Grab ลงทุนในเวียดนามกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้า

 ธุรกิจ Ride-Hailing ของ Grab ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการถึงรายละเอียดในการลงทุนไปยังเวียดนามกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อการส่งเสริมในด้านการขนส่ง และระบบการชำระเงิน ในระยะเวลา 5 ปี โดยจากข้อมูลของ Grab ระบุว่าการลงทุนในครั้งนี้จะสร้างโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการเงิน (FinTech) และก้าวมาส่งเสริมทางด้าน Mobility Solution รวมไปถึงการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ด้วยเหตุนี้ จะทำให้เพิ่มรายได้นับล้านเหรียญสหรัฐฯ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเวียดนาม ซึ่งทางธุรกิจจะดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลเวียดนามในปี 2563 โดยทางสถิติของ GrabFood ที่ทำการสำรวจ พบว่าจำนวนการสั่งซื้ออาหารเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000 ยอดต่อวัน และผู้ที่ทำพาท์เนอร์กับทาง Grab ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะมีรายได้รวมประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา :   https://vietnamnews.vn/economy/534681/grab-to-pour-500m-into-vn-over-next-5-years.html#QQbGdBlbxdid7xL2.97

สปป.ลาว กัมพูชาและเวียดนามจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยว

เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวจากกัมพูชา สปป.ลาวและเวียดนาม กำลังหารือเกี่ยวกับร่างแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่สามเหลี่ยมครอบคลุม 13 จังหวัดของทั้ง 3 ประเทศ การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมคณะทำงานครั้งที่ 3 เรื่องการจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวสำหรับ CLV ในพื้นที่สามเหลี่ยมพัฒนาระหว่างวันที่ 26-29 สิงหาคม ตามรายงานจุดมุ่งหมายคือการพัฒนาพื้นที่สามเหลี่ยมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและเพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในพื้นที่ หลังการประชุมผู้แทนของกัมพูชา สปป.ลาวและเวียดนามจะหารือกับผู้ร่วมงานเพื่อปรับแผนพัฒนาร่างและส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นและส่วนกลางเพื่อขออนุมัติ ในระหว่างการประชุมคณะผู้แทนจากทั้ง 3 ประเทศจะไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแขวงจำปาสัก สถานที่สำคัญเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับสถานที่สำคัญในกัมพูชาและเวียดนามเพื่อสร้างแพ็คเกจท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทาง

 ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-cambodia-vietnam-formulate-tourism-development-plan-102810

เวียดนามเผนการส่งออกสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้น 26.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การส่งออกสินค้าเกษตรกรรมของเวียดนามอยู่ที่ 26.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 โดยจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผบว่ามีสินค้ากว่า 8 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสินค้าเกษตรที่สำคัญมีมูลค่า 12.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8.3 หากจำแนกตลาดส่งออกที่สำคัญ ระบุว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีนอยู่ที่ 4.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าว สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรของเวียดนามรายใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยจีน ยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรของเวียดนามอยู่ที่ 20.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7851202-vietnam%E2%80%99s-farming-exports-reach-us$26-58-billion.html

เวียดนามเผยยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 11.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 6.3% yoy ในช่วงม.ค.-สิ.ค. 62

จากรายงานของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนมกราคม – สิงหาคมที่ผ่านมา เวียดนามสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ถึง 11.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ บริษัทต่างประเทศที่ทำการส่งออกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าราว 117.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 69.4 ของการส่งออกเวียดนามโดยรวม นอกจากนี้ ฮ่องกงยังคงเป็นผู้ที่ทำการลงทุนโดยตรงรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รองลงมาเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ตามลำดับ หากสังเกตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น พบว่ามีการลงทุนโดยตรงอยู่ที่ 19.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20190827/vietnam-janaug-fdi-inflows-up-63-y-y-to-1196-billion-ministry/51098.html

ราคาเนื้อสัตว์ราคาถูกที่นำเข้าจากต่างประเทศ ส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ในเวียดนาม

การนำเข้าเนื้อสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้น สร้างแรงกดดันไปยังอุตสาหกรรมปศุสัตว์ในประเทศ เนื่องมาจากข้อตกลงการค้าเสรีและการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกัน (ASF) โดยจากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีการนำเข้าเนื้อหมูกว่า 8,000 ตัน และเนื้อไก่มากกว่า 142,000 ตัน ซึ่งผู้บริโภคชื่นชอบกับราคานำเข้าที่ถูกกว่าในประเทศ โดยตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ที่สุดไปยังเวียดนาม คิดเป็นมูลค่าราว 48.6 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ หรือปริมาณมากกว่า 62,400 ตัน ส่วนสาเหตุที่ราคานำเข้าถูก เป็นเพราะอุตสาหกรรมของต่างประเทศมีความเชี่ยวชาญในระบบการดำเนินงาน และเป็นโรงเรือนระบบปิด รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมสัตว์ให้เติบโตได้เร็วขึ้นและมีขนาดใหญ่มากขึ้น

ที่มา :  https://vietnamnews.vn/economy/524518/cheap-imported-meats-hurt-domestic-livestock-industry.html#VqAHBMqF5HQ54W80.97

การไฟฟ้าเวียดนามขายหุ้น 6.5% หรือคิดเป็นมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของการประมูลหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮานอย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระบุว่า การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ได้ทำการขายหุ้น 16.25 ล้านหุ้น ของบริษัท EVN Finance Joint Stock Company ในมูลค่ามากกว่า 219 พันล้านด่อง (9.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งการขายดังกล่าว เป็นไปตามเผนการดำเนินงานของบริษัทในการถอนตัวจาก EVN Finance ในปีนี้ จากข้อมูลประวัติของ EVN Finance พบว่าก่อตั้งเมื่อในปี 2008 ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 2.5 ล้านล้านด่อง ซึ่งหน้าที่/บทบาทหลัก คือการจัดหาเงินทุนในโครงการไฟฟ้าของ EVN และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อการดำเนินงานในกลุ่มพลังงานและภาคเศรษฐกิจอื่นๆ โดยในปี 2562 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมอยู่ที่ 1.64 ล้านล้านด่อง และกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 280 พันล้านด่อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.5, 10.35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/524542/evn-sells-65-stake-of-its-financial-arm-for-10-million.html#bHeupgaxiD8XMCzw.97

พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเวียดนาม คาดว่าการผลิตเพิ่มมากกว่า 150,000 ตัน ในช่วงฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วง

จากรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาขนบท (MARD) เปิดเผยในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง คาดว่าปริมาณข้าวเปลือกจะอยู่ที่มากกว่า 150,000 ตัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้ดำเนินเก็บเกี่ยวผลผลิตมาแล้ว 2 ใน 3 ของพื้นที่ กว่า 1.57 ล้านเฮกตาร์ของปริมาณข้าว คิดเป็นผลผลิตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 ตันต่อเฮกตาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 100 กก. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในฤดูนี้จะช่วยผลผลิตที่ลดลงจากฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงในปีที่แล้ว ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับภัยแล้งและการขยายตัวของน้ำเค็ม ในขณะที่ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อุปสงค์ของประเทศคู่ค้านำเข้าลดลง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ข้าว เป็นสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญของเวียดนาม ที่มีการส่งออกไปยังต่างประเทศกว่า 150 ประเทศ รวมไปถึงประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน เป็นต้น  

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/mekong-delta-expects-150000-more-tonnes-from-summerautumn-rice-crop/158397.vnp

เวียดนามเผยการส่งออกกุ้งไปยังสหรัฐอเมริกา ได้รับสิทธิภาษีนำเข้าในอัตรา 0%

จากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (DOC) ในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เปิดเผยผลการประเมินรอบสุดท้ายครั้งที่ 13 อย่างเป็นทางการ (POR 13) ผู้ส่งออกกุ้งเวียดนามกว่า 31 รายที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรมีอัตราร้อยละ 0 ในขณะที่ ซึ่งก่อนหน้าที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้สอบสวนถึงสถานการณ์การทุ่มตลาดสินค้ากุ้งในสหรัฐฯ สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตเวียดนาม (VASEP) ระบุว่าสถานการณ์การส่งออกกุ้งของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ จะกลับมาฟื้นตัว โดยจากตัวเลขสถิติ เผยว่าในเดือนกรกฎาคมของปีนี้ มูลค่าการส่งออกกุ้งของเวียดนามไปสหรัฐฯ อยู่ที่ 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีตลาดส่งออกกุ้งที่สำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และจีน เป็นต้น

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7843202-vietnamese-shrimp-exporters-enjoy-zero-taxes-to-us.html

นครด่งนายก้าวหน้าในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

จังหวัดทางตอนใต้ของจังหวัดด่งนายเวียดนามกำลังดำเนินพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และปฏิรูปการบริหาร เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแก่นักลงทุนต่างชาติ โดยจากรายงานของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน ระบุว่า ในจังหวัดด่งนายมีจำนวนเขตอุตสาหกรรม (Industrial Parks : IPs) อยู่ที่ 35 แห่ง รวมไปถึง มีโครงการลงทุนจากต่างชาติ 1,804 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเวียดนามให้ความสำคัญกับโครงการเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ยอมรับกับการใช้แรงงานเข็มข้นสูง ด้วยเทคโนโลยีระดับต่ำ นอกจากนี้ คาดการณ์ว่ามูลค่าการลงทุนจากต่างชาติตลอดทั้งปีนี้ จะแตะระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/dong-nai-works-to-create-breakthrough-in-fdi-attraction/158279.vnp

เวียดนามถือเป็นจุดมุ่งหมายในทำธุรกิจของนักลงทุนชาวออสเตรเลีย

เวียดนามเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ ด้วยแรงงานถูก จำนวนประชากรในวัยรุ่นมีจำนวนมาก มีการศึกษาอยู่ในระดับสูง และนโยบายรัฐบาลที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ โดยบทความทางด้านการเงินของออสเตรเลีย ระบุว่ากลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่นิยมในหมู่ชาวออสเตรเลีย ทั้งด้านการท่องเที่ยวและโอกาสในการทำธุรกิจ เป็นต้น หากยกตัวอย่างธุรกิจออสเตรเลีย “SunRice Group” ได้เข้ามาซื้อโรงงานแปรรูป/โรงงานบดวัตถุดิบ ในปีที่แล้ว และได้จัดตั้งโปรแกรมปรับปรุงพันธ์พืช รวมทั้งร่วมมือกับชาวเกษตรท้องถิ่น เพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ จากสถิติของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนของออสเตรเลียไปยังเวียดนามมากกว่า 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/524365/viet-nam-emerges-as-attractive-destination-for-australian-investors.html#rjCe58aCupjXdZSE.97