บริษัท เดินเรือกังวลเรื่องความหนาแน่นของท่าเรือสีหนุวิลล์

Sihanoukville Autonomous Port (PAS) ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของกัมพูชาและเป็นหนึ่งในการเชื่อมโยงที่สำคัญที่สุดไปยังโลกภายนอกกำลังประสบปัญหาความออัดซึ่งกลายเป็นแหล่งที่มาของความกังวลสำหรับ บริษัท ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่สำคัญบางแห่ง โดยพูดถึงความแออัดอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อกัมพูชาเนื่องจากความสำคัญของท่าเรือต่อเศรษฐกิจของประเทศมากถึงประมาณ 70% ของการนำเข้าและส่งออกของกัมพูชาผ่านทางท่าเรือ ซึ่งปัญหาอาจยังคงอยู่จนกว่าการก่อสร้างลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ใหม่จะเสร็จสมบูรณ์ โดยเฟสที่หนึ่งของการขยายตัวของพอร์ตซึ่งได้รับทุนจากญี่ปุ่นกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเทอร์มินัลใหม่จะเพิ่มความสามารถในการจัดการคอนเทนเนอร์ของพอร์ตจากปัจจุบัน 700,000 หน่วยเทียบเท่าเท้า (TEUs) เป็น 1.29 ล้าน TEUs ภายในปี 2566

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50630492/shipping-companies-concerned-over-congestion-at-pas/

สนามบินเล็งเห็นการเติบโตของผู้โดยสารในช่วงครึ่งปีแรกของกัมพูชา

สนามบินนานาชาติทั้ง 3 แห่งของกัมพูชามีการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในช่วงหกเดือนแรกของปีเนื่องจากมีเส้นทางบินใหม่เชื่อมต่อราชอาณาจักรไปยังจุดหมายปลายทางทั่วเอเชีย จากรายงานตัวของสนามบิน Vinci ผู้ถือหุ้นหลักในสนามบินกัมพูชารวมถึงสนามบินทั้ง 3 แห่งได้รองรับผู้โดยสารถึง 6 ล้านคนในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสนามบินทั้ง 3 แห่งเป็นเที่ยวบินโดยสารพาณิชย์ทั้งหมด 56,346 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.1% ซึ่งผลการดำเนินการของสายการบินในกัมพูชาเติบโตถึง 25.1% ในไตรมาส 2 และรัฐบาลกัมพูชาคาดหวังว่าจะมีการเปิดเส้นทางใหม่ในปีหน้าเพื่อเชื่อมต่อกัมพูชาไปยังอินเดียและรัสเซียรวมถึงประเทศในตะวันออกกลาง และจุดหมายปลายทางใหม่ในประเทศจีน โดยตัวเลขการรองรับผู้โดยสารขาเข้าในปีที่แล้วอยู่ที่ 10 ล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50630544/airports-see-strong-passenger-growth-in-h1/

กระทรวงการต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรปร่วมมือกับกัมพูชาปลดล็อกการท่องเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวและสำนักงานพัฒนาแห่งฝรั่งเศส (AFD) ร่วมมือกันจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว 3 จังหวัดในกัมพูชา ได้แก่เมือง กำปอต ,พระตะบอง และกระแจะ โดยพยายามพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งในระหว่างการประชุม AFD ได้รับคำแนะนำจากกระทรวงมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการซึ่งจะจัดทำโดยหน่วยงานของฝรั่งเศส โดยทั้ง 3 เมืองข้างต้นมีแหล่ง ท่องเที่ยวที่ดีคือแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แต่ยังด้อยพัฒนาอยู่ ซึ่งทั้ง กำปอต ,พระตะบอง ,และกระแจะ มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมเพราะเคยเป็นเมืองอาณานิคมของฝรั่งเศส โดยในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนทั้ง 3 จังหวัดถึง 2.6 ล้านคน และนอกเหนือจากการช่วยเหลือในด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลฝรั่งเศสผ่าน AFD แล้วรัฐบาลฝรั่งเศสยังช่วยกัมพูชาในด้านการพัฒนาภาคการประมง ,การเกษตร ,พลังงาน และด้านสุขภาพอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50630273/ministry-afd-team-up-to-unlock-provinces-tourism-potential/

องค์กรใหม่เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างญี่ปุ่นและกัมพูชา

องค์กรที่พยายามส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจและวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งระหว่างญี่ปุ่นและกัมพูชาเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีรายงานว่า Mr.Kimura ตัดสินใจจัดตั้ง JCBC หลังจากมีการหารือกับMr.Rachana หลังจากที่เขาไปเยี่ยมกัมพูชาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีองค์กรมิตรภาพในกัมพูชา – ญี่ปุ่นอย่างน้อย 3 องค์กร ได้แก่ สมาคมมิตรภาพญี่ปุ่น – กัมพูชา (JCA) ,สมาคมมิตรภาพโทยามะ – กัมพูชา (TCFA) และสมาคมมิตรภาพมิตรภาพญี่ปุ่น – กัมพูชา (WJCFA) การเปิดตัว JCBC นั้นคาดว่าจะสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นซึ่งเป็นแหล่งความช่วยเหลือและการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับกัมพูชา ซึ่งมีบริษัทญี่ปุ่นกว่า 1,500 บริษัท ดำเนินงานอยู่ในประเทศกัมพูชา และได้มีการช่วยเหลือจากทางญี่ปุ่นไปยังกัมพูชาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมากว่า 720 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50630252/new-organisation-to-boost-japan-cambodia-business-ties/

ส่งออกกัมพูชาไปสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก

การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีแรกมูลค่าเกินกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งข้อมูลล่าสุดมาจากทางรัฐบาลสหรัฐ โดยการส่งออกของกัมพูชาขยายตัวกว่า 30% ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งสหรัฐสั่งซื้อสินค้าจากกัมพูชามูลค่า 2.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ และทางกัมพูชานำเข้าสินค้าจากสหรัฐมูลค่า 264 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วการค้าระหว่างกัมพูชาและสหรัฐอเมริกามีมูลค่าถึง 4.26 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในเดือนกรกฎาคม 2559 กัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษสำหรับการส่งออกสินค้าบางชนิดไปยังสหรัฐฯ โดยไม่มีการเสียภาษีภายใต้โครงการ Generalized System of Preferences (GSP) ในปี 2561 กัมพูชาส่งออกสินค้าภายใต้ GSP มูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลของกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50630230/exports-to-us-soar-in-h1/

เปิดศูนย์กระจายและจัดส่งผักในเมืองกันดาลประเทศกัมพูชา

จังหวัดกันดาลได้เปิดตัวศูนย์การจัดส่งผัก ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัยของอาหารและจัดหาตลาดสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยศูนย์แห่งนี้เป็นแห่งแรกในประเทศกัมพูชาถูกสร้างขึ้นด้วยเงินบริจาคจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านโครงการ “Kusanone” มีห้องปฏิบัติการขนาดเล็กเพื่อตรวจสอบสารกำจัดศัตรูพืชเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่ออกสู่ตลาดมีความปลอดภัย ความหวังคือจะช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมเรื่องของความปลอดภัยของอาหารและกลายเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างญี่ปุ่นและกัมพูชา ซึ่งทางรัฐบาลกัมพูชาเน้นย้ำว่าจะดำเนินโครงการปฏิรูปที่ครอบคลุมเพื่อปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย ซึ่งอุตสาหกรรมเกษตรในกัมพูชาได้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยจะนำมาตรฐานอุตสาหกรรมชุดใหม่ในภาคการเกษตรมาใช้ในไม่ช้า ที่เรียกกันว่า “CamGap” เพื่อให้เห็นถึงคุณภาพของสินค้าเกษตรในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50629110/vegetable-shipping-centre-opens-in-kandal/

กัมพูชาและเวียดนามรวมมือพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

กัมพูชาและเวียดนามตกลงที่จะร่วมมือกันพัฒนาเมืองที่ชาญฉลาด โดยการประชุมระหว่างกัมพูชาและเวียดนามได้พูดถึงเรื่อง กรุงพนมเปญพัฒนาขึ้นอย่างมาก แต่ต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรที่คับคั่งและปัญหาการจัดการขยะที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งโฮจิมินห์ก็กำลังประสบกับปัญหาหลายอย่างเช่นเดียวกับที่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดของเวียดนาม ซึ่งฝ่ายต่างๆระบุว่าความร่วมมือในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยสมาร์ทซิตี้จะเป็นรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อทำให้การดำเนินงานและชีวิตในเขตเมืองดีขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป้าหมายคือการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เมืองต้องเผชิญรวมถึงการจราจรที่ติดขัด มลภาวะและอาชญากรรมที่มีสูง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50629109/cambodia-vietnam-to-collaborate-in-smart-cities/

กลุ่มธนาคารรายย่อยของกัมพูชายังคงเติบโตได้ดี

การเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากในภาคการเงินที่มีผู้คนหนาแน่นในช่วงครึ่งปีแรกเป็นผลมาจากการบริหารเศรษฐกิจมหภาคที่ดีและการเมืองในประเทศที่มาเสถียรภาพ โดย NBC เปิดเผยว่าเงินให้สินเชื่อในภาคธนาคารและสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นประมาณ 22.4% ในครึ่งปีแรก มูลค่าอยู่ที่ 27.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกลุ่มธนาคารรายย่อยในกัมพูชายังคงมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลดความยากจน และความไม่เท่าเทียมในสังคม โดยกัมพูชามีธนาคารพาณิชย์ 44 แห่ง ธนาคารพาณิชย์เฉพาะธุรกิจ 15 แห่ง สถาบันการเงินไมโครไฟแนนซ์ 74 แห่ง และผู้ประกอบการสินเชื่อชนบท 254 ราย สินทรัพย์รวมในภาคธนาคารและการเงินรายย่อยเพิ่มขึ้น 19.2% ในครึ่งปีแรกสู่ระดับ 44.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50629111/banking-microfinance-sectors-maintain-strong-growth/

SCG รายงานผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งในครึ่งปีแรกในกัมพูชา

กลุ่ม บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCG) รายงานผลประกอบการเป็นบวกในช่วงครึ่งปีแรกรวมถึงการดำเนินงานในกัมพูชา จากรายงานตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนรายได้จากการขายของ SCG เพิ่มขึ้น 11% ในตลาดกัมพูชาซึ่งสูงถึง 226 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยให้บริการออกแบบข้อมูลจำเพาะ ,วัสดุ และหลังคา ซึ่งรวมถึงการออกแบบการติดตั้ง SCG ยังคงขยายการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมและมูลค่าเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะรวมแนวคิดเศรษฐกิจเข้ากับการดำเนินงานที่ครบวงจร โดยมีโซลูชั่นเพื่อตอบสนองลูกค้าภายในตลาดกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50628722/scg-reports-strong-financial-performance-in-h1/

กัมพูชาเรียกร้องเบลารุสให้สร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์ในกัมพูชา

กระทรวงพาณิชย์เรียกร้องให้ผู้ประกอบการจากประเทศเบลารุสพิจารณาการลงทุนในภาคต่างๆของราชอาณาจักร โดยการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อนระหว่างกัมพูชา และเบลารุส เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงคมนาคมกล่าวว่าประเทศกัมพูชาสามารถผลิตยางได้มากถึง 300,000 ตันต่อปี ที่สามารถนำมาใช้ในการผลิตยางได้ ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนมูลค่าการส่งออกยางของราชอาณาจักรอยู่ที่ 139 ล้านเหรียญสหรัฐ มีการส่งมอบสินค้า 104,261 ตันเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉลี่ยหนึ่งตันราคาขายอยู่ที่ 1,339 เหรียญสหรัฐ จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ทั้งสองประเทศยังแนะนำให้เพิ่มความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจที่จะทำให้เบลารุสสามารถส่งออกเครื่องจักรยางรถยนต์และเวชภัณฑ์ไปยังกัมพูชาและในทางกลับกันกัมพูชาจะสามารถจัดส่งยางสินค้าเกษตรและอาหารทะเลไปยังประเทศในยุโรปตะวันออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50628454/belarus-urged-to-build-tyre-factory-in-kingdom/