ปี 64 จีนนำโด่ง FDI ในกัมพูชา

ปี 2564 ที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในกัมพูชาเพิ่มขึ้นแม้จะมีการระบาดของ COVID-19 แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต้อกัมพูชา ในขณะที่ประเทศเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคี ด้านสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เผย ในปี 2564 มีการลงทุนในภาคเอกชนใหม่ มูลค่า 4,357 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ลดลง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนมียอดการลงทุนรวม 2,326 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกามียอดการลงทุน 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 163 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีก่อนหน้าตามลำดับ ทั้งนี้ หอการค้ากัมพูชา คาดว่าจะมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากจีนและเกาหลีใต้

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501068035/china-remains-top-in-kingdoms-fdi-last-year/

4 เดือนแรกของปี 65 นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนกัมพูชาพุ่งขึ้น 6 เท่า

อุทยานโบราณสถานอังกอร์ของกัมพูชา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนจำนวน 33,205 คนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 633% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีรายได้จากการขายตั๋วเข้าเยี่ยมชม มากกว่า 1.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในเดือนเม.ย.65 เพียงเดือนเดียวมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมจำนวน 13,365 คน สร้างรายได้จากการขายตั๋ว 537,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้มีนักท่องเทียวประมาณ 400 คนต่อวัน โดยก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของ COVID-19 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 9,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ในปี 2562 ก่อนการระบาดของ OCVID-19 อุทยานโบราณสถานอังกอร์ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากถึง 2.2 ล้านคน สร้างรายได้ 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขายตั๋วเข้าเยี่ยมชม

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501068083/international-tourists-to-cambodias-angkor-up-6-folds-in-first-4-months-of-this-year/

ท่าอากาศยานนานาชาติบ่อแก้วแล้วเสร็จสมบูรณ์ร้อยละ 75 ของโครงการ

การก่อสร้างสนามบินนานาชาติ ในอำเภอต้นผึ้ง จังหวัดบ่อแก้ว ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 75 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการสำหรับใช้ในประเทศภายในสิ้นปีนี้ และสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศในเร็วๆ นี้ สนามบินแห่งใหม่นี้กำลังถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มาเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สนามบินแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ใกล้เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำและครอบคลุมพื้นที่ 300 เฮกตาร์ จะเป็นสนามบินแห่งที่สองในจังหวัดบ่อแก้ว นอกเหนือจากสนามบินขนาดเล็กที่มีอยู่เดิมที่ตั้งอยู่ในเขตห้วยทราย ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัด โดยค่าก่อสร้าง 175 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนจาก Greater Bay Area Investment and Development (HK) Limited ในฮ่องกง ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มดอกงิ้วคำ ซึ่งสนามบินจะดำเนินการภายใต้โมเดล Build-Operate-Transfer และผู้พัฒนาได้รับสัมปทาน 50 ปี อาคารผู้โดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 600 คน และคาดว่าเมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1.5 ถึง 2 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะทำให้ให้การท่องเที่ยวเศรษฐกิจในจังหวัดนั้นครึกครักขึ้นแล้วเติบโตอย่างก้าวระโดดในอนาคต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten82_Bokeo.php

‘เวียดนาม’ เผย Q1 ว่างงานลดลง

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าไตรมาส 1/2565 ผู้ว่างงานลดลงกว่า 130,000 คน มาอยู่ที่ 1.3 ล้านคนจากไตรมาสที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวหลังโควิด-19 เป็นผลมาจากเวียดนามเปิดรับนโยบาย “อยู่ร่วมกับไวรัส” และการครอบคลุมการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ค่อนข้างสูงของกลุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ คุณ Vu Quang Thanh รองผู้อำนวยการศูนย์จัดหางานฮานอย กล่าวว่าความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะพิเศษในด้านการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อิเล็กทรอนิกส์ การขนส่ง การค้าปลีกและค้าส่ง ตลอดจนคาดว่าจะมีตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมการบริการ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/q1-unemployment-rate-drops-gso/227805.vnp

 

‘เวียดนาม’ เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ผุดเป็นดอกเห็ด

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าผู้ประกอบการจัดตั้งบริษัทใหม่ทั่วประเทศในเดือน เมษายน 2565 จำนวน 15,000 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 164.1 ล้านล้านดอง (7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) โดยภาพรวมแล้ว จำนวนบริษัทที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของจำนวนบริษัทที่ถอนตัวออกจากตลาดในเดือนเมษายน อีกทั้ง ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีจำนวนบริษัทจัดตั้งใหม่จำนวน 49,591 ราย ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 635.3 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นถึงการกลับมาขยายตัวของกิจการจัดตั้งใหม่ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านโยบายสนับสนุนของรัฐบาลและสภาแห่งชาติเวียดนามอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/newly-opened-firms-mushroom-during-new-normal/227898.vnp

 

ธุรกิจประมงปลาหมึกบูมสุดๆ ในปีนี้

ผู้ประกอบการเรือประมง เผย ธุรกิจประมงปลาหมึกในฤดูกาลนี้เฟื่องฟูสุดๆ เนื่องจากได้ราคาดี โดยราคาในช่วงการจับปลาหมึกระหว่างเดือนต.ค.64 ถึงเม.ย. 65 ราคาพุ่งไปถึง 160,000 จัตต่อ 10 viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ในเมืองทวาย ส่วนเมืองมะริดจะอยู่ที่ 140,000 ต่อ viss ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้เรือประมงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทว่าธุรกิจเประมงยังไปได้ดีเพราะราคายังสูงอยู่ และคาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงในปีหน้า ดังนั้นผู้ประกอบการเรือประมงต้องเสี่ยงราคาที่ผันผวนของตลาด ปัจจุบันมีเรือขนาดใหญ่ที่ได้รับการจดทะเบียนจำนวน 300 ลำ และเรือขนาดเล็กจำนวน 500 ลำ ในเมืองมะริด เขตตะนาวศรี โดยส่วนใหญ่แล้วปลาหมึกของเมียนมาถูกส่งออกไปยังจีนและไทยเป็นหลัก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/e-paper/

พาณิชย์ชี้ช่องรุกตลาดจีน สินค้าบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมรุ่ง

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากน.ส.ชนิดา อินปาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศณ เมืองชิงต่าว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงการขยายตลาดบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ตลาดจีน หลังจากที่ได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้พลาสติก และทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงนับเป็นอีกโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเข้ามาขยายตลาดในจีน เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้านทั้ง Stay at Home Economy หรือเศรษฐกิจอยู่ติดบ้าน และพฤติกรรมการสั่งอาหารและเครื่องดื่มเดลิเวอรีของชาวจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังควรเฝ้าติดตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคชาวจีนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนร่วมมือกับแบรนด์จีนในลักษณะของ Co-Brand เพื่อให้มีโอกาสประสบความสำเร็จ และสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ที่มา: https://www.naewna.com/business/650980

เยอรมนีลงทุนใหม่มาบตาพุด ผุด 2 โปรเจ็กต์ขึ้นฮับอาเซียน

“โคเวสโตร” ทุนเยอรมันยักษ์ปิโตรเคมีกางแผนลงทุน “มาบตาพุด”เพื่อให้ขยายการลงทุนมาที่ประเทศไทย โครงการนี้จะมีการลงทุนไม่น้อยกว่าโครงการอีลาสโตเมอร์ก่อนหน้านี้เลย อีกโปรเจ็กต์หนึ่งเป็นโครงการลงทุนในระยะยาว 5 ปี ระหว่างปี 2025-2030 คือ การขยายกำลังการผลิตของโรงงานโพลิคาร์บอเนตที่มาบตาพุด ซึ่งโครงการนี้หากจะมาลงทุนจริง ๆ จะมีขนาดมากกว่า 100 ล้านยูโร หรือกว่า 3,600-3,700 ล้านบาท  ชู strategic location “ไทยฮับอาเซียน” ของโคเวสโตร จากที่มีฐานการผลิตของโคเวสโตรที่กระจายอยู่ใน 50 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานรวม 18,000 คน ก็จะมีศูนย์การผลิตที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลกอยู่ 8 ประเทศ ซึ่งไทยก็เป็นหนึ่งใน 8 นั้น

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-918295

เวียดนามเผยกว๋างนิญเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงสุด จากการจัดอันดับ PCI ปี 64

หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) กับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เปิดเผยว่าดัชนีความสามารถในการแข่งขันของจังหวัด (Provincial Competitive Index: PCI) ของจังหวัดกว๋างนิญเท่ากับ 73.02 อยู่ในอันดับที่ 1 ของประเทศในปี 2564 นับว่าเป็นจังหวัดลำดับที่ 1 ในการแข่งขันของจังหวัด 5 ปีติดต่อกัน ด้วยการบริหารจัดการทางด้านเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นมิตรและอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจการ รองลงมาจังหวัดไฮฟองอยู่ในอันดับที่ 2 เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ตามรายงานของหอฯ เวียดนาม ชี้ให้เห็นว่าดัชนี PCI ในปี 2564 การดำเนินกิจการอยู่ในความยากลำบาก เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 แต่ภาคธุรกิจประเมินแล้วว่าการจัดการระบบเศรษฐกิจของจังหวัดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1176410/quang-ninh-continues-to-top-pci-rankings-in-2021.html

เมียนมาผ่อนผันคำสั่งแปลงสกุลเงินให้ผู้ค้าที่ชายแดนจีน-ไทย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ธนาคารกลางเมียนมา (CBM) ได้ขยายระยะเวลาบังคับแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินจัตสำหรับผู้ส่งออกที่ทำการค้าที่ชายแดนกับจีนและไทย โดยผู้ส่งออกที่ซื้อขายภายใต้โครงการการค้าชายแดนจีน-เมียนมา และไทย-เมียนมา ไม่จำเป็นต้องแปลงรายได้จากการส่งออกเป็นสกุลเงินจัตภายในหนึ่งวันทำการอีกต่อไป และอนุญาตแปลงรายได้ของตนเองที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศมาเป็นเงินจัตได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ ธนาคารกลางยังมีคำสั่งให้ธนาคารตัวแทนที่ได้รับอนุญาตดำเนินการตรวจสอบการบังคับนำรายได้ของผู้ส่งออกเข้าบัญชีธนาคารของรัฐสำหรับรายได้จากการส่งออก นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ผู้นำเข้าสามารถชำระเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศกับธนาคารที่กำหนด โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ.

ที่มา: https://english.news.cn/20220428/c939e28c2cdf49dab0f244300c49df72/c.html