แนวโน้มส่งออก มะม่วง-กล้วย ของกัมพูชาพุ่งสูงขึ้น

กัมพูชาส่งออกกล้วยเพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 168 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เทียบกับการส่งออกในปี 2020 ที่มูลค่า 112 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกกล้วยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เร่งตัวขึ้นมูลค่าแตะ 59 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่การส่งออกมะม่วงในปี 2021 ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันที่มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานทางเศรษฐกิจกัมพูชาของธนาคารโลก (World Bank) เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ในด้านของการผลิตข้าวกัมพูชาก็ปรับตัวดีขึ้นโดยในปี 2021 การผลิตข้าวทั้งหมดของกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 หรือคิดเป็นปริมาณ 12.2 เมตริกตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501109912/mango-banana-most-promising-for-export/

 

ไตรมาสแรกของปีงบฯ 65-66 ภาคการผลิตเมียนมาดูดเม็ดเงินลงทุนจากจีนไปแล้วกว่า 11.112 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) ของเมียนมา เผย ไตรมาสที่ 1 (เม.ย.-มิ.ย.2565) ของปีงบประมาณ 2565-2566 มีการลงทุนในภาคการผลิตจาก 7 บริษัทของจีน รวมทั้งสิ้น  11.112 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเม็ดเงินลงทุนทั้งหมด 21.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มทุนจากฮ่องกง ลงทุนกว่า 5.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ญี่ปุ่นประมาณ 3.1 และไต้หวันอีก 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าสถานประกอบการที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมากต้องเผชิญกับผลกระทบของโควิด-19 และความไม่สงบทางการเมือง แต่ขณะนี้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติหลังจมีการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับแรงงาน ตั้งแต่เดือนก.ย.2564 ที่ผ่านมา โดยภาคการผลิตส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอที่ผลิตแบบ CMP (การตัด การผลิต และบรรจุภัณฑ์) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของจีดีพีประเทศ ทั้งนี้ ในช่วงงบประมาณย่อยที่ผ่านมา (เดือนต.ค. 2564 ถึงเดือนมี.ค. 2565) เมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 647.127 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 49 บริษัทต่างชาติ ในจำนวนนี้ มี 40 บริษัทลงทุนในภาคการผลิต

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-manufacturing-sector-attracts-11-million-from-china-in-q1-april-june/#article-title

สปป.ลาว-เวียดนาม สานสัมพันธ์ด้านสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว

นางสวนสวรรค์ วิกนาเกต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว กล่าว่า สปป.ลาวและเวียดนามกำลังต่อยอดจากความสำเร็จในอดีตในด้านข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว และกำลังขยายความสัมพันธ์ไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้นในอนาคต เนื่องในโอกาสปีมิตรภาพและความสามัคคีของลาว-เวียดนาม 2022 ซึ่งสปป.ลาวและเวียดนามทำงานร่วมกับเวียดนามเพื่อฝึกอบรมบุคลากรและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านการจัดหาอุปกรณ์และหลักสูตรการฝึกอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่ด้านสื่อ และยังให้ความช่วยเหลือในการสร้างสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในจังหวัดหลวงพระบาง จำปาสัก อุดมไซ สะหวันนะเขต บ่อแก้ว และไชยสมบูรณ์ ด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเวียดนามได้สร้างโรงเรียนศิลปะแห่งชาติในสปป.ลาว ด้วยงบประมาณาคา 77 พันล้านดอง ซึ่งแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2553 ด้านการท่องเที่ยว สปป.ลาวเตรียมยื่นจดทะเบียนอุทยานแห่งชาติหินน้ำไหลที่มีพื้นที่ติดต่อกับเวียดนามให้ยูเนสโกพิจารณาเป็นมรดกโลก

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_132_Laos_vietnam.php

 

“เวียดนาม” ตั้งเป้ายอดการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมง 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปยังตลาดอียู

เวียดนามตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงไปยังตลาดยุโรป อยู่ที่ราว 5-5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 ซึ่งผลิตภัณฑ์แปรรูปจะมีสัดส่วน 30% ของสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงของเวียดนามทั้งหมดที่ส่งออกไปยังตลาดอียู และอีกราว 20% ของสินค้าทางการเกษตรจะจำหน่ายในแบบการค้าปลีก โดยร้อยละของสินค้าข้างต้นจะเพิ่มขึ้น 50% และ 30% ตามลำดับ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ได้วางแผนที่จะแก้ไขอุปสรรคครั้งใหญ่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ได้แก่ การมีส่วนร่วมระหว่างกระทรวงและท้องถิ่น โดยเฉพาะต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการผลิตทางการเกษตร รวมถึงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการแปรรูปอาหารทะเลให้เป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งเรื่องความเข็มงวดของคุณภาพสินค้าและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1267910/viet-nam-targets-5-5b-in-agro-forestry-fishery-export-value-to-eu.html

“เวียดนาม” เผยราคาน้ำมันลดลงสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2565

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ค. ชี้ว่าราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่า 3,000 ดอง (0.13 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร หากพิจารณาเปรียบเทียบราคาน้ำมันกลุ่ม พบว่าราคาเบนซิน 95 (RON 95) ลดลงราว 3,088 ดอง มาอยู่ที่ระดับ 29,675 ดองต่อลิตร และราคาน้ำมัน E5RON92 ลดลง 3,103 ดอล มาอยู่ที่ระดับ 27,788 ดองต่อลิตร ในขณะที่ราคาดีเซล DO 0.05s-II และราคาแก๊ส ปรับตัวลดลง 3,022 ดอง และ 2,008 ดอง อยู่ที่ระดับ 26,593 ดอง และ 26,345 ดอง ต่อลิตร ตามลำดับ ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากน้ำมันปรับขึ้นราคาหลายครั้งที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. คณะกรรมการประจำสภาได้ออกพระราชกฤษฎีกา “0/2022/UBTVQH15” เรื่องการลดภาษีสิ่งแวดล้อมและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยควบคุมราคาน้ำมันในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/petrol-prices-see-highest-decrease-since-2022s-beginning/233498.vnp

ลุ้นคลัง ต่อเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซล ลิตร 5 บาท อีก 2 เดือน หลังใกล้สิ้นสุด 20 ก.ค.นี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยถึงแนวทางการขยายเวลาภาษีสรรพสามิตน้ำมันว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ ส่วนการขอกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นกัน แต่ยอมรับว่า มีความกังวลสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยขณะนี้กรมสรรพสามิต กำลังจัดทำข้อมูลเสนอ รมว.คลัง ถึงการพิจารณาขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล คาดว่าจะมีการเสนอลดภาษีมากกว่า 1 รูปแบบ เช่น ลิตรละ 5 บาทต่อไปอีก 2 เดือน หลังจากมาตรการปัจจุบันจะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค นี้ โดยหากนายอาคม เห็นชอบ คาดจะเสนอเข้า ครม. อย่างช้าภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ประเมินว่าการลดภาษีครั้งนี้จะทำให้คลังสูญเสียรายได้ไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท โดยภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในรอบ 8 เดือน ต.ค.64-พ.ค.65 คลังยังจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายเกินอยู่ 1 แสนล้านบาท

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1241581/

ราคาข้าวส่งออกไปจีนผ่านด่านมูเซ พุ่งขึ้น!

นาย อู มิน เต็ง รองประธานศูนย์ค้าส่งข้าวชายแดนมูเซ เผย ราคาส่งออกข้าวไปจีนราคาพุ่งสูงเป็นที่พอใจเป็นอย่างมาก โดยราคาข้าวหักอยู่ที่ 36,000 จัตต่อถุง (น้ำหนัก 50 กิโลกรัม) จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของต่างประเทศ คาดว่าจะหนุนราคาไปได้ถึง 45,000 จัตต่อถุง ปัจจุบันมีการส่งข้าวและข้าวหักจีนผ่านชายแดนมูเซอยู่ที่ประมาณ 10,000 ถุง ซึ่งก่อนหน้านี้มีปริมาณการส่งออกมากถึง 60,000 ถุง ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. ถึง 30 มิ.ย.2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 มีส่งออกข้าวและข้าวหักกว่า 550,000 ตัน โดย 510,000 ตัน ส่งออกทางทะเล และผ่านชายแดนอีก 33,000 ตัน ทั้งนี้ เมียนมามีรายได้จากการส่งออกข้าวในปีงบประมาณ 2563-2564 ประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าว 2 ล้านตัน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/broken-rice-export-to-china-fetches-high-price/#article-title

ออสเตรเลียหนุน สปป.ลาว ปรับปรุงการเชื่อมต่อการขนส่งและการค้า

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ นายพอล เคลลี เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสปป.ลาว และนายวิไลคำ โพธิ์สาละห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ได้ลงนามร่วมกันภายใต้ความร่วมมือในการพัฒนาประเทศระหว่างออสเตรเลีย-สปป.ลาว ด้วยเงินทุนสนับสนุนจากออสเตเลียมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะดำเนินการผ่านโครงการ Partnerships for Infrastructure (P4I) ที่เป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Regional Economic Corridor and Connectivity : SEARECC) ซึ่งสปป.ลาว เชื่อมั่นว่า SEARECC จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับสปป.ลาว ได้ โดยออสเตลียเชื่อมั่นว่าการปรับปรุงการเชื่อมต่อการขนส่ง การวางแผน และการค้าชายแดนจะช่วยเปลี่ยนให้สปป.ลาว จากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นประเทศที่การเชื่อมโยงทางบก และเพิ่มโอกาสในการลงทุนและการจ้างงานในประเทศ

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/07/08/laos-to-bolster-sustainable-trade-diversify-value-chains-under-arise-plus-project/

“เวียดนาม” ตั้งเป้า GDP ปีนี้ โต 6.5%

คุณ เหงียน ถิ เฮือง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) กล่าวว่าเวียดนามตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2565 ไว้ที่ 6.5% ถือว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับเวียดนาม เนื่องจากยังคงเผชิญกับอุปสรรคจากภาคการผลิตและการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก นอกจากนี้ ราคาเชื้อเพลิง วัตถุดิบ การขนส่งและค่าบริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตและธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อการผลิตและห่วงโซ่อุปทานทั้งในประเทศและทั่วโลก ในขณะที่ธุรกิจ SMEs ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งรักษาระดับการผลิตและแสวงหาตลาดใหม่ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ สำนักงานสถิติฯ เรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการตรึงราคาน้ำมันและช่วยเหลือธุรกิจที่ใช้น้ำมันและก๊าซ ประกอบกับติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างทันท่วงที

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/growth-target-of-65-percent-poses-big-challenge-to-vietnam-gso/233426.vnp

สหราชอาณาจักร ส่งออกไปตลาดเวียดนาม ขยายตัว 23% ผลจากข้อตกลง “UKVFTA”

เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าหลังจากการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม–สหราชอาณาจักร (UKVFTA) เมื่อต้นปีที่แล้ว ส่งผลให้การค้าของทั้งสองประเทศเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้เผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 โดยจากสถิติชี้ให้เห็นว่าการค้าระหว่างเวียดนามและสหราชอาณาจักร มีมูลค่าสูงถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่การส่งออกเวียดนามไปยังตลาดสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น 16.4% คิดเป็นมูลค่า 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในส่วนของการส่งออกสหราชอาณาจักรไปยังตลาดเวียดนาม เพิ่มขึ้น 23.6% มูลค่าราว 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ผลการศึกษาพบว่าข้อตกลง UKVFTA เปรียบเสมือนรถไฟความเร็วสูงสองเส้นทางที่ผลักดันการส่งออกระหว่างประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/uk-exports-to-vietnam-grow-over-23-after-ukvfta-post955722.vov