รายได้จากผู้เข้าชมนครวัดในกัมพูชาลดลงอย่างต่อเนื่อง

ผู้เยี่ยมชมอุทยานโบราณคดีอังกอร์ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 11 เดือนแรกของปี ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา โดยจากรายงานล่าสุดของ Angkor Enterprise ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนรายได้จากการขายบัตรผ่านประตูลดลง 14% (1.99 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 193,260 คน ที่ซื้อบัตรผ่านประตูซึ่งน้อยกว่าในปี 2561 อยู่ 17% รายได้อยู่ที่ 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐลดลง 16% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่ามีสาเหตุมาจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังจังหวัดเสียมเรียบที่เป็นที่ตั้งของวัด ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจลดลงในเสียมเรียบแต่เพิ่มขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะสีหนุวิลล์กล่าวโดยโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงยังคงทำงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องโดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างคุณภาพการบริการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.8 ล้านคนเดินทางไปกัมพูชาในช่วงเก้าเดือนแรกของปี โดยเป็นการปรับขึ้น 10% คิดเป็นคนจีน 38% (1.8 ล้านคน)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50666505/revenue-visitors-at-angkor-temples-down-again/

มูลค่านำเข้าสินค้าทุนใน 2 เดือนแรกสูงกว่า 890 ล้านดอลลาร์

เมียนมานำเข้าสินค้าทุนมูลค่ากว่า 890 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลาประมาณสองเดือนปีงบประมาณนี้เกินกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึง 22 พ.ย.ของปีงบประมาณ 62-63 มูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนถึง 890.210 ล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 833.025 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่า 57.185 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึง 16 พ.ย. มีธุรกิจจากต่างประเทศ 35 แห่งที่ได้รับการอนุมัติเข้ามาลงทุนมูลค่ารวม 496.282 ล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาล่า มีมูลค่าถึง 14.303 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดจำนวน 529.189 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งรวมถึงการลงทุนที่มีอยู่แล้ว เมียนมาคาดจะมีเม็ดเงินการลงทุนรวมกว่า 220,000 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 20 ปี และตั้งเป้าเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางภายในปี 2573

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/capital-goods-import-value-reaches-over-890m-in-about-two-months-this-fy

การสร้างสะพานกว่า 190 แห่งบนถนนเมะทีลา-กะลอ

บริษัท Robust Goal แจ้งว่าการสร้างสะพานกว่า 190 ใน 200 แห่งบนถนนเมะทีลา-กะลอ โดยใช้แรงงานและเครื่องจักรจำนวนมากเพื่อสร้างสะพานที่เหลือให้เสร็จสิ้น บริษัทได้รับอนุญาตให้สร้างถนนเมะทีลา-กะลอ-ตองยี ภายใต้ข้อตกลง 40 ปีกับระบบก่อสร้างแบบ BOT และจะมีพิธีเปิดถนนกะลอ-ตอง ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ถนนยาวประมาณ 500 ไมล์ผ่านเมะทีลา, กะลอ, ตองยี, Hopone, โลเชม, Nantsan, Takaw, เชียงตุง และท่าขี้เหล็ก เหลือเพียงสะพาน 6 จาก 200 ที่สร้างขึ้นในส่วนของถนนและสะพานที่ใหญ่ที่สุดที่เหลือเพื่อสร้างเป็นสะพานยาว 40 เมตรใกล้หมู่บ้านมาเกว ค่าใช้จ่ายของถนนยาวหนึ่งไมล์มีมากกว่า 1.7 พันล้านจัต และหากมีโค้งมากก็จะมีค่าใช้จ่ายขึ้นสูงถึง 2 พันล้านจัตต่อไมล์

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/over-190-bridges-build-in-meiktila-kalaw-road

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน ชะลอตัว

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (IIP) ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ขยายตัวต่ำที่สุด นับตั้งแต่ต้นเดือนของปี 2562 อยู่ที่ระดับร้อยละ 5.4 เกิดจากการชะลอตัวของภาคการผลิตและแปรรูปอุตสาหกรรม และการขุดเหมืองแร่ หากสรุปภาวะอุตสาหกรรมสาขา แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการขุดเหมืองแร่ลดลงร้อยละ 5.3 เป็นผลมาจากการผลิตถ่านหินและน้ำมันกลั่นที่ลดลง ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 และภาคการบำบัดน้ำเสียขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ในขณะเดียวกัน ดัชนี IIP ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ เหล็กกล้าดิบ น้ำมันเบนซิน เหล็กเส้น โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ ผ้าธรรมชาติ สีอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/569229/industrial-production-index-expansion-slows-in-november.html#RQfwHtktphXZJLeE.97

การส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามไปยังจีน อาจต้องเผชิญกับอุปสรรค

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) ร่วมมือกับคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว่างนิง (Quang Ninh) ได้เข้าร่วมประชุมที่เมืองหม่งกาย ในวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม่และประมงของเวียดนามไปยังตลาดจีน ซึ่งในจังหวัดกว่างนิงได้รับการพิจารณาให้เป็น “ประตู” ในการเชื่อมต่อการค้าระหว่างเวียดนามและจีน ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของมูลค่าการค้าทวีภาคีประมาณ 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยในจังหวัดดังกล่าว จะได้รับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง และพัฒนาระบบการขนส่งชายแดน แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน แต่ประเทศจีนก็มีระบบการตรวจสอบข้อกำหนดในการนำเข้าสินค้าอย่างเข็มงวด รวมถึงกฎหรือข้อระเบียบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบย้อนกลับถึงถิ่นกำเนิดสินค้าและการติดฉลากผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมาก ทั้งนี้ รองผู้อำนวยการหน่วยงานด้านการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรเวียดนาม ระบุว่าให้เรียกร้องผู้ประกอบการเวียดนามพยายามปรับตัวต่อการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบการผลิตสินค้า ใบรับรองที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ในการนำเข้าสินค้า เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agricultural-exports-to-china-face-barriers-406985.vov

สถาบันวิจัยฝรั่งเศสร่วมมือบริษัท พลังน้ำเทิน 2 จำกัด วิจัยด้านสิ่งแวดล้อม

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาของฝรั่งเศส (IRD) และบริษัท พลังน้ำเทิน 2 (NTPC) ได้ตกลงที่จะร่วมมือในการวิจัยด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในด้านคุณภาพน้ำและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายจะมีส่วนร่วมในการตรวจสอบวิจัยและให้คำปรึกษา โดยจะมีกิจกรรมการฝึกอบรมและการเสริมสร้างศักยภาพสำหรับเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมรวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคนอกจากนี้มีการจัดหาเงินทุนเพื่อสร้างห้องปฏิบัติการวิจัยร่วมระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาระบบนิเวศทั้งทางน้ำและการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนอกจากนี้ที่ยังเป็นการเสริมสร้างบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมของสปป.ลาวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_French_261.php

สปป.ลาว, ออสเตรเลียขยายความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

รัฐบาลสปป.ลาวร่วมมือกับออสเตรเลียในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการนำกลยุทธ์การพัฒนาไปปฏิบัติ หัวข้อนี้ถูกกล่าวถึงในการเสวนาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แห่งชาติ (HRD) การเสวนาครั้งที่ 3 มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 60 คน เพื่อการพัฒนาเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการริเริ่มของรัฐบาลสปป.ลาวที่สำคัญในการปรับปรุงกำลังแรงงานของสปป.ลาวและการทำงานร่วมกันในอนาคต การสนทนาในปีนี้เน้นไปที่ความคืบหน้าของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แห่งชาติและเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ การเกษตร การศึกษาและสุขภาพ อีกประเด็นสำคัญคือการพัฒนากรอบการเรียนรู้ การติดตามและประเมินผลของยุทธศาสตร์  เพื่อการจัดการด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสปป.ลาวอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ออสเตรเลียมีส่วนช่วยในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาสปป.ลาวและเจ้าหน้าที่เพื่อศึกษาในมหาวิทยาลัยของสปป.ลาวและออสเตรเลีย

ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_Australia_261.php

กัมพูชาเข้าร่วมโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรของเวียดนาม

กัมพูชาส่งผู้แทนเข้าร่วมโครงการของเวียดนามที่พยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับภาคเกษตรกรรมของเวียดนามและสปป.ลาว โดยประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตร ผู้เชี่ยวชาญการเกษตรและเกษตรกรเป็นผู้แทนประเทศกัมพูชาในการเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ บริษัท กัมพูชาที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรก็มีตัวแทนจาก บริษัท เวียดนามและสปป.ลาวด้วย ซึ่งมีบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตรกว่า 225 รายการจากทั้งสามประเทศ ตามรายงานใน Nhan Dan Online โดยผู้เข้าร่วมในโปรแกรมได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตร การทำฟาร์มและกิจกรรมในชนบท ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสามประเทศในขณะที่ส่งเสริมการสนับสนุนซึ่งกันและกันในหมู่เกษตรกรในการทำธุรกิจและบริโภคสินค้าเกษตร โดยมีรายงานว่าข้อตกลงความร่วมมือหลายประการจัดทำเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้เทคโนโลยี และยังขาดแคลนเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงในสามประเทศ แต่ข้อจำกัดเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ในไม่ช้าโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเกษตรมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50665907/cambodia-joins-vietnamese-programme-for-agri-cooperation/

คาราวานส่งเสริมการท่องเที่ยวถึงจุดหมายปลายทางแล้ว

กองคาราวานจำนวน 33 คัน จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในประเทศจีน สปป.ลาว และกัมพูชาไปถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายแล้ว โดยขบวนเดินทางออกจากคุนหมิงในมณฑลยูนนานของจีนในวันที่ 16 พ.ย. ข้ามสปป.ลาวก่อนมาถึงกัมพูชาในวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งขบวนรถข้ามไปยังประเทศกัมพูชาผ่านประตูชายแดนที่จังหวัด Stung Treng จากนั้นเดินทางไปยังพนมเปญ, กันแลนด์และกำปงธมก่อนถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายคือเสียมราฐ โดยจากคุนหมิงถึงเสียมราฐรวมระยะทางประมาณ 6,000 กิโลเมตร ซึ่งชื่ออย่างเป็นทางการของคาราวาน คือ Lancang-Mekong Culture and Tourism Exchange and Historical Cities Caravan Tour from China, Laos and Cambodia. เป้าหมายของขบวนรถคือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เยี่ยมชมตลอดทางรวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวภายใต้กรอบความร่วมมือของ Lancang-Mekong Cooperation Framework. โดยขบวนรถดังกล่าวจัดเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการวัฒนธรรมจีน-กัมพูชาปีการท่องเที่ยว 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50665906/tourism-caravan-reaches-final-destination/

จุรินทร์ เปิดงานเศรษฐกิจทันสมัย พัฒนาศักยภาพคน 4 กลุ่มทันโลกดิจิทัล

วันที่ 2 ธ.ค. 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา หัวข้อ “เศรษฐกิจทันสมัย เกษตรไทยก้าวหน้าไปกับสื่อดิจิทัล” ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.อุบลราชธานี โดยกล่าวในช่วงหนึ่งว่า การจัดงานนี้เป็นนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตการแปรรูปและบริการ มี 4 กลุ่มที่เกี่ยวข้อง คือ 1. เกษตรกร 2. นักศึกษา 3. ผู้ประกอบการ และ 4. วิทยุชุมชน ซึ่งโลกเปลี่ยนไป จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้ผู้ผลิตสามารถสื่อสารโดยตรงกับผู้บริโภค และจะสามารถทำให้เกษตรกรไทยสามารถขายสินค้าเกษตรได้ในราคาต่อหน่วยที่ดีขึ้น จึงเป็นที่มาของกิจกรรมวันนี้ที่จัดขึ้นเพื่อสร้างองค์ความรู้และความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และสนับสนุนให้เกษตรกรไทยมีการปรับตัว ใช้ช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมในการเข้าถึงผู้บริโภค รวมทั้งสร้างโมเดลธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และแผนการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าในทุกมิติตามการเปลี่ยนโลกของธุรกิจดิจิทัล การพัฒนาภาคการเกษตรแบบยั่งยืน คือ การพัฒนาจากต้นน้ำ ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตหรือเพิ่มผลิตภาพ จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเป็นการพัฒนาเกษตรยุคใหม่ หรือ Smart Farmer ด้วยการช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละพื้นที่ โดยมีสถานีวิทยุชุมชนเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมและขยายโอกาสทางการตลาดของคนในชุมชนในนามของกระทรวงพาณิชย์ ผมมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ภาคการเกษตรของประเทศมีความเข้มแข็ง งานนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวให้บรรลุสัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์”

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/1716441