14 ต.ค. 65 ค้าต่างประเทศเมียนมา พุ่ง ! 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย การค้าระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 1 เมษายนถึง 14 ตุลาคม 2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 พุ่งขึ้นถึง 18.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 15.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการส่งออก 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ในขณะที่การนำเข้า 9.147 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการค้าทางทะเล 13.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และชายแดน 4.344 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญคือ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่นำเข้า ได้แก่ สินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-foreign-trade-surges-to-over-18-bln-as-of-14-october/#article-title

ในช่วง 9 เดือนแรก มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาพุ่งแตะ 41,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18%

ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาพุ่งแตะ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 18 จากมูลค่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นการส่งออกรวมของกัมพูชา 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.1 ในขณะที่การนำเข้ารวมของกัมพูชาอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.% ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ด้านรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา Penn Sovicheat มองว่าการเติบโตดังกล่าวมาจากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกัมพูชาอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงข้อตกลงการค้าเสรี และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกเป็นส่วนสำคัญในการสบับสนุนการเติบโต โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501166339/cambodias-trade-reach-41-billion-increase-of-18-percent-in-first-9-months/

ครึ่งปีแรก ค้าระหว่างประเทศเมียนมา ทะยานแตะ 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย การค้าระหว่างประเทศของเมียนมาในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2565-2566 อยู่ที่ 17.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 14,078 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ การค้าชายแดนลดลง 89.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากมาตรการการควบคุม COVID-19 เข้มงวดของจีนและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-foreign-trade-soars-to-over-17-bln-in-h1/#article-title

วันที่ 23 ก.ย. 65 ของปีงบ 65-66 การส่งออกของเมียนมามากกว่าการนำเข้า

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ระหว่างวันที่ 1 เมษายนถึง 23 กันยายน 2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าของเมียนมาสูงกว่าการนำเข้า เป็นการส่งออก 8,159.057 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าออยู่ที่ 8,159.033 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2564-2565 พบว่า การส่งออกเพิ่มขึ้น 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ส่วนการนำเข้าจะเป็น สินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค  ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์พยายามลดการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยและกระตุ้นการส่งออก โดยเน้นนำเข้าสินค้าจำเป็น เช่น  วัสดุก่อสร้าง สินค้าทุน วัสดุทางการแพทย์ เป็นต้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-goods-exports-surpass-larger-than-imports-as-of-23-sept/#article-title

5 เดือนแรกของปีงบฯ 65 เมียนมามีรายได้จากการส่งออกข้าว พุ่งแตะ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) เผย 5 เดือนที่ผ่านมา (เดือนเมย.-เดือนส.ค.2565) ของปีงบประมาณ 2565-2566 เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักจำนวน 889,991 ตัน จากบริษัทผู้ส่งออกข้าวประมาณ 44 แห่ง ทำรายได้เข้าประเทศประมาณ 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 731,590 ตันส่งออกผ่านทางทะเล ไปยังประเทศในแอฟริกาและสหภาพยุโรป ในขณะที่กว่า 158,400 ตัน ส่งออกผ่านชายแดนไปยังจีน ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมาเมียนมาส่งออกข้าวไปยัง 20 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นจีน (108,269 ตัน) และฟิลิปปินส์ (95,019 ตัน) ขณะที่ราคาข้าวเมื่อเดือนที่แล้ว ราคาข้าวเกรดพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้นเป็น 60,000-90,000 จัตต่อถุง ส่วนราคาข้าวเกรดต่ำจะอยู่ระหว่าง 35,500-50,000 จัตต่อถุง ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาได้ส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-earns-300-mln-from-rice-export-in-past-5-months/#article-title

สรท. คงเป้าส่งออก 6-8% ชี้ยังเสี่ยงจาก เงินเฟ้อ-พลังงาน-ค่าระวางเรือสูง อ้อนขอปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนจริง

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สรท. เปิดเผยว่าภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน ก.ค. 65 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า การส่งออกมีมูลค่า 23,629 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 4.3% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 829,029 ล้านบาท ขยายตัว 17.0% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือน ก.ค.ขยายตัว 4.1%) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 27,289 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 23.9% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 968,940 ล้านบาท ขยายตัว 38.7% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือน ก.ค. 65 ขาดดุลเท่ากับ 3,660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (139,911 ล้านบาท)

ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญในปีนี้ ได้แก่ 1.สถานการณ์อัตราเงินเฟ้อโลกที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง  2.ราคาพลังงานทรงตัวในระดับสูง จากสถานการณ์ยูเครนและรัสเซียที่ยังคงยืดเยื้อ 3.สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางทะเลยังทรงตัวในระดับสูงและเริ่มมีการปรับลดลงในหลายเส้นทาง 4.ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน นอกจากนี้ สรท. มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ขอให้ภาครัฐช่วยพิจารณา อนุญาตให้ภาคเอกชนสามารถปรับราคาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับกลไกตลาด และต้นทุนการผลิตที่แท้จริงได้

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_3546578

คาดการค้าทวิภาคี กัมพูชา-อังกฤษ เติบโตภายใต้โครงการใหม่

หลังอังกฤษตัดสินใจเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับ Brexit ทำให้สหราชอาณาจักรจำเป็นที่จะต้องแทนที่ Generalized Scheme of Preferences (GSP) ด้วยโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า Developing Countries Trading Scheme (DCTS) สำหรับกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา (LDC) ในการกระตุ้นภาคการค้าทวิภาคี ซึ่งจะทำการยกเว้นภาษีในอัตราร้อยละ 99 ให้กับประเทศในกลุ่ม LDC เพื่อเป็นการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าจากประเทศที่กำลังพัฒนา โดยกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์จากทั้งหมด 65 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันกลุ่มประเทศ LDC มีประชากรประมาณร้อยละ 13 ของประชากรโลก แต่มูลค้ากลับคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 1 ของมูลค่าการค้าโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501136142/cambodia-uk-trade-to-soar-under-new-scheme/

การค้า กัมพูชา-สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 45% แตะ 5,892 ล้านดอลลาร์

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 45 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,892 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 คิดเป็นมูลค่า 5,695 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งการนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 3 คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า สินค้าเพื่อท่องเที่ยว และสินค้าเกษตร ในขณะที่กัมพูชานำเข้ายานพาหนะ อาหารสัตว์ และเครื่องจักร จากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ (GSP) ที่ถือเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคการส่งออกของกัมพูชา โดยในปี 2021 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 8.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501134689/cambodia-us-trade-surges-45-to-5892-million/

การค้าทวิภาคีระหว่าง กัมพูชา-จีน พุ่งเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือน

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนแตะมูลค่า 6,971 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินกัมพูชา โดยเปิดเผยว่าในช่วงเดือน มกราคม-กรกฎาคม กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังจีนมูลค่า 701 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6,270 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ซึ่งส่วนใหญ่กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าวสาร มะม่วง กล้วย และมันสำปะหลังไปยังจีน ในขณะเดียวกันกัมพูชาทำการนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรม วัตถุดิบ และวัสดุก่อสร้างจากจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501135128/cambodia-china-bilateral-trade-reaches-almost-7-billion-in-first-seven-months/

“เวียดนาม” เผยครึ่งแรกเดือน ส.ค. ยอดการค้าระหว่างประเทศ พุ่ง 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การค้ารวมในช่วงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. 2565 มีมูลค่ามากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งออกเป็นมูลค่าการส่งออก 15.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 7% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว โดยมีสินค้าส่งออก 5 รายการที่มีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน (2.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองลงมาเครื่องจักร เครื่องมือและอะไหล่, คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ, สิ่งทอและรองเท้า ในขณะเดียวกันเวียดนามนำเข้า 15.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. แต่ในภาพรวมตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงกลาง เดือน ส.ค. เวียดนามยังคงเกินดุลการค้า 1.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-laos-trade-advances-in-jan-jul/