รัฐห้าม‘โรงแรม’โก่งราคา ขู่ตัดสิทธิ์ร่วมโครงการเที่ยวด้วยกัน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้เริ่มโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 โดยเปิดให้ประชาชนผู้ร่วมโครงการใช้สิทธิ์จองที่พักตามโครงการตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. เป็นต้นมา ได้พบการร้องเรียนจากประชาชนมาเป็นจำนวนมากถึงโรงแรมที่พักซึ่งเข้าร่วมโครงการฯ ปรับขึ้นราคาเป็นจำนวนมากในจังหวัด เช่น ภูเก็ต พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ เขาใหญ่ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบหากตรวจสอบพบว่าการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาที่พักหรือให้บริการจริง นอกจากจะถูกลงโทษตัดสิทธิ์จากโครงการในรอบนี้แล้ว และส่งผลถึงการพิจารณาเข้าร่วมโครงการอื่นๆ ที่รัฐบาลจัดขึ้นในระยะต่อๆ ไปด้วย

ที่มา: https://www.naewna.com/business/607938

 

‘เวียดนาม’ ชี้กิจการสิ่งทอกว่า 68% ถูกเรียกค่าปรับ

สมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามและสมาคมหนัง รองเท้าและกระเป๋าถือแห่งประเทศเวียดนาม และคณะการทำงานหุ้นส่วนภาครัฐฯ-เอกชน เปิดเผยผลการสำรวจ พบว่าผู้ประกอบการเสื้อผ้าและรองเท้าในเวียดนามส่วนใหญ่ 68% รับโทษจากลูกค้าต่างชาติ เนื่องจากปัญหาการจัดส่งล่าช้า บางกิจการถูกยกเลิกคำสั่งซื้อและชดเชยค่าปรับ โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าระยะเวลาการขนส่งใช้เวลา 80 วันแทนที่เดิมจะใช้ 40 วันก่อนที่จะส่งไปยังสหรัฐฯ ดังนั้น ลูกค้าต่างชาติบางรายจึงย้ายคำสั่งซื้อไปยังประเทศอื่น ทั้งนี้ การส่งออกเสื้อผ้าและสิ่งทอในเดือน ก.ย. ลดลง 9% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว เป็นมูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/68-pct-of-garment-footwear-firms-suffer-cancellations-penalties-4369724.html

 

“Mirae Asset” คาดศก.เวียดนามฟื้นตัวไตรมาส 4

Mirae Asset บริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัว 4% ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และ 2.3% ทั้งปี 2564 หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 หดตัว 6.17% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท มองว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐและการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวมถึงการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามค่อยๆ ที่จะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและเปิดเศรษฐกิจพื้นที่บางส่วน พร้อมทั้งเร่งฉีดวัคซีน ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยอดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ไหลเข้าอย่างต่อเนื่องและคงรักษาอัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลัก แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังคงเชื่อมั่นในบรรยากาศทางธุรกิจของประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-economy-to-rebound-in-quarter-4-mirae-asset-896914.vov

 

ราคามันฝรั่งในเมียนมาพุ่งสูงขึ้น

ราคามันฝรั่งในตลาดเมียนมาที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาผลผลิตที่ลดลงของจีน นอกจากนี้ อีกทั้งเกษตรกรยังไม่สามารถปลูกมันฝรั่งเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศได้ อีกทั้งจีนได้ปิดชายแดนเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ปีที่แล้วราคาลดลงเนื่องจากการหลั่งไหลเข้าของมันฝรั่งจีน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.64 ราคามันฝรั่งในช่วง 500-1,200 จัตต่อ viss (1 viss = 1.6 กิโลกริม) ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ แต่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.64 ราคาขยับพุ่งมาเป็น 1,050-1,850 จัตต่อ viss นอกจากนี้ ราคาเครื่องครัวยังสูงขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมโควิด-19 การอ่อนค่าของเงินจัต และความต้องการจากต่างประเทศ นอกจากมันฝรั่งแล้ว ราคาหัวหอมที่เพิ่มขึ้นทำให้สร้างความไม่พอใจให้กับครัวเรือนประชาชนเป็นอย่างมาก โดยราคาของหัวหอมเมื่อวันที่ 1 ก.ย.64 อยู่ระหว่าง 200 -500 จัตต่อ viss แต่ในวันที่ 7 ต.ค.64 ราคาขยับเป็น 450 – 950 จัตต่อ viss ราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการจากบังกลาเทศที่สูงขึ้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/potato-price-soars-in-domestic-market/?__cf_chl_managed_tk__=pmd_n6hH8rgDH77fex2nHcuNwVxhSWl4ukOGBcKxxDkcbJQ-1633856152-0-gqNtZGzNAvujcnBszRWl#article-title

 

11 เดือน เมียนมาส่งออกข้าวสร้างรายได้กว่า 661.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กรมศุลกากรเมียนมา เผย เมียนมาสร้างรายได้ 661.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวและข้าวหักในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63 – ส.ค.64) ของปีงบฯ  2563-2564 โดยการชะงักของการค้าชายแดนทำให้ตลาดซบเซาและส่งผลให้ราคาส่งออกลดลง ราคาข้าวขาวมีตั้งแต่ 340-355 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์และคุณภาพ ซึ่งในปีนี้ การส่งออกไปยังยุโรปลดลง แต่อย่างไรก็ตามยังสามารถส่งออกไปยังจีนและบังคลาเทศได้ นอกจากนี้ ราคาข้าวปี 2563 จะเพิ่มขึ้นในฤดูฝน ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าช่วงฤดูมรสุมของปีนี้ราคาอาจจะเพิ่มขึ้น โดยเมียนมาตั้งเป้าการส่งออกข้าวเพียง 2 ล้านตันในปีงบประมาณนี้ เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกลดลงตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และน้ำชลประทานในการเกษตร ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกลดลง 300,000 ตันในปีนี้ ทั้งนี้การส่งออกข้าวในปีงบฯ 2562-2563 มีรายได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้าวันที่ 30 ก.ย.64 คาดว่าปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-rice-export-earns-661-4-mln-in-eleven-months/

 

“รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน” หารือจัดทำ “ระเบียงการเดินทางอาเซียน”

ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการสร้างประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง มีการหารือการรับมือและการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 การสร้างประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง การดำเนินความสัมพันธ์กับภาคีภายนอกที่ประชุมหารือประเด็นในภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยที่ประชุมมีฉันทามติ 5 ข้อของผู้แทนพิเศษฯ เรื่องเมียนมา ความร่วมมือในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อให้อาเซียนพัฒนาก้าวทันโลก และก้าวไกลสู่อนาคตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ในการฟื้นฟูภูมิภาคและการบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/964591

‘เวียดนาม’ เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเพิ่มขึ้น เริ่ม ธ.ค.

รัฐบาลเวียดนามเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อโควิด-19 ในระดับต่ำ ก่อนที่จะเปิดอย่างเต็มรูปแบบในเดือน มิ.ย. ปี 2565 ทั้งนี้ เวียดนามควบคุมชายแดนอย่างเข็มงวดในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 แต่ภาคการท่องเที่ยวยังคงได้รับผลกระทบในเชิงลบ เมื่อพิจารณาถึงโครงสร้างเศรษฐกิจ พบว่าภาคการท่องเที่ยวมีสัดส่วนราว 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนที่แล้ว เวียดนามประกาศว่าจะเปิดเกาะฟูโกว๊กแก่นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วตั้งแต่เดือน พ.ย. นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเวียดนามลดลงเหลือ 3.8 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยว อยู่ที่ 31 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 12% ของ GDP

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20211007/vietnam-to-welcome-more-vaccinated-travellers-from-december/63446.html

 

‘เวียดนาม’ คาดการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปี 64 โต 4%

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่ารายได้รวมจากการค้าปลีกและบริการในปี 2564 เพิ่มขึ้น 3-4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 8% สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ายอดค้าปลีกและบริการอยู่ที่ประมาณ 147.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงฯ บังคับสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ขณะที่ผู้คนระมัดระวังการใช้จ่ายและให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการบริโภคในประเทศในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ และจะหาแนวทางจัดการกับข้อจำกัดการดำเนินธุรกิจและการผลิต โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังวางแผนที่จะเปิดตลาดค้าส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้ออีกครั้ง ควบคู่กับการใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อส่งเสริมการผลิตและการบริโภค ตลอดจนส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-consumer-spending-set-to-grow-by-4-in-2021-318904.html

 

ปีงบฯ 63-64 ค้าชายแดนเมียวดีพุ่งขึ้น 705 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 ถึง 24 ก.ย.64 ของปีงบประมาณ 2563-2564 การค้าชายแดนผ่านด่านเมียวดีระหว่างเมียนมาและไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนการเพิ่มขึ้น 705.47 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 1.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีงบประมาณ 2562-2563 การค้าชายแดนเมียวดี-แม่สอด ยังคงเป็นปกติท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดเมียนมา ให้ข้อมูลว่าปัจจุบันมีการส่งข้าวโพดหลายพันตันมายังไทยผ่านชายแดนเมียวดีทุกวัน เมียนมาได้รับอนุญาตให้ส่งออกข้าวโพดได้ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคมด้วย Form-D โดยไม่มีการเสียภาษีศุลกากร ในช่วงปีงบประมาณที่แล้ว เมียนมาส่งออกข้าวโพดผ่านชายแดนไปยังไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นกว่า 1.2 ล้านตัน สินค้าส่งออกสำคัญไปยังไทย ได้แก่ ข้าวโพด ก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ประมง ถ่านหิน ดีบุกเข้มข้น (ร้อยละ SN 71.58) มะพร้าว (สดและแห้ง) ถั่ว และหน่อไม้ ส่วนการนำเข้าจากไทยจะเป็นสินค้าทุน ได้แก่ เครื่องจักร สินค้าอุตสาหกรรมดิบ เช่น ซีเมนต์และปุ๋ย ส่วนการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหาร

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myawady-border-trade-up-by-705-mln-in-fy2020-2021/#article-title

จีนยืนยันสนับสนุนสปป.ลาวสู้โควิด

รัฐบาลจีนได้ยืนยันการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องสำหรับความพยายามของสปป.ลาวในการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัส ซึ่งรวมถึงเป้าหมายในการฉีดวัคซีน 50% ของประชากรทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ เจียง ไซตง เอกอัครราชทูตจีนประจำสปป.ลาว กล่าวกับสื่อว่า “รัฐบาลจีนจะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้กับรัฐบาลสปป.ลาวภายใต้นโยบายของทั้งสองประเทศ เพื่อให้การสนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการรับมือกับโรคระบาด จีนยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับสปป.ลาวต่อไปเพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น” การสนับสนุนนี้สะท้อนถึงมิตรภาพที่เกิดจากจิตวิญญาณของการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมของความร่วมมือที่สอดคล้อง 4 ด้าน เพื่อนบ้านที่ดี, เพื่อนที่ดี, สหายที่ดีและหุ้นส่วนที่ดี จนถึงขณะนี้ ลาวได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว 6 ชนิด มากกว่า 5.7 ล้านโดสและทางการยังคงดำเนินโครงการฉีดวัคซีนต่อไป และตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชากรร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีหน้าเพื่อป้องกันโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_China
197.php