ผู้โดยสารกว่า 1.2 ล้านคน ใช้บริการสนามบินนานาชาติของกัมพูชาช่วง ม.ค.-พ.ค

รายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชาเปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2025 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังกัมพูชาผ่านสนามบินนานาชาติทั้งสามแห่ง พุ่งสูงขึ้นถึง 1.21 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จาก 986,435 คนในช่วงเดียวกันของปี 2024 ในจำนวนนี้ คิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 886,244 คน เดินทางมาถึงกัมพูชาผ่านสนามบิน Phnom Penh International Airport ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่สนามบิน Siem Reap International Airport และ Sihanoukville International Airport มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 308,818 คน และ 21,190 คน ตามลำดับ โดยมีการเติบโตร้อยละ 10 และร้อยละ 250 ด้านกระทรวงฯ คาดการณ์ว่ากัมพูชาจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 7.5 ล้านคนในปี 2025 ขณะที่ปัจจุบันสนามบินนานาชาติทั้งสามแห่งเชื่อมโยงเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยัง 12 ประเทศ ใน 34 จุดหมายปลายทางหรือเมืองหลวง/เมืองสำคัญในภูมิภาค และทั่วโลก โดยมีสายการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 31 สายการบิน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501710169/cambodias-intl-airports-receive-1-2-million-passengers-in-jan-may/

‘นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม’ นิยมเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วงเทศกาลเต็ต

บริษัทวิจัยทางด้านการตลาดระดับโลก “The Outbox Company” รายงานว่านักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมากในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเทศกาลเต็ต (Tet) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิและงานเฉลิมฉลองต่างๆ ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมและต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวชาวเวียดนามส่วนใหญ่นิยมเดินทางเองหรือท่องเที่ยวแบบ Free & Easy บ่งชี้ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีความต้องการในการเดินทางระยะสั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน และชาวเวียดนามส่วนใหญ่ 46% ชอบเดินทางกับสมาชิกในครอบครัว ขณะที่ 30% เดินทางกับคู่สมรส และ 17% เดินทางกับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้ ผลการสำรวจด้านการใช้จ่าย พบว่ายอดการใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงเทศกาลเต็ต การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 58% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1691150/vietnamese-holidaymakers-prefer-domestic-trip-during-tet-holiday.html

ไทย-ฮ่องกง มุ่งกระชับความร่วมมือการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับนายจอห์น ลี คา-ชิว (The Honorable John Lee Ka-chiu) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ในระหว่างเดินทางไปร่วมงาน UBS Asian Investment Conference (AIC) 2024 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงต่างยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากเคยหารือทวิภาคีเมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในเดือน ต.ค.66 ซึ่งไทยและฮ่องกงมีความร่วมมือใกล้ชิดทางเศรษฐกิจทำให้เกิดมูลค่าทางการค้าระหว่างกันในปริมาณที่สูงขึ้น พร้อมพูดคุยเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนเพิ่มเติม โดยฝ่ายฮ่องกงชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุน ขณะที่นายกรัฐมนตรีชื่นชมศักยภาพของฮ่องกงที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งดึงดูดการลงทุน รวมถึงมีความพร้อมในการจัดการประชุมด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายพร้อมแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว โดยไทยขอบคุณที่ฝ่ายฮ่องกงยินดีให้ไทยมาจัดงานสงกรานต์ที่ฮ่องกง ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่กันเพิ่มขึ้น และทั้งสองฝ่ายพร้อมทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2024/402451

‘เศรษฐา’สั่งเพิ่มความคุ้มครอง-เยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างเชื่อมั่น‘เมืองไทยปลอดภัย’

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ความสำคัญ นอกจากสนับสนุนการดึงดูดนักท่องเที่ยว ต้องเพิ่มการกำกับดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และเร่งยกระดับมาตรฐานการบริการจัดการ “เมืองไทยปลอดภัย” ผ่านโครงการ “ช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต” มุ่งสร้างภาพลักษณ์ไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและปลอดภัยในสายตานักท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ต่อยอดการพัฒนาศักยภาพ และโอกาสอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้สร้างระบบ Thailand Traveller Safety (TTS) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในการลงทะเบียนออนไลน์ก่อนการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยวที่มีสิทธิขอรับการช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบสิทธิได้ ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิขอรับการช่วยเหลือเยียวยาจะครอบคลุมเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว และประสบเหตุที่ไม่ได้เกิดจากความประมาท เจตนากระทำผิดกฎหมาย หรือมีพฤติการณ์ที่เสี่ยงให้เกิดเหตุ

ที่มา : https://www.naewna.com/likesara/788696

นิกเคอิสื่อชั้นนำญี่ปุ่น ชี้ “ท่องเที่ยวเวียดนาม” โตเร็วกว่าไทย

นายออมรี มอร์แกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Agoda แพลตฟอร์มจัดการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ กล่าวกับสำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ว่าการท่องเที่ยวของเวียดนามเติบโตเร็วกว่าไทย และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ ชาวเกาหลีจำนวนมากจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นและเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากบริษัทเกาหลีได้ตั้งโรงงานและเปิดดำเนินการที่เวียดนามในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการตั้งชุมชนชาวต่างชาติขึ้นมา ในขณะที่จากข้อมูลของสื่อชื่อดังญี่ปุ่น เปิดเผยว่าเวียดนามมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เป็นรองจากญี่ปุ่นและไทยที่เป็นจุดหมายปลายทางในเอเชีย นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) ระบุว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศกว่า 4.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.6 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวหลักของเวียดนาม รองจากจีน สหรัฐฯ และไต้หวัน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-tourism-growing-faster-than-in-thailand-japan-nikkei-asia-2156461.html

นักท่องเที่ยว สปป.ลาว-ไทย แห่ชมพระธาตุกลางแม่น้ำโขง

นักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งจาก สปป.ลาวและไทย แห่ชมพระธาตุกลางแม่น้ำโขง ซึ่งคาดว่ามีอายุมากถึง 700 ปี โดยเจดีย์จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งคราวในช่วงที่ระดับน้ำในแม่น้ำลดต่ำลง ในเขตพื้นที่ตำบลหาดขาม จังหวัดหนองคาย ติดกับตำบล Hadxayfong ในนครหลวงเวียงจันทน์ ของ สปป.ลาว ตามข้อมูลของ Thailand Tourism Director ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัด โดยเจดีย์ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขงถูกทำลายไปในช่วงปี 1766 ที่ปัจจุบันมีความสูง 12.20 เมตร และฐานของพระธาตุกว้าง 15.80 เมตร

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/03/17/tourists-from-laos-thailand-flock-to-see-buddhist-stupa-in-mekong-river/

ผู้คนกว่า 400,000 คนใช้รถไฟลาว-จีนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

รถไฟสายลาว-จีนมีผู้โดยสารมากกว่า 400,000 คนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่มีการขนส่งสินค้ามากกว่า 600,000 ตันข้ามพรมแดนลาว-จีน รถไฟเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่สำหรับเครือข่ายการขนส่งระหว่างประเทศของลาว และบทบาทในการขนส่งสินค้ามีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันรถไฟวิ่งเฉลี่ยหกครั้งต่อวัน โดยสูงสุดแปดเที่ยวต่อวัน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารและสถานีรถไฟเพิ่มขึ้น จำนวนผู้ใช้รถไฟเพื่อเดินทางไปเวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ ในลาวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทางรถไฟได้สร้างการเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างประเทศที่สะดวกสบายระหว่างจีนและอาเซียน ซึ่งช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้อย่างมาก อีกทั้งตามข้อตกลงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม ความต้องการขนส่งสินค้าระหว่างจีนและลาวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สถานีขนส่งสินค้าได้เปิดให้บริการที่เวียงจันทน์ใต้ นาเตย วังเวียง หลวงพระบาง และโพนหง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้ามากขึ้น

 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Over110.php

กรมการท่องเที่ยว ชู 5 องค์ประกอบ ในแนวคิด DOT : Step up to New Chapter ก้าวสู่บทใหม่ที่ท้าทาย เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน

กรมการท่องเที่ยว พลิกโฉมรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง สมดุล และยั่งยืนภายใต้โมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ หรือ BCG Model ด้วยแนวคิด DOT : Step up to New Chapter ก้าวไปสู่บทใหม่ที่ท้าทาย ด้วย 5 องค์ประกอบหลัก ทั้งการพัฒนาองค์กรด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ความคิดสร้างสรรค์ การบูรณาการใช้เทคโนโลยีเพื่อบริการประชาชน การสร้างเครือข่าย และความเป็นมืออาชีพ ชูการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและยกระดับสู่ความเป็นมืออาชีพตามมาตรฐานของอาเซียน ภายใต้ข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Mutual Recognition Arrangement on Tourism Professionals: MRA on TP)

 

ที่มา : https://www.pimthai.co.th/106043

โควิดระบาด สะดุดสะดุดกระทรวงท่องเที่ยว

กระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมายบางอย่างในปีที่แล้ว แต่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอื่นได้เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 นางสวนสวรรค์ วิกนาเกต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวกล่าวว่าความสำเร็จหลักของกระทรวงอยู่ที่งานด้านสื่อ โดยนักข่าวยังคงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ชัดเจน รวดเร็วและเป็นข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง ในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว งานมีการพัฒนาและปรับปรุง แต่เป้าหมายบางอย่างไม่บรรลุผลเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ดังนั้นเพื่อความพยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงตัดสินใจเปิดประเทศอีกครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าชาวต่างชาติจะเดินทางมาที่ลาวเพียงไม่กี่คน แต่การท่องเที่ยวก็เฟื่องฟูจากการเดินทางของคนในท้องถิ่น โดยส่วนใหญ่จะไปหลวงพระบาง อุดมไซ และแขวงเวียงจันทน์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา แม้ว่ารัฐบาลจะจัดเขตดังกล่าวเป็นเขตท่องเที่ยวสีเขียว โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่อนุญาตการเดินทาง

 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Covid29.php

 

“พิพัฒน์” จ่อเจรจาทราเวลบับเบิลจีน สทท.หนุนเพิ่มดีมานด์ตลาดอาเซียน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามกำหนดการเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 24 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่าง 3-6 ก.พ.นี้ จะขอหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ประเทศจีน ถึงความเป็นไปได้ในการทำทราเวลบับเบิล (Travel Bubble) เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยกับจีนโดยไม่ต้องกักตัว และปลายเดือน ก.พ. จะหารือกับทางการมาเลเซียเรื่องทำทราเวลบับเบิล เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียมีกำหนดเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากสถิติการลงทะเบียนสมัครไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) เมื่อ 1 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 9.00-24.00 น. ซึ่งกลับมาเปิดระบบลงทะเบียนประเภท Test & Go รอบใหม่เป็นวันแรก พบว่ามีผู้ลงทะเบียนในระบบไทยแลนด์พาสรวม 35,046 ราย แบ่งเป็นประเภท Test & Go จำนวน 31,343 ราย แซนด์บ็อกซ์ 3,290 ราย และ AQ หรือการกักตัว 413 ราย

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/986185