นำคณะผู้แทนกระทรวงคมนาคมและกระทรวงโยธาธิการ เข้าตรวจความคีบหน้าในโครงการรถไฟลาว – ​​จีน Xiaa Qianwen CEO บริษัท รถไฟลาว – ​​จีนรายงานความคืบหน้าการก่อสร้าง รถไฟลาว – ​​จีน ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 คืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ของงานโดยรวม ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟที่แล้วเสร็จจะประกอบด้วยอุโมงค์ 75 สะพาน 164 แห่ง โดยเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่เริ่มต้นจากห้วยน้ำเย็นอำเภอนาดีทอนนครหลวงเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง ความยาวรวม 409 ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวยังมีโครงการอื่นๆที่จะช่วยส่งเสริมด้านคมนาคมของสปป.ลาว โดยโครงการต่างๆ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2564

ที่มา : http://www.pasaxon.org.la/pasaxon-detail.php?p_id=1537&act=politic1-detail

ข้อพิพาทระหว่างแรงงาน-ภาคธุรกิจ

คุณพงษ์ชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแรงงานและสวัสดิแถลงการณ์การถึงข้อพิพาทระหว่างแรงงานและภาคธุรกิจต่างๆในปัจจับนซึ่งมีหลายองค์กรที่ขัดคำสั่งประกาศภาครัฐเรื่องการยังคงต้องจ่ายค่าจ้างแก่แรงงานและหากธุรกิจไหนมีปัยหาด้านการเงินให้ติดธนาคารกลางเพื่อเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือทั้ง 2 ฝ่าย สภาอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ของการประเมินว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะสูญเสียรายได้กว่า 350 ล้าน $ จากแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลอดจนการปิดพรมแดนทั่วประเทศไม่ได้มีการเดินทางต่างประเทศเข้ามาในสปป.ลาว ผลที่ตามมาคือการตกงานของแรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวนอกจากนี้ธุรกิจอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันโดยกว่าร้อยละ 97 เป็น SMEs คิดเป็น 16% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหากภาคธุรกิจต้องปิดตัวไปรวมถึงการตกงานของแรงงานในภาคธุรกิจต่างๆ

ที่มา : https://lao.voanews.com/a/outbreak-of-covid-19-caused-more-dispute-of-workers-layoff-in-laos/5452839.html

เวียดนามส่งออกหน้ากากอนามัย 30 ล้านชิ้นไปยังอเมริกาเหนือ

เวียดนามส่งออกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตในเวียดนาม 30 ล้านชิ้นไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านการบริการขนส่งเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการแก่ประชาชนท้องถิ่นและผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพที่ต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเที่ยวบินแรกออกจากกรุงฮานอยเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. และเปลี่ยนสายการบินที่ฮ่องกง ก่อนจะถึงอเมริกาเหนือ ต่อมาเที่ยวบินสองเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ทั้งนี้ ‘บริษัท ไอทีแอล โลจิสติกส์’ เป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่ในเวียดนาม ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการหน้ากากที่ได้รับมาตรฐาน 3 พันล้านชิ้นและเวียดนามก็เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ ซึ่งในเดือนพ.ค. ทางบริษัทดังกล่าวได้จัดส่งอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) 1.5 ล้านชุดไปยังนิวยอร์ก,สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึง 16 เม.ย. เวียดนามส่งออกหน้ากาก 415.7 ล้านชิ้น ญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุด รองลงมาเกาหลีใต้ เยอรมัน สหรัฐฯและฮ่องกง ตามรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/30-million-made-in-vietnam-medical-masks-delivered-to-north-america-21162.html