เงินเฟ้อชะลอตัวแต่ยังอยู่ในระดับที่สูง

 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มลดลง แต่อย่างไรชาวเวียงจันทน์จำนวนมากกล่าวว่ารายได้ของพวกเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ราคายังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ค่าครองชีพในการดำเนินชีวิตยังคงสูงทำให้คุณภาพการชีวิตของพวกเขายังคงยากลำบาก ตามรายงานข้อมูลจากสำนักงานสถิติสปป.ลาว ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 113.95 จุดในเดือนมกราคมขยายตัวร้อยละ 2.01 เมื่อเทียบกับปี 63 ชะลอตัวจากเดือนธันวาคมที่ขยายตัวร้อยละ 3.19 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งค่าเงินกีบที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อยังคงเติบขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Inflation_32.php

เยอรมนีมอบเงิน 20 ล้านยูโรให้สปป.ลาว สำหรับการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ ธรรมาภิบาล และการค้า

กระทรวงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของสหพันธรัฐเยอรมันมอบเงินประมาณ 20 ล้านยูโรและรัฐบาลสปป.ลาวมอบเงินจำนวน 4 ล้านยูโรให้เป็น เงินช่วยเหลือของเยอรมันจัดให้เป็นความร่วมมือทางการเงินผ่าน KfW Development Bank โครงการนี้จะดำเนินการโดยกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ และกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า โดยได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคจากบริษัทที่ปรึกษาระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชากรที่พึ่งพาผลผลิตจากป่า โดยการแนะนำระบบการประกันความถูกต้องตามกฎหมายของไม้และการเสริมสร้างอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ของสปป.ลาว ความร่วมมือทางการเงินของ FLEGT จะติดตามผลการดำเนินการและถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการบูรณาการข้อผูกพันของเยอรมันในสปป.ลาวอย่างใกล้ชิด ภาคป่าไม้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจสปป.ลาวโดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปไม้และเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและลดความยากจน  ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ที่มีใบอนุญาต FLEGT จะถือว่าถูกกฎหมายหากได้รับการตรวจสอบตามข้อกำหนดของ FLEGT โครงการนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมแปรรูปไม้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ  

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Germany_32.php

องค์กร NGO ของญี่ปุ่น มอบทุนสนับสนุนให้แก่กัมพูชา

องค์กรความร่วมมือแบบให้เปล่าแก่โครงการซึ่งดำเนินการโดย NGO ของญี่ปุ่น ได้ตกลงที่จะมอบเงินจำนวน 754,321 ดอลลาร์ แก่สององค์กรภายใต้กรอบของโครงการ Grant Assistance สำหรับโครงการนอกภาครัฐ (NGO) ของญี่ปุ่น ซึ่งสัญญาดังกล่าวลงนามโดยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศกัมพูชาและตัวแทนของผู้รับทุนทั้งสองราย โดยรายแรกคิดเป็นจำนวน 371,479 ดอลลาร์ สำหรับการพัฒนาหลักสูตรการพลศึกษาของมหาวิทยาลัยในระยะเวลา 4 ปี ณ สถาบันการพลศึกษาแห่งชาติ ภายใต้โครงการ Hearts of Gold คาดว่าจะมีนักเรียนมากกว่า 930,000 คน ในกัมพูชาได้รับการศึกษาทางกายภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการริเริ่มโครงการ และมอบเงินสนับสนุนอีกมูลค่า 382,842 ดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยในการทำเกษตรพันธสัญญา สำหรับเมล็ดมะม่วงหิมพานต์อินทรีย์ ผ่านสหกรณ์การเกษตรในโครงการ International Volunteers of Yamagata (IVY) เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรภายในประเทศให้ยั่งยืน โดยการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าสำหรับโครงการ NGO ของญี่ปุ่นในกัมพูชามีขึ้นตั้งแต่ปี 2002 โดยการให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจภายในกัมพูชาในระดับรากหญ้า นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดหาเงินกว่า 42 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการ 133 โครงการ โดยให้ความสำคัญกับสาขาการศึกษาระดับประถมศึกษา สุขภาพ และภาคการเกษตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50814017/japanese-ngo-projects-awarded-grants/

ผู้ให้บริการเช่าอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชามีมุมมองเชิงบวกสำหรับปี 2021

แม้ชาวต่างชาติที่เคยพักอาศัยอยู่ในกัมพูชาจะลดลงเป็นอย่างมากในช่วงที่มีการระบาดของ Covid-19 ทำให้ภาคธุรกิจการปล่อยเช่าไม่ค่อยจะดีนักในกัมพูชา แต่ก็ได้คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นในปี 2021 โดยผู้จัดการฝ่ายขายของ Asian Condo Brokers กล่าวว่ากัมพูชาโดยรวมยังคงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการลงทุนจากต่างชาติแม้ว่าจะมีการระบาดอย่างหนักในปัจจุบันก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เกิดความต้องการในอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายและกระตุ้นความต้องการของตลาดให้เช่าในกัมพูชาได้ในอนาคต โดยชาวต่างชาติประมาณร้อยละ 80 ได้ทำการย้ายถิ่นฐานกลับไปยังภูมิลำเนาของตนเองในช่วงแรกของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลทำให้ราคาค่าเช่าลดลงประมาณร้อยละ 20 และบริมาณการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ลดลงประมาณร้อยละ 40 ภายในสิ้นปี 2020 ซึ่งหากวัคซีนมีประสิทธิภาพมากพอและมีการพิจารณาให้เปิดพรมแดนอีกครั้งคาดว่าตลาดการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์จะกลับสู่สภาวะปกติในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50814018/rental-sector-businesses-share-positive-outlook-for-market-in-2021/

ยอดขายชุด PPE ในเมียนมา ลดฮวบ

ตลาดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ของเมียนมาลดลงเนื่องจาก ปัญหาด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและความไม่สงบทางการเมืองในปัจจุบันส่งผลให้ผู้ซื้อใช้ลดลงอย่างมาก นาย U Aye Kyaw ผู้ขายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลในย่างกุ้งเผย ตลาดหน้ากากในประเทศลดลงครึ่งหนึ่ง ด้านอุปทานลดลงเช่นกันเนื่องจากรถบรรทุกหยุดให้บริการเพราะคนขับรถได้เข่าร่วมต่อต้านรัฐบาลทหาร ปัญหาการขนส่งยังส่งผลให้ชุด PPE มากเกินความต้องการที่ศูนย์การค้าชายแดนเมียวดีหลักไมล์ 105 ตลาดหน้ากากในย่างกุ้งลดลง 40% :จากที่คนขับรถบรรทุกร่วมอารยะขัดขืนต้านรัฐประหารด้วยการหยุดวิ่งรถ ดังนั้นจึงไม่มีการส่งมอบหน้ากากที่ด่านมูเซ ทำให้ตลาดไม่เคลื่อนไหวและราคายังไม่เปลี่ยนแปลง ราคาหน้ากากอนามัย 50 กล่องในย่างกุ้งในราคา 760 จัต ราคาขายนอกตลาดอยู่ระหว่าง 1,000-1,200 จัต หน้ากากอนามัยที่ขายมาจากล็อตก่อนหน้านี้คาดว่าจะหมดในภายในสัปดาห์ถัดไป

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/demand-personal-protective-equipment-falls-myanmar.html

ศุลกากรเมียนมาขยายเวลาเว้นภาษีถึง ก.พ.64

กรมศุลกากรเมียนมา กระทรวงการวางแผนการเงินและอุตสาหกรรมได้ขยายระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้จากการส่งออกไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ การขยายเพดานการยกเว้นภาษี (Tax Holiday) สำหรับภาษีรายได้นิติบุคคลล่วงหน้า /2% ของการส่งออกได้รับการอนุมัติครั้งแรกในเดือนเมษายน 2020 เพื่อช่วยลดภาระทางของธุรกิจในช่วงการระบาดของ COVID-19 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2564 สำนักงานผู้เสียภาษีขนาดใหญ่ (LTO) และสำนักงานผู้เสียภาษีขนาดกลาง (MTO) จะต้องฝึกทำระบบการประเมินตนเอง (SAS) ตามกรมกำหนด ผู้เสียภาษีควรชำระภาษีทุก ๆ สามเดือนล่วงหน้าสำหรับการค้านำเข้า / ส่งออกผ่านการซื้อขายสินค้าหรือศูนย์การค้าชายแดน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-customs-department-extends-tax-exemption-period.html

การส่งออกเวียดนาม ปี 63 เติบโตได้อย่างน่าประทับใจ

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ‘เจโทร’ (JETRO) เปิดเผยว่าภาวะการส่งออกของ 6 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม หดตัว 2.2% เมื่อเทียบกับปี 2562 ด้วยมูลค่าการส่งออกรวมที่ 1.35 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เจโทรระบุว่าการส่งออกของเวียดนามไปยังญี่ปุ่น ลดลง 5.2% แต่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25.7% และจีน 18% อย่างไรก็ตาม การเกินดุลการค้าของเวียดนามที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐฯ และการที่เวียดนามเข้ามาแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ส่งผลให้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ชี้ว่านับเป็นครั้งแรกของเวียดนามที่เป็นประเทศที่มีการบิดเบือนค่าเงิน นอกจากนี้ เมื่อแยกเป็นประเทศในอาเซียน พบว่าไทยเกินดุลการค้าพุ่ง 144.5% เมื่อเทียบกับเวียดนามที่เพิ่มขึ้น 83.5%, สิงคโปร์ 43.9% และมาเลเซีย 25.6%

  ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-records-impressive-export-growth-in-2020/196297.vnp

LG ลงทุนโรงงานในเวียดนาม 750 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัท LG Display ผู้ผลิตจอแสดงผลรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศเดินหน้าลงทุนเพิ่มอีก 750 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโรงงานในเวียดนาม และเล็งขยายแผนการผลิตแผง OLED ต่อไป ทั้งนี้ เมืองไฮฟองได้อนุมัติแผนการลงทุนของบริษัทแอลจี ดิสเพลย์ สำหรับโรงงานที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือของเวียดนาม  โดยค่าใช้จ่ายของการลงทุนในโครงการเมืองท่าของเวียดนาม อยู่ที่ 3.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดจนบริษัทดังกล่าวเล็งถึงการขยายแผนการผลิตเพิ่มมากขึ้นในแผง OLED ในเดือนหน้าอย่างเร็วที่สุด และคาดว่าจะจ้างแรงงานอีกกว่า 5,000 คน นอกจากนี้ LG Display เป็นผู้ผลิตแผง OLED รายใหญ่ที่สุดของโลก ตั้งโรงงานผลิตโมดูล OLED ในเวียดนามเมื่อปี 2559

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/lg-display-to-invest-another-us-750mil-for-its-vietnamese-plant-say-reports-28222.html

เศรษฐกิจไทย 63 ติดลบ 6.1% หดตัวสูงสุดในรอบสองทศวรรษ

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2563 หดตัวติดลบ 4.2% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ทำให้ทั้งปี 2563 เศรษฐกิจไทยหดตัวติดลบ 6.1% ซึ่งเป็นการหดตัวสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ แต่ยังดีกว่าที่ ธปท. ประเมินไว้ทั้งในรายงานนโยบายการเงินเดือน ธ.ค. 2563 และในการประชุม กนง. ในเดือน ก.พ.2564 ที่ผ่านมา โดยองค์ประกอบที่ดีกว่าคาดมาจากการสะสมสินค้าคงคลังที่เร่งขึ้นมากตามผลผลิตเกษตรและเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนที่สามารถกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อยเนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งออกสินค้าที่ปรับดีขึ้นตามเศรษฐกิจคู่ค้าและวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2564 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้แต่ยังต่ำกว่าระดับศักยภาพ โดยในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในช่วงต้นปี แต่คาดว่าผลกระทบโดยรวมจะน้อยกว่าการแพร่ระบาดในระลอกแรก เนื่องจากมาตรการเข้มงวดน้อยกว่าและบังคับใช้เฉพาะพื้นที่ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการซ้ำเติมบางภาคเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ช้ากว่ากลุ่มอื่น ทำให้การฟื้นตัวมีความแตกต่าง ผลกระทบต่อบางกลุ่มธุรกิจและแรงงานจึงควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความไม่แน่นอนอีกมาก ทั้งการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 ดังนั้น โดยรวมเศรษฐกิจไทยจึงยังต้องการมาตรการที่ตรงจุด เพียงพอ และต่อเนื่องเพื่อประคับประคองการฟื้นตัว ทั้งนี้ ธปท. จะมีการประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจและเผยแพร่อีกครั้งในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนมี.ค.2564

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/825641

กัมพูชากำหนดเข้าร่วมภาคีความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง

ผู้ส่งออกภายในประเทศกัมพูชาคาดจะได้รับการกระตุ้นสำหรับการส่งออกสินค้าที่มากขึ้น ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) เนื่องจากกัมพูชามีกำหนดจะเข้าร่วมภาคีความตกลง ตามที่อธิบดีกรมเจรจาการค้าระบุ ซึ่งก่อนหน้านี้กัมพูชาถือเป็นสมาชิกอาเซียนเพียงรายเดียวที่ไม่ได้เข้าร่วมภาคีความข้อตกลงนี้ โดย AHKFTA ได้ริเริ่มเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และบังคับใช้ในเดือนมิถุนายน 2019 สำหรับฮ่องกงและสมาชิกอาเซียนที่ได้เข้าร่วม ซึ่งอธิบดีกรมเจรจาการค้ากล่าวเพิ่มเติมถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับยกตัวอย่างเช่นผู้ส่งออกภายในประเทศไทยได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากสนธิสัญญาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการค้าสินค้าที่ฮ่องกงได้ยกเว้นภาษีศุลกากรแล้ว ส่งผลให้การขนส่งสินค้าขาออกของไทยไปฮ่องกงเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50813620/cambodia-scheduled-to-join-asean-hong-kong-free-trade-agreement/