บริษัทอุตสาหกรรมและการแปรรูปเวียดนาม คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มสูงขึ้นและมีเสถียรภาพ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการอุตฯและแปรรูปเวียดนาม 6,500 ราย ในช่วงไตรมาสที่ 4/2562 พบว่าผู้ประกอบการร้อยละ 46.9 คาดว่าผลผลิตจะเติบโตสูงขึ้นและร้อยละ 37.9 เชื่อว่าการดำเนินงานธุรกิจยังคงเหมือนเดิมกับไตรมาสที่ 1 – 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ผู้ประกอบการร้อยละ 55.3 และ 34.0 คาดว่าการดำเนินงานจะขยายตัวและมีเสถียรภาพ ตามลำดับ เมื่อเทียบช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน บริษัท FDI ส่วนใหญ่ร้อยละ 87.9 มองว่าในเดือนม.ค.-มี.ค. มีการเติบโตและเสถียรภาพได้ดีขึ้น รองลงมารัฐวิสาหกิจ (85.2%) และกิจการที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ (83.5%) ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ผู้ประกอบการอุตฯและแปรรูปส่วนใหญ่ร้อยละ 84.8 มองว่าการผลิตจะขยายตัวและมีความมั่งคงเพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/most-processing-manufacturing-companies-expect-production-growth-stability-409639.vov

เวียดนามเผยปี 62 ส่งออกข้าวไปฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม (GDC) เปิดเผยว่าในปี 2562 เวียดนามส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ 884.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 92.58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไปยังฟิลิปปินส์อยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.63 เมื่อเทียบกับปี 2561หากจำแนกรายการสินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (+1.88% คิดเป็นมูลค่า 189.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ), กาแฟ (+9.4%), อาหารทะเล (+1.94%) และเสื้อผ้า (+3.53%) เป็นต้น ทั้งนี้ ข้าวมีส่วนแบ่งการส่งออกในตลาดฟิลิปปินส์ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.73 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดไปยังต่างประเทศ ซึ่งจากตัวเลขสถิติ พบว่าในปีที่แล้ว มูลค่าส่งออกข้าวของเวียดนามลดลงอยู่ที่ 2.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องมาจากราคาข้าวในตลาดโลกลดลง แต่ในส่วนของปริมาณส่งออกข้าวอยู่ที่ประมาณ 6.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/rice-exports-to-philippines-in-2019-surge/168177.vnp

ข้อเสนอการนำเข้าตาลของกรีกเป็นผลดีสำหรับเมียนมา

สมาคมอ้อยน้ำตาลของเมียนมาเผย กรีซเสนอซื้อน้ำตาลจากเมียนมาที่ราคา fob อยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน/เดือน  ปัจจุบันราคาน้ำตาลปรับตัวลดลงเนื่องจากอุทานส่วนเกินล้นตลาด คลังสินค้าได้รับความเสียหายจากปีก่อนจึงทำให้คุณภาพลดลง นี่เป็นครั้งแรกที่กรีซนำเข้าน้ำตาลเนื่องจากอนุญาตให้นำเข้าและส่งออกและกลับมาเพิ่มปริมาณการค้าในปี 2558 ในอดีตส่วนใหญ่ส่งออกไปจีนเป็นหลัก อย่างไรก็ตามเพื่อควบคุมการส่งออกที่ผิดกฎหมาย จึงจำกัดการนำเข้าน้ำตาลจากเมียนมาและห้ามนำเข้าทั้งหมดในเดือนกันยายน 60 ปัจจุบันมีชาวไร่อ้อยเกือบ 500,000 คน ซึ่งป้อนให้กับโรงงานน้ำตาล 23 แห่งในประเทศ เกษตรกรยังขอให้รัฐบาลจำกัด การนำเข้าน้ำตาลที่ล้นตลาด ปกติแล้วอ้อยจะผลิตและแปรรูปในเดือนพฤศจิกายน แต่โรงงานน้ำตาลในพื้นที่ก็เริ่มหีบอ้อยในเดือนธันวาคมของปีนี้

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/greek-offer-myanmar-sugar-draws-interest.html

ฝรั่งเศสมีแผนเพิ่มการลงทุนในเมียนมา

จากรายงานของสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมของเมียนมา (UMFCCI) ภายหลังจากหยุดการลงทุนไปแปดปี ฝรั่งเศสเตรียมขยายการลงทุนที่มีอยู่และกำลังเริ่มลงทุนในเมียนมาด้านต่าง ๆ เช่น พลังงาน ทางรถไฟ ท่าเรือและอื่น ๆ ทั้งนี้กำลังพูดคุยเกี่ยวกับการจับคู่ธุรกิจฝรั่งเศส – เมียนมา นำโดยสภาธุรกิจฝรั่งเศส – เมียนมา ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ซึ่งจัดขึ้นโดย UMFCCI ธุรกิจของฝรั่งเศสมีความกระตือรือร้นที่จะหาพันธมิตรเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ แม้เมียนมากำลังเผชิญปัญหาภายในแต่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่น ๆ ยังคงต้องพัฒนาต่อไป โดยนักธุรกิจฝรั่งเศสมีความสนใจลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาล่า จากข้อมูลของคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) ฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าอันดับที่เก้าจากคู่ค้า 50 อันดับแรกของเมียนมาและในปีที่แล้วมีปริมาณการค้าระหว่างประเทศ 551 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ปี 1988 ถึง 2011 ฝรั่งเศสลงทุนในเมียนมาไปแล้ว 469 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/france-keen-invest-more-myanmar-says-official.html

ระบบชำระภาษีอิเล็กทรอนิกส์ถูกติดตั้งบริเวณพรหมแดนสปป.ลาว

การใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ทั้งในด้านการจัดการสำหรับยานพาหนะการท่องเที่ยวและรถบรรทุกขนสินค้าระหว่างพรหมแดน  โดยมีการติดตั้งระบบชำระเงิน QR Code ที่สะพานมิตรภาพลาว – ​​ไทยทั้ง 4 แห่ง โดยวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและยังเป็นการช่วยป้องกันการรั่วไหลของการเงินอีกด้วย นอกจากนี้ด้านการค้าและการท่องเที่ยวแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนให้น้อยลงเพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวของสปป.ในบริเวรพรหมแดนต่างๆ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/electronic-tax-payment-system-installed-bokeo-friendship-bridge-113258

การผลิตไฟฟ้าในประเทศลาวส่งออก 6,457MW ในการส่งออก

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559-ปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าของสปป.ลาวสามารถผลิตได้มากถึง6,457MW จากจำนวนโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่เพิ่มขึ้น 63 แห่งโดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 7,213 เมกะวัตต์ /โรงงาน ทำให้มีไฟฟ้าเพื่อส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 145 สร้างรายได้แก่ประเทศมากกว่า 1.3 พันล้านกีบหรือเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันเมื่อ 5 ปีก่อน (2554-2558) ซึ่งปัจจุบันสปป.ลาวมีการขยายสายส่งไฟฟ้าเพิ่มติมเพื่อให้เอื้อต่อการตอบสนองอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ของภาคต่างประเทศที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไทย กัมพูชา พม่าที่เป็นคู่ค้าพลังงานไฟฟ้าที่สำคัญของสปป.ลาวโดยมีการคาดการณ์ว่าประเทศเล่านี้จะมีความต้องการพลังงานาไฟฟ้าในอีก 5 ปีข้างหน้าเพิ่มเติมจากเดิมไปอีก เป็นผลดีแก่ภาคพลังงานไฟฟ้าที่จะสร้างรายได้แก่ประเทศมากขึ้นดังนั้นเศรษฐกิจของสปป.ลาวที่มีภาคพลังงานค่อยขับเคลื่อนก็จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของภาคพลังงานไฟฟ้า

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/electricity-generation-laos-sparks-6457mw-exports-113257

การค้าระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้มีมูลค่ารวมแตะ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อปีที่ผ่านมาปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้สูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ซึ่งนายกกล่าวในช่วงการประชุมสหพันธ์สันติภาพสากล (UPF) World Summit 2020 โดยปริมาณการค้าของระหว่างสองประเทศมีมูลค่ารวม 1,032 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้มีมูลค่าอยู่ที่ 335 ล้านเหรียญสหรัฐและกัมพูชานำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้มูลค่า 696 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยความต้องการสินค้าจากเกาหลีใต้ของคนกัมพูชาส่วนใหญ่คือรถยนต์และโทรทัศน์ ส่วนการส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้า เครื่องดื่มกระเป๋า ยาง ยาเวชภัณฑ์ กระดาษแข็งและสินค้าเกษตร ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเพื่อส่งเสริมการลงทุน ด้านการค้าและการท่องเที่ยว รวมถึงเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซนระบุว่าการที่มีเที่ยวบินตรงจะนำมาซึ่งการลงทุนที่มากขึ้นและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687228/cambodias-trade-volume-with-south-korea-exceeds-1-billion-dollars

องค์กรการเงินระดับฐานรากร่วมส่งเสริมภาคการเงินในกัมพูชา

สมาคมไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา (CMA) ประกาศเปิดตัวโครงการด้านการเงิน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวกัมพูชาในการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึงผ่านช่องทางด้านการศึกษา เพื่อให้ภาคการเงินสำหรับรายย่อยเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการมีค่าใช้จ่ายเกือบ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก CMA และดำเนินการภายในระยะเวลาสามปีมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขข้อกังวลโดยช่วยให้ผู้คนเข้าใจในบริการทางด้านการเงินที่ดีขึ้น ซึ่งโครงการนำร่องนี้จะช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์การรวมกลุ่มทางการเงินของธนาคารแห่งชาติกัมพูชาปี 2553-2568 โดยการดำเนินโครงการจะเกี่ยวข้องกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาชิกผู้ให้บริการการเงินรายย่อย พันธมิตรสำคัญและผู้มีส่วนได้เสียเช่นธนาคารกลาง สมาคมธนาคารในประเทศกัมพูชา สำนักงานสินเชื่อแห่งกัมพูชาและหุ้นส่วนด้านการพัฒนาอื่นๆ ซึ่งนอกจากนี้การศึกษาด้านการเงินในหมู่ประชาชนจะเพิ่มการรับรู้บทบาทของ องค์กรการเงินระดับฐานราก (MFI) ต่อการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของลูกค้าในชนบท จากข้อมูลของ CMA ระบุว่า ณ สิ้นปีที่ผ่านมา MFI ได้ให้เครดิตแก่ชาวกัมพูชาไปกว่า 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่มี 2.7 ล้านคนฝากเงินอยู่ทั้งหมด 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50687227/mfi-players-to-boost-financial-inclusion-in-kingdom

หลวงพระบางเมืองตัวอย่างการปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจ

เจ้าหน้าที่ของเมืองหลวงพระบางได้เป็นผู้นำในการปรับปรุงกระบวนการอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจหลังจากที่รัฐบาลสั่งให้หน่วยงานของรัฐปรับปรุงสภาพธุรกิจทั่วประเทศ โดยสรุปกระบวนการใหม่ที่สปป.ลาวและธุรกิจต่างประเทศต้องปฏิบัติตามเพื่อตั้งค่าการดำเนินงานตามประกาศ ขณะนี้มีเพียง 3 ขั้นตอนในการเริ่มต้นธุรกิจในสปป.ลาว คือการได้รับใบรับรองการลงทะเบียนขององค์กร ได้รับการประทับตราองค์กรและการลงทะเบียนสำหรับประกันสังคม ซึ่งหลังจากได้รับแบบฟอร์มใบสมัครที่กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วเจ้าหน้าที่จะต้องออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนองค์กรหรือบัตรประจำตัวองค์กรให้กับผู้ประกอบการธุรกิจภายใน 10 วัน การลดเวลาในการออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนองค์กร การออกใบอนุญาตให้ธุรกิจใช้ตราประทับของตนเจ้าหน้าที่ไม่ควรใช้เวลาเกิน 5 วันในการพิจารณาคำขอ และใช้เวลาไม่เกินกว่า 2 วันในการพิจารณาการออกทะเบียนประกันสังคมของบริษัท รัฐบาลได้เริ่มนโยบายเพื่อปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจทั่วประเทศ โดยเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนในประเทศและต่างประเทศรวมถึงการสร้างงานและรายได้ การริเริ่มของเมืองหลวงพระบางเพื่อปฏิรูปการจดทะเบียนองค์กรเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐ อีกทั้งรัฐบาลกำลังปรับปรุงกลไกที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ได้ อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการได้รับใบรับรองการลงทะเบียนขององค์กร ผู้ประกอบการจะต้องได้รับใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/luang-prabang-city-sets-example-business-climate-improvement-113159

การระบาดของโรค coronavirus ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกสปป.ลาว

การส่งออกของสปป.ลาวไปยังประเทศจีนยังคงดำเนินต่อไปตามปกติแม้ว่าจีนจะอยู่ในท่ามกลางการแพร่ระบาดของ coronavirus ปัจจุบัน โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกจากสปป.ลาวไปยังประเทศจีนมีมูลค่าสูงถึง 175 ล้านดอลลาร์สรอ.ทำให้ตลาดส่งออกที่อยู่ติดกับประเทศลาวทางตอนเหนือเป็นที่คาดหมายว่ามูลค่าการส่งออกในเดือนมกราคมจะไม่ลดลงโดยสินค้าที่สำคัญในการส่งออกได้แก่ ทรายแร่ยางและผลิตภัณฑ์ยางทองแดงและทองแดงผลิตภัณฑ์กล้วยข้าวโพดและปุ๋ยประเทศจีนถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญทั้งในด้านนักลงทุนต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในสปป.ลาวและเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของประเทศ ปัจจัยที่สนับสนุนให้การค้ามีการเติบโตมีหลายปัจจัยทั้งในการลงนามร่วมมือทางค้าหรือในอนาคตอันใกล้ที่โครงการรถไฟจีน – ลาวที่จะเสร็จในปลายปี 63 และจะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างจีนและสปป.ลาวสะดวกมากขึ้นและเอื้อต่อการท่องเที่ยวและการค้า  ดังนั้นการคาดการณ์ของรัฐบาลสปป.ลาวจึงมองว่าการแพร่ระบาดของcoronavirusไม่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสปป.ลาว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/china-coronavirus-outbreak-yet-impact-lao-exporters-113161