ท่าเรือพนมเปญในกัมพูชายังคงเติบโตในช่วงครึ่งปีแรก

ท่าเรือพนมเปญ (PPAP) บริษัทซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา รายงานถึงรายรับในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มและสินค้าเกษตรของกัมพูชาไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันท่าเรือได้รองรับตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต (TEU) จำนวน 250,000 ตู้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.70 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยท่าเรือพนมเปญจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการดำเนินงานให้ทันสมัย เป็นไปตามมาตรฐานโลก รวมถึงการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริม เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับท่าเรือทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับปี 2021 ท่าเรือพนมเปญ (PPAP) สร้างรายได้ประมาณ 12 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501137620/phnom-penh-autonomous-port-maintains-growth-in-h1/

รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจไทยสิ้นปีโตได้ถึง 3.5% โชว์ตัวเลขจัดเก็บรายได้ เกินเป้า 1 แสนล้านบาท

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความมั่นใจเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังไปได้ดี มีโอกาสที่จะขยายตัวสูงสุดได้ถึง 3.5% เครื่องมือทางเศรษฐกิจทำงานเต็มที่ มีการท่องเที่ยวและการส่งออกเป็นตัวชูโรง ขณะที่การจัดเก็บรายได้ 10 เดือน ปีงบประมาณ 2565 กว่า 2.03 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1 แสนล้านบาท หรือ 5.5% โดย กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2.06 แสนล้านบาท หรือ 14.1% กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ 4.28 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6.89 หมื่นล้านบาท หรือ 13.9% เนื่องจากการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันดีเซล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นการชั่วคราวจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และ กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้ 8.99 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6.38 พันล้านบาท หรือ 7.6%

ที่มา : https://www.businesstoday.co/bt-news/25/08/2022/86735/

ราคาถั่วลิสงในเมียนมา พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้ค้าส่งถั่วลิสงในตลาดค้าส่งมัณฑะเลย์ เผย การซื้อขายถั่วลิสงที่เก็บเกี่ยวใหม่เป็นที่ต้องการและยังมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลผลิตถั่วลิสงสดจากเมืองเจาะปะด้อง, เมืองตะโก้น, เมืองยะแม่ที่น, เมืองมะกเว และเมืองอองลาน ทยอยเข้าสู่ตลาดมัณฑะเลย์มาตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนส.ค.2565  โดยปลายเดือนก.ค.2565 ราคาถั่วลิสงอยู่ระหว่าง 5,300 -5,700 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) และเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2565 ราคาปรับสูงพุ่งขึ้นเป็น 6,000-6,600 จัตต่อ viss  ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นการเพิ่มขึ้นของราคาถั่วลิสงสด ถึง 600-1,000 จัตต่อ viss  ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันถั่วลิสงก็พุ่งขึ้นเป็น 14,000 จัตต่อ viss   และเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลกได้งดการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดการขาดแคลนภายในประเทศ  แต่อินโดนีเซียเป็นแหล่งนำเข้าน้ำมันปาล์มที่สำคัญของเมียนมา ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.เป็นต้นมา เมียนมาต้องระงับการส่งออกพืชน้ำมัน (ถั่วลิสงและงา) เป็นการชั่วคราวเพื่อให้มีน้ำมันเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ   และเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 เมียนมาได้เริ่มกลับมาส่งออกพืชน้ำมันได้ หลังจากอินโดนีเซีย ผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลกได้เริ่มทะยอยกลับมาส่งออกให้กับคู่ค้าได้อีกครั้ง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/traders-report-brisk-sales-of-newly-harvested-peanuts-at-high-price/#article-title

อาเซียน-สหรัฐฯ ดันแผนร่วมมือด้านเศรษฐกิจ พร้อมนัดแคนาดาถก FTA รอบแรก

อาเซียน-สหรัฐฯ หารือสานต่อแผนงานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ปี 65-66 เน้นช่วย SMEs ฟื้นตัวจากพิษโควิด-19 เชื่อมโยงระบบศุลกากร อำนวยความสะดวกทางการค้า คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงานและสิ่งแวดล้อม เร่งเตรียมการเจรจา FTA อาเซียน-แคนาดา รอบแรกปลายเดือน ส.ค. นี้ ดันแผนความร่วมมือการค้าการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตยั่งยืน

ที่มา : http://www.acnews.net/detailnews.php?news_id=N256567451

“เซ็นทรัล” ตั้งเป้าขยายการลงทุนในเวียดนาม

ตามรายงานของ Nikkei Asia ระบุว่ากลุ่มบริษัทค้าปลีกของไทยอย่างเซ็นทรัล กรุ๊ป (Central Group) วางแผนที่จะขยายการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน “เวียดนาม” รวมถึงคาดหวังว่าจะได้รับอุปสงค์เพิ่มขึ้นหลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล (Central Retail) เป็นธุรกิจค้าปลีกหลักของกลุ่มบริษัท ได้จัดสรรเงินจำนวนกว่า 30 พันล้านบาท เพื่อลงทุนในเวียดนาม โดยตั้งเป้าว่าจะเพิ่มยอดขาย 100 พันล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า จากเดิมยอดขายในปัจจุบันอยู่ที่ 38.6 พันล้านบาท ในขณะที่มุมมองของนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวหลังสิ้นสุดการแพร่ระบาด ทำให้ภาคการค้าปลีกของประเทศขยายตัว 9% ต่อปี คิดเป็นมูลค่าราว 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/thailand-s-central-group-plans-to-expand-investment-in-vietnam-2052347.html

“เวียดนาม” มาแรง! ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโตเร็วที่สุดในโลก

จากข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) ระบุว่าเวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก หากพิจารณาในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จะเห็นได้ว่าเวียดนามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 954,000 คน เพิ่มขึ้น 9 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีอัตราการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ย 62% ต่อเดือนในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากเอเชียแปซิฟิก รวมถึงกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ทั้งนี้ ดัชนีการพัฒนาการเดินทางและการท่องเที่ยว แสดงให้เห็นอันดับของเวียดนามในปี 2564 ขยับเลื่อนดีขึ้น 8 อันดับ ด้วยดัชนีชี้วัดหลัก 6 จาก 17 ตัวที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-among-destinations-with-fastest-tourism-growth-in-the-world-2052341.html

“สปป.ลาว” ใช้งบ 20 พันล้านกีบ เร่งป้องกันน้ำท่วม

นครเวียงจันทร์เตรียมใช้เงินวงเงินกว่า 20 พันล้านกีบ จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนที่ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน รวมถึงซ่อมแซมและขยายช่องระบายน้ำ จัดการกับพืชและเศษซากต่างๆ ที่อุดตันท่อระบายน้ำและควบคุมระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายโยธาธิการและขนส่งของนครเวียงจันทร์ กล่าวว่าสำนักงานกำลังร่วมมือกับสำนักงานจัดการและบริการเมืองเวียงจันทร์ และเจ้าหน้าที่จากเขต 9 ของเมืองในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะยาว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของงบประมาณข้างต้นนั้นยังเป็นการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากงานบางส่วนที่วางแผนไว้อาจไม่สามารถทำได้ในช่วงฤดูฝน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten163_City.php

กัมพูชาอนุมัติโครงการการลงทุนใหม่มูลค่ากว่า 17 ล้านดอลลาร์ ในเขตกันดาล

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 4 โครงการ ในจังหวัดกันดาล มูลค่ารวม 17 ล้านดอลลาร์ ซึ่งโครงการการลงทุนใหม่ครอบคลุมอุตสาหกรรมการผลิต รองเท้า, เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ไม้, โซฟา และวัสดุบรรจุภัณฑ์ โดยคาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 2,800 ตำแหน่ง โครงการแรกเป็นของ บริษัท RG Footwear (Cambodia) Co., Ltd. ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการผลิตรองเท้า ในขณะเดียวกัน บริษัท Xing Gang Wood Industry (Cambodia) Co., Ltd. คาดว่าจะตั้งโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทำจากไม้ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุ โดยในบริษัทต่อมาคือ บริษัท Zhejiang Jeni Furniture Co., Ltd. จัดตั้งโรงงานผลิตโซฟาและผ้าคลุมโซฟา ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุ และบริษัทสุดท้าย คือ บริษัท FF LL (Cambodia) Co., Ltd. จัดตั้งโรงงานผลิตวัสดุบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุเช่นเดียวกัน ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมูลค่ารวม 6.6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือน มกราคม-มิถุนายน ปีนี้ เมื่อเทียบกับการส่งออกในปีที่แล้วที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4.72 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501135969/17m-investment-projects-in-kandal-p-sihanouk-provinces/

คาดการค้าทวิภาคี กัมพูชา-อังกฤษ เติบโตภายใต้โครงการใหม่

หลังอังกฤษตัดสินใจเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับ Brexit ทำให้สหราชอาณาจักรจำเป็นที่จะต้องแทนที่ Generalized Scheme of Preferences (GSP) ด้วยโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า Developing Countries Trading Scheme (DCTS) สำหรับกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา (LDC) ในการกระตุ้นภาคการค้าทวิภาคี ซึ่งจะทำการยกเว้นภาษีในอัตราร้อยละ 99 ให้กับประเทศในกลุ่ม LDC เพื่อเป็นการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าจากประเทศที่กำลังพัฒนา โดยกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์จากทั้งหมด 65 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันกลุ่มประเทศ LDC มีประชากรประมาณร้อยละ 13 ของประชากรโลก แต่มูลค้ากลับคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 1 ของมูลค่าการค้าโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501136142/cambodia-uk-trade-to-soar-under-new-scheme/

“เวียดนาม” เผย 8 เดือนแรก นำเข้าปิโตรเลียม พุ่ง 150%

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 15 ส.ค. ว่าเวียดนามนำเข้าปิโตรเลียมทุกชนิด 5.65 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 150% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในเดือน พ.ค. เพียงเดือนเดียว ธุรกิจปิโตรเลียมได้นำเข้า 651,000 ตัน เป็นมูลค่า 736 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแง่ของปริมาณเพิ่มขึ้น 5.4% แต่มูลค่าลดลง 9.4% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลง ทั้งนี้ เวียดนามนำเข้าน้ำมันดีเซลมากกว่า 3.17 ล้านตัน คิดเป็น 60% ของปริมาณผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทั้งหมด ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ยังคงเป็นตลาดนำเข้าปิโตรเลียมรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณอยู่ที่ 2.17 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 92% รองลงมามาเลเซียและสิงคโปร์

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-petroleum-imports-rise-150-over-eight-months-2051972.html