ทางการกัมพูชากำหนดแผนเริ่มก่อสร้างคลองฟูนันเตโชในปีนี้

Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างคลองฟูนันเตโชความยาว 180 กิโลเมตรของกัมพูชาจะเริ่มต้นในปีนี้ แม้จะยังมีความกังวลต่อผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดการก่อสร้างคลองดังกล่าว ถึงแม้จะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคและลดต้นทุนการขนส่งสินค้าได้ โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์ ที่คาดว่าจะดำเนินการด้วยเงินทุนจากจีน ด้านรองนายกฯ ได้กล่าวเสริมไว้ในระหว่างปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “กัมพูชา-ประตูสู่อาเซียน” ในการประชุมสุดยอดธุรกิจกัมพูชา-อาเซียน 2024 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงพนมเปญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501467402/cambodia-plans-to-start-funan-techo-canal-work-this-year/

สมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา พร้อมดึงดูดการลงทุนระหว่างประเทศ

สมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา เปิดทำการอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 เม.ย.) ณ กรุงพนมเปญ โดยคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดนักธุรกิจและนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเข้ามาสู่กัมพูชา ด้านนาย Heng Sour รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมอาชีวศึกษา (MLVT) ได้กล่าวไว้ในระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงาน สมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา ซึ่งการจัดตั้งสมาคมดังกล่าวถือเป็นการสะท้อนความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่น สำหรับนาย Takahashi Fumiaki ประธานสมาคมญี่ปุ่น-กัมพูชา พร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพด้านการลงทุนในกัมพูชาให้กับบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสู่กัมพูชามากขึ้น สำหรับญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 5 ของกัมพูชา รองจากจีน สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และไทย ด้านคณะกรรมการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นไปแล้วกว่า 210 โครงการ ณ เดือนมกราคมปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าการลงทุน 3.1 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 1994 จนถึงปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501467404/japan-cambodia-association-to-help-attract-investors-sour-says/

‘VinFast’ รถไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม เจาะตลาดรถยนต์ EV ในไทย

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม แข่งขันกับบริษัทรถยนต์จีนในการเจาะตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ทางบริษัทวางแผนที่จะส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไปยังไทย ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้า

ทั้งนี้ นายวู ดัง เยน ฮัง (Vu Dang Yen Hang) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวินฟาสต์ ประเทศไทย กล่าวว่ารัฐบาลไทยสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และตลาดไทยเป็นเป้าหมายของบริษัท เนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ทางบริษัทเริ่มเจรจากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนให้แก่บริษัทต่างชาติ

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/motoring/2770804/vietnams-vinfast-focusing-on-thailands-ev-market

ฝรั่งเศส เยอรมนี สนับสนุนโภชนาการและการศึกษาสำหรับนักเรียนของ สปป.ลาว

สถานทูตฝรั่งเศสและเยอรมนีในประเทศลาวได้เยี่ยมชมโครงการอาหารและโภชนาการของโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการอาหารและโภชนาการโลกแห่งสหประชาชาติ (WFP) ในแขวงเซกองและสาละวัน โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนี โดยให้การช่วยเหลือแก่สตรีและเด็กผู้หญิงสามารถเข้าถึงโภชนาการและการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พวกเขายังคงเผชิญกับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางอาหารและทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในปี 2566 ฝรั่งเศสสนับสนุนโครงการความช่วยเหลือด้านอาหารกว่า 139 โครงการทั่วโลก มูลค่ารวมกว่า 170 ล้านยูโร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_68_France_y24.php

กระทรวงแรงงาน สปป.ลาว เร่งแก้ไขปัญหาขาดแคลแรงงานภายในประเทศ

สปป.ลาว กำลังต่อสู้กับวิกฤติการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง เนื่องจากคนรุ่นใหม่แสวงหาค่าจ้างที่สูงขึ้นผ่านโอกาสการจ้างงานในต่างประเทศ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว ได้ออกแถลงการณ์เร่งด่วนแก่ชาวลาวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อพิจารณาโอกาสการจ้างงานภายในประเทศลาว ด้วยความพยายามที่จะรักษาจำนวนพนักงานไว้ภายในประเทศ นอกจากนี้ ช่องว่างระหว่างค่าแรงขั้นต่ำและค่าครองชีพในลาวยังคงมีอยู่มาก ส่งผลให้คนงานลาวจำนวนมากมองหาโอกาสในต่างประเทศ ซึ่งมีการเสนอค่าจ้างที่สูงกว่าการทำงานในประเทศ โดยที่ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย และญี่ปุ่น กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับแรงงานอพยพชาวลาว ซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายด้านอุปทานแรงงานของประเทศในปัจจุบัน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/04/labor-ministry-calls-for-lao-nationals-to-apply-for-jobs-in-laos/

การส่งออกผลิตภัณฑ์ป่าไม้ของเมียนมาทะลุ 65.7 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 11 เดือน

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมาระบุว่า ณ วันที่ 22 มีนาคม การส่งออกผลิตภัณฑ์ป่าไม้ของเมียนมามีมูลค่า 65.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีการเงิน 2566-2567 โดยแบ่งเป็น 0.77 ล้านดอลลาร์จากภาครัฐ และกว่า 64.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากภาคเอกชน ในขณะเดียวกันช่วงปีงบประมาณ 2565-2566 ที่ผ่านมา การส่งออกผลิตภัณฑ์จากป่าของเมียนมามีมูลค่าอยู่ที่ 139.35 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมียนมาได้ดำเนินยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) ปี 2563-2568 เพื่อส่งเสริมการส่งออก โดยมีภาคส่วนที่สำคัญของ NES ได้แก่ การผลิตทางการเกษตร เครื่องแต่งกายและเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์อุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจประมง ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ การผลิตและบริการดิจิทัล , บริการโลจิสติกส์, การจัดการคุณภาพ, บริการข้อมูลการค้า, ภาคนวัตกรรมและผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-forest-product-export-surpasses-us65-7m-over-11-months/#article-title

MIC อนุมัติ 6 โครงการใหม่ การประกอบรถ EV การผลิตไฟฟ้า

คณะกรรมการการลงทุนเมียนมา (MIC) อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 6 โครงการในระหว่างการประชุมครั้งที่ 4/2567 ที่จัดขึ้นที่กรุงเนปิดอว์เมื่อวานนี้ โดยโครงการลงทุนทั้ง 6 โครงการอยู่ในภาคอุตสาหกรรม โรงแรมและการท่องเที่ยว และไฟฟ้า รวมถึงการขยายเงินทุนเริ่มต้นของโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งการลงทุนโดยรวมมีมูลค่า 33.911 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 545,500 ล้านจ๊าด สร้างโอกาสในการทำงาน 1,349 ตำแหน่ง ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับไฟเขียว ได้แก่ การประกอบและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าภายใต้ภาคการลงทุนและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี สิงคโปร์ จีน และไทย เป็นนักลงทุนที่โดดเด่นที่สุด จาก 53 ประเทศที่ลงทุนในเมียนมาจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2567 นอกจากนี้ ในบรรดาภาคธุรกิจ 12 กลุ่มนั้น การลงทุนในด้านไฟฟ้า อยู่ที่ร้อยละ 28.48 ของการลงทุนทั้งหมด ในขณะที่ร้อยละ 24.44 อยู่ในน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และร้อยละ 14.43 อยู่ในภาคการผลิต

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mic-approves-6-new-projects-ev-assembly-power-generation-included/

นักลงทุนเรียกร้องให้สนับสนุนเป้าหมายด้านพลังงานในกัมพูชา

ทางการกัมพูชายินดีกับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการลงทุนจากทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตพลังงานทดแทนที่เป้าหมายร้อยละ 70 ของกำลังการผลิต และการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายทั้งหมด (TFEC) ลดลงร้อยละ 19 กล่าวโดย Keo Rottanak รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชา ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนนักลงทุนในภูมิภาค โดยได้กล่าวไว้ในการประชุมสุดยอดธุรกิจกัมพูชา-อาเซียนประจำปี 2024 ขณะที่เป้าหมายของกัมพูชาคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 จะบรรลุเป้าหมายทางด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการกำหนดกลยุทธ์ 4 ประเด็น เพื่อบรรลุเป้าหมายพลังงานสีเขียว โดยเน้นไปที่การเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน รวมถึงประเทศกำลังสร้างโครงข่ายที่ยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสภาวะและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำให้การซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดนเป็นจริง ไปจนถึงการผลักดันให้กัมพูชามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อกำหนดนโยบายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (EVS) ซึ่งคาดว่ารถยนต์ร้อยละ 40 และรถจักรยานยนต์ร้อยละ 70 ในกัมพูชาจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2050

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501466705/investors-urged-to-support-kingdoms-energy-goals/

ฮุน มาเนต คาดเศรษฐกิจกัมพูชาโต 6.6% ภายในปี 2024

ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 6.6 ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.6 ในปี 2023 โดยแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ มาจากการขยายตัวของการส่งออกเสื้อผ้า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว อุตสาหกรรมการเกษตรที่เริ่มมีบทบาท รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มเห็นการเติบโต ซึ่งคาดว่าการเติบโตของกัมพูชาจะกลับคืนสู่ระดับร้อยละ 7 เท่ากับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19  ภายในปี 2028

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501466941/cambodias-economy-projected-at-6-6-pct-in-2024-pm/

‘เวียดนาม’ รับเงินจากการขายคาร์บอนเครดิตให้กับเวิลด์แบงก์ 51.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามได้รับเงินจากการขายคาร์บอนเครดิตให้กับธนาคารโลก (WB) มูลค่า 51.5 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการลดคาร์บอนไดออกไซด์ 10.3 ล้านตันในช่วงปี 2561-2567 นาย เจิ่นกวางบ๋าว รองอธิบดีกรมป่าไม้ของกระทรวงฯ กล่าวว่าพื้นที่ที่มีการจัดเก็บคาร์บอนส่วนใหญ่ 80% อยู่ใน 6 จังหวัดที่ตั้งอยู่ในชายฝั่งตอนกลางเหนือ และ 20% อยู่ในส่วนของท้องถิ่น โดยในส่วนของท้องถิ่นจะมีการจัดสรรเงินให้กับคนในชุมชนที่ลงนามในสัญญาโครงการปกป้องป่าไม้

นอกจากนี้ เวียดนามเริ่มขายคาร์บอนเครดิตเป็นครั้งแรกในปีที่แล้ว จำนวนมากกว่า 10 ล้านคาร์บอนเครดิต มูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดอันดับ 1 ใน 60 ประเทศทั่วโลกที่มียอดการค้าคาร์บอนเครดิตสูงสุด

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/vietnam-receives-usd51-5m-from-world-bank-for-carbon-credits/