ชายแดนไทยกัมพูชาเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง

การขนส่งสินค้าผ่านด่านพระตะบอง ของประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่งในช่วงที่ COVID-19 ปิดทำการ แต่ชายแดนก็กลับมาทำงานได้อีกครั้งในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการจำกัดเวลาการเดินทางตามที่ผู้ว่าการจังหวัดพระตะบองกล่าว แม้ว่าชายแดนจะเพิ่งเปิดใหม่ แต่ข้อจำกัดในหลายๆด้านจะยังคงอยู่ โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน ด่านระหว่างประเทศอื่นที่ใช้ร่วมกันระหว่างจังหวัดพระตะบองของกัมพูชาและจังหวัดชลบุรีของประเทศไทยยังคงเปิดให้บริการสำหรับการขนส่งสินค้าตามปกติเท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้คนเดินทางข้ามผ่าน หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานตัวเลขจากกรมการค้าต่างประเทศของไทยซึ่งแสดงให้เห็นว่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชากับไทยลดลงเหลือ 1.5 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกเนื่องจาก Covid-19 กระทบเศรษฐกิจโลกและนำไปสู่การปิดด่านชายแดน จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาในช่วงสามเดือนแรกมีมูลค่าถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา :https://www.khmertimeskh.com/50723015/thai-checkpoint-resumes-for-trade/

ธุรกิจฮานอยกว่า 4,000 ราย ระงับการดำเนินงานชั่วคราว เหตุโควิด-19

ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ผู้ประกอบการลงทะเบียนเพื่อหยุดการดำเนินงานจำนวน 4,240 ราย เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขผู้ว่างงานที่ยื่นขอประกันจำนวนมากกว่า 13,200 ราย ถึงอย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภูมิภาค (GRDP) ขยายตัวร้อยละ 3.72 ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องชะลอการผลิตหรือหยุดการดำเนินงานชั่วคราว ทั้งนี้ เพื่อขจัดอุปสรรคในการทำธุรกิจ ต้องร่วมกันส่งเสริมการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจ ประกอบกับเมืองหลวงต้องหาแนวทางในการแก้ปัญหาที่หลากหลาย เพื่อจะบรรเทาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/over-4000-hanoi-businesses-suspend-operations-due-to-covid19-413664.vov

ยอดขายรถยนต์เวียดนาม เม.ย. ดิ่งลง 40%

จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่าในเดือนเมษายน มียอดขายรถยนต์รวม 11,700 คัน ลดลงร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. หากจำแนกประเภทรถยนต์ พบว่ายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจำนวนมากกว่า 7,700 คัน ลดลงร้อยละ 40 ในขณะเดียวกัน ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์จำนวน 3,600 คัน และยอดขายยานพาหนะวัตถุประสงค์พิเศษจำนวน 313 คัน ลดลงร้อยละ 36, 16 ตามลำดับ ในช่วงเวลาเดียวกัน ยอดขายรถยนต์ที่ประกอบในประเทศจำนวน 7,400 คัน ลดลงร้อยละ 38 ในขณะเดียวกัน ปริมาณนำเข้ารถยนต์จำนวน 4,361 คัน ลดลงร้อยละ 40 ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมฯ และ TC Motor – ตัวแทนของบริษัท Hyundai Thanh Cong ซึ่งไม่ใช่สมาคมของ VAMA กล่าวว่าโตโยต้า (Toyota) ยังคงเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในเวียดนาม รองลงมา TC Motor, Mazda, Kia, Mitsubishi, Honda และ Ford ตามลำดับ นอกจากนี้ ตลาดรถยนต์ในประเทศ คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในเดือนพ.ค. หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/april-auto-sales-down-nearly-40-vs-march-413642.vov

7 เดือนเมียนมามีรายรับจากการส่งออกหยกมากกว่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมียนมามีรายได้จากการส่งออกหยกมากกว่า 420 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาและมากกว่าเกว่า 160 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีที่แล้วจนถึงวันที่ 24 เมษายนของปีนี้ รายได้มาจากการที่มีการจัดงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/jade-export-earnings-reach-420m-in-seven-months

รัฐบาลซื้อข้าวสำรอง 6,300 ตันจาก 40 บริษัท

วันที่ 30 เมษายน 63 รัฐบาลเริ่มซื้อข้าวสำรองประมาณ 6,300 ตัน โดยซื้อจากบริษัทผู้ส่งออก 40 แห่งซึ่งจะถูกเก็บไว้ในโกดัง 5 แห่ง กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับเมียนมาตรวจสอบและสหพันธ์ข้าวเมียนมาจะเป็นผู้รับผิดชอบ กรมการค้าประกาศว่าในการส่งออกข้าวผู้ส่งออกต้องขาย 10 % .ให้รัฐบาลเพื่อการสำรองข้าวของรัฐ เป้าหมายคือเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร เสถียรภาพด้านราคาและยกระดับรายได้ของเกษตรกร ซึ่งหากบริษัทผู้ส่งออกไม่ปฏิบัติตามจะถูกเพิกถอนการลงทะเบียนส่งออก / นำเข้าและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/govt-buys-about-6300-tons-of-rice-in-reserve-from-40-companies

สปป.ลาวดึงดูดการลงทุนมูลค่า 36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯจากนักลงทุนต่างประเทศ

รัฐบาลได้อนุมัติโครงการการลงทุนมากกว่า 6,000 โครงการและจะมีการระดมทุนรวม 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กระทรวงการวางแผนและการลงทุนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนเปิดเผยตัวเลขล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ปี 2532-2562 จำนวนโครงการลงทุนทั้งหมดมีมูลค่ารวม 36.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสถิติพบว่าจีนเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนมูลค่าสูงที่สุดโดยมีโครงการรวมทั้งสิ้น 862 โครงการมูลค่าการลงทุนรวมกัน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาจะเป็นประเทศไทยและเวียดนามมีมูลค่าการลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ ในอนาคตรัฐบาลจะออกนโยบาบที่จะช่วยส่งเสริมการลงทุน รวมถึงการปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจและทำให้ธุรกิจต่างๆ ดำเนินงานในสปป.ลาวได้ง่ายขึ้นและเพื่อปรับปรุงสถานการณ์สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่กระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้จัดตั้งบริการแบบครบวงจรเพื่อให้นักธุรกิจได้รับอนุญาตการลงทุนรวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจได้สะดวกขึ้นเพื่อเป็นการสร้างบรรยายกาศที่ดีด้านการลงทุนในประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos.php

สนามบินนานาชาติเสียมราฐในกัมพูชาจะแล้วเสร็จภายใน 3 ปี

โครงการสนามบินนานาชาติเสียมเรียบมูลค่า 880 ล้านดอลลาร์ที่เริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคมจะใช้เวลา 3 ปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ตามแผนการลงทุนของบริษัทผู้ก่อสร้างอาคารสนามบินนานาชาติอังกอร์ โดยสนามบินแห่งใหม่ซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชาตั้งอยู่ที่ 51 กม. ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเสียมเรียบและ 40 กม. จากอุทยานโบราณคดีอังกอร์และจะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 700 เฮคตาร์ ในการประชุมสัปดาห์นี้กับ สำนักเลขาธิการการบินพลเรือน และผู้อำนวยการการลงทุนสนามบินนานาชาติอังกอร์ (AIAI) มีการประกาศว่าการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 มีนาคมปีนี้และจะใช้เวลา 36 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อสนามบินใหม่เสร็จสมบูรณ์ในระยะแรกคาดว่าจะได้รับผู้โดยสาร 7 ล้านคนต่อปี ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการบินและการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดเสียมเรียบและกระตุ้นเศรษฐกิจของกัมพูชาซึ่งการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลัก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50722558/880m-siem-reap-international-airport-to-be-ready-in-3-years/

ความสามารถในการแข่งขันการส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมข้าวกัมพูชา

กระทรวงพาณิชย์และหุ้นส่วนด้านการพัฒนา โครงการห่วงโซ่คุณค่าการเกษตรกัมพูชา (CAVAC) ได้ทบทวนการศึกษาต้นทุนการส่งออกข้าวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกข้าวของกัมพูชา โดยการหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์กับผู้แทนจาก CAVAC และสหพันธ์ข้าวกัมพูชาเข้าร่วมหารือ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุและขจัดความท้าทายรวมทั้งสำรวจความเป็นไปได้ในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคข้าวในกัมพูชาในปัจจุบัน การศึกษามุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการแข่งขันของภาคข้าวของกัมพูชาโดยการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าของภาคส่วนจากการเพาะปลูกการอบแห้งและการสี เพื่อการส่งออกรวมถึงการขนส่งและการประมวลผลเอกสารไปยังประเทศเป้าหมาย ในสหภาพยุโรปและประเทศอื่น ๆ ณ เดือนเมษายนปีนี้กัมพูชาส่งออกข้าวจำนวน 300,252 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปีที่แล้วมีการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกฤดูฝนประมาณ 7.9 ล้านตัน ในปี 2562 ในขณะที่การส่งออกข้าวสารมีปริมาณ 620,106 ตัน ลดลงจากปีก่อนประมาณ 1%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50722719/export-competitiveness-key-to-cambodias-rice-industry/

ครม.เห็นชอบร่างปฏิญญาอาเซียนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์รับโลกของงานที่เปลี่ยนไป

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของงาน (ASEAN Declaration on Human Resources Development for The Changing World of Work) ซึ่งเป็นการประกาศเจตนารมณ์ทางการเมืองของประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ให้ความสำคัญกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโลกของงาน จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และกระแสการส่งเสริมงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพ รองรับการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีต่อกำลังแรงงานให้สามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของอนาคตของงานได้ ประกอบด้วยมาตรการสำคัญในด้านการพัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงาน เช่น การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดช่วงวัย การเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและโอกาสการจ้างงานสำหรับทุกคน โดยเฉพาะสตรี คนพิการ และผู้สูงอายุ

ที่มา : https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_304231