ไทย-สปป.ลาว เดินหน้าเชื่อมต่อรถไฟหนองคาย-เวียงจันทน์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้แทนไทย ร่วมประชุมหารือกับนายเวียงสะหวัด สีพันดอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการพัฒนาเชื่อมโยงการขนส่ง การค้าการลงทุนของสปป.ลาว เกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟ ช่วงหนองคาย – เวียงจันทน์ โดยมี น.ส.จิรัสยา พีรานนท์ อุปทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งการประชุมร่วมกับกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ในครั้งนี้ถือเป็นการประชุมสำคัญที่ทั้งประเทศไทย และ สปป.ลาว เห็นชอบร่วมกันในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดย นายอนุทิน กล่าวชื่นชมรัฐบาล สปป.ลาว ต่อการเปิดให้บริการโครงการรถไฟลาว–จีน ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมนครหลวงเวียงจันทน์กับคุนหมิง ที่จะส่งเสริมการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่าง สปป.ลาวและจีนให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมีความตั้งใจที่จะทำให้การเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างหนองคายและเวียงจันทน์ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองประเทศ ตลอดจนส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งอย่างเป็นระบบ อีกทั้งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/182029

จังหวัดคำม่วน สปป.ลาว ยืนยันพร้อมจ่ายหนี้โครงการพัฒนาจังหวัด 478 พันล้านกีบภายใน 10 ปี

จากการประชุมสามัญครั้งที่ 3 ของสภาประชาชนจังหวัดคำม่วนของสปป.ลาว ที่ประชุมได้มีการหยิบยกประเด็นเรื่องระเบียบการชำระหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดหนี้เสีย จากแผนงานและการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ซึ่งมุ่งเป้าการลงทุนเพื่อผลผลิต การลดหนี้ และลดการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่จำเป็น สำหรับปีนี้มีหนี้ที่ต้องชำระให้กับผู้รับเหมาโครงการที่เข้ามาดำเนินการในจังหวัดจำนวน 54 โครงการ รวม 53 พันล้านกีบแก่ผู้ดำเนินการโครงการพัฒนา 54 โครงการ ส่วนหนี้ค้างชำระรวมจากปีงบประมาณที่ผ่านมา 478 พันล้าน คาดว่าจะสามารถชำระได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า ที่ผ่านมางบประมาณได้ถูกนำไปใช้ในโครงการพัฒนาจังหวัดแต่กลับสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย ในขณะที่การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและอาคารสำนักงานบางแห่งก็ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ต่อการใช้งาน โดยนาย เดชศักดา มณีคำ อธิบดีกรมการวางแผนและการลงทุน กล่าวว่า โครงการที่ไม่ประสบผลสำเร็จหรือมีความล่าช้า ควรมีการระงับและยุติลง

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/09/02/khammouane-expects-to-repay-lak-478-billion-debt-in-10-years/

ท่าเรือพนมเปญในกัมพูชายังคงเติบโตในช่วงครึ่งปีแรก

ท่าเรือพนมเปญ (PPAP) บริษัทซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา รายงานถึงรายรับในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มและสินค้าเกษตรของกัมพูชาไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันท่าเรือได้รองรับตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต (TEU) จำนวน 250,000 ตู้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.70 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยท่าเรือพนมเปญจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการดำเนินงานให้ทันสมัย เป็นไปตามมาตรฐานโลก รวมถึงการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริม เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับท่าเรือทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับปี 2021 ท่าเรือพนมเปญ (PPAP) สร้างรายได้ประมาณ 12 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501137620/phnom-penh-autonomous-port-maintains-growth-in-h1/

“เวียดนาม” กระทรวงคมนาคมอนุมัติก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้

กระทรวงคมนาคมเวียดนาม (MoT) ได้อนุมัติโครงการย่อยจำนวน 12 โครงการที่อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ที่จะก่อสร้างทางด่วนพิเศษเหนือ-ใต้ ปี 2564-2568 โดยโครงการย่อยดังกล่าวจะครอบคลุมระยะทาง 723.7 กม. ด้วยเม็ดเงินทุนรวมทั้งสิ้นราว 147 ล้านล้านดอง (6.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา รัฐสภาอนุมัติแผนการลงทุนโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้ ในปี 2564-2568 เพื่อให้รัฐบาลเริ่มกระบวนการดำเนินงาน ในขณะที่ส่วนท้องถิ่นเร่งทำงาน โดยมุ่งจัดการเรื่องพื้นที่กว่า 70% ให้กับผู้รับเหมาช่วงก่อนวันที่ 20 พ.ย. เพื่อให้การก่อสร้างเริ่มดำเนินการได้ก่อนสิ้นปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/transport-ministry-approves-northsouth-expressway-subprojects-in-20212025/234201.vnp

จีนรุกลงทุนสปป.ลาว 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

คำเจน วงโพสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนของ สปป.ลาว กล่าวว่าจีนยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในสปป.ลาว ด้วยเม็ดเงินทุนสะสมประมาณ 16.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 833 โครงการ โดยการลงทุนของจีนดังกล่าวมีความหลากหลายสาขาธุรกิจและส่วนใหญ่เงินทุนเข้าไปยังธุรกิจขนาดย่อม ขนาดกลางและขนาดใหญ่, รัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน ทั้งนี้ เงินลงทุนหลักที่มีจำนวนมากเข้าไปยังโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ได้แก่ ทางด่วยเวียงจันทร์-วังเวียง, ทางรถไฟสายลาว-จีน, เขตพัฒนาไซเสดถา, เขตเศรษฐกิจบ้านบ่อหาน-บ่อเต็น. สายส่งไฟฟ้าแรงสูงและโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten137_Chinese_y22.php

ออสเตรเลียหนุน สปป.ลาว ปรับปรุงการเชื่อมต่อการขนส่งและการค้า

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ นายพอล เคลลี เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสปป.ลาว และนายวิไลคำ โพธิ์สาละห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ได้ลงนามร่วมกันภายใต้ความร่วมมือในการพัฒนาประเทศระหว่างออสเตรเลีย-สปป.ลาว ด้วยเงินทุนสนับสนุนจากออสเตเลียมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะดำเนินการผ่านโครงการ Partnerships for Infrastructure (P4I) ที่เป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Regional Economic Corridor and Connectivity : SEARECC) ซึ่งสปป.ลาว เชื่อมั่นว่า SEARECC จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับสปป.ลาว ได้ โดยออสเตลียเชื่อมั่นว่าการปรับปรุงการเชื่อมต่อการขนส่ง การวางแผน และการค้าชายแดนจะช่วยเปลี่ยนให้สปป.ลาว จากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นประเทศที่การเชื่อมโยงทางบก และเพิ่มโอกาสในการลงทุนและการจ้างงานในประเทศ

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/07/08/laos-to-bolster-sustainable-trade-diversify-value-chains-under-arise-plus-project/

สปป.ลาว หนุน โลจิสติกส์เชื่อมทางรถไฟ จีน-สปป.ลาว

เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคปฏิวัติประชาชนลาว และประธานาธิบดีทองลุน สีสุลิด แห่งสปป.ลาว ได้เสนอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานร่วมกับ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าใน สปป. ลาว (Vientiane Logistics Park :VLP) เพื่อให้ประเทศเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค อีกทั้งยังขอให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานและกำหนดกฎหมายที่จำเป็นเพื่อหนุนอุตสาหกรรมให้เติบโดได้ดียิ่งขึ้น โดยการเปิดให้บริการของรถไฟลาว-จีนตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2564 มีรายงานว่า การขนส่งสินค้าเพื่อกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้น ซึ่งมีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การเปิดดำเนินการของ VLP มีการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและจีนเพิ่มขึ้น คาดว่าจนถึงปี 2573 จะมีการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 5 ล้านตู้ ครอบคลุมทั่วประเทศและจะมีการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ 2 ล้านตู้ต่อปีผ่าน VLP และทางรถไฟ ทั้งนี้มีการประเมินว่า VLP จะสร้างรายได้ให้กับรัฐประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://english.news.cn/asiapacific/20220630/a006b98c589f4af28f9a3e7c8bee9323/c.html

หลวงน้ำทาเซ็นสัญญาสายส่งไฟฟ้า

จังหวัดหลวงน้ำทาได้ลงนามในสัญญากับ บริษัท พีที คอนสตรัคชั่น แอนด์ ทราเวล จำกัด สำหรับการก่อสร้างโครงข่ายไฟฟ้า 22kW และสายส่งไฟฟ้าขนาด 0.4kW การสำรวจและออกแบบกริดเกิดขึ้นในปี 2563 และ 2565 โดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้อนุมัติโครงการภายใต้แผนการลงทุนภาครัฐ โครงการจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2569 โดยมีการชำระเงินตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2568 วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างต้องปราศจากข้อบกพร่องและต้องมีใบรับรองตามสัญญา วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจะต้องขนส่งไปยังสถานที่ก่อสร้างและมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 97.75 พันล้านกีบ ค่าก่อสร้าง 97.23 พันล้านกีบ ในขณะที่มูลค่าการจัดการโครงการอยู่ที่ 514 ล้านกีบ ตามรายงานของ Electricite du Laos (EDL) ลาวมีแผนที่จะกระชับการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และเปลี่ยนแหล่งน้ำให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนความพยายามของประเทศในการเป็น “แบตเตอรี่พลังงานสะอาด” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากลาวยังคงปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายไฟฟ้าให้กับประเทศอาเซียนอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2564-2568 รัฐบาลมีแผนจะผลิตไฟฟ้า 1,807 เมกะวัตต์ โดยไฟฟ้าพลังน้ำคิดเป็นร้อยละ 57 ของทั้งหมด ไฟฟ้าจากถ่านหินร้อยละ 19 และพลังงานแสงอาทิตย์ร้อยละ 24

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Luang124.php

สิ้นเดือนพ.ค.ของปีงบฯ 65-66 เงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่เมียนมา ดิ่งลง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัทของเมียนมา (DICA) ณ สิ้นเดือนพ.ค.2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 เงินลงทุนจากต่างประเทศเพียง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ไหลเข้าสู่เมียนมา เป็นการลงทุนจากจีนจำนวน 9.017 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไต้หวันระดมทุน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ฮ่องกง 1.215 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และญี่ปุ่น.1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 6 เดือนแรก สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการลงทุนในเมียนมามากที่สุด มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 297 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ โครงการลงทุนที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาประเทศ เช่น  1) การผลิตปุ๋ย 2) การผลิตปูนซีเมนต์ 3) การผลิตเหล็ก 4) เกษตรกรรมและปศุสัตว์และที่เกี่ยวข้อง: 5) การผลิตอาหารและสร้างมูลค่าเพิ่ม 6) การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า7) การผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์  และ 8) การขนส่งสาธารณะ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/232391

โครงการถนนวงแหวนหมายเลข 3 ของกัมพูชา แล้วเสร็จร้อยละ 75

โครงการถนนวงแหวนหมายเลข 3 แล้วเสร็จกว่าร้อยละ 75 ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2022 ภายใต้งบประมาณการก่อสร้างรวม 300 ล้านดอลลาร์ แหล่งเงินกู้จากทางประเทศจีน ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในเดือน มกราคม 2019 โดยโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน กันยายน 2022 ตามรายงานของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ซึ่งถนนวงแหวนหมายเลข 3 มีระยะทางรวม 52 กม. โดย 47 กม. สร้างด้วยปูนซีเมนต์ และอีก 5 กม. สร้างด้วยแอสฟัลต์ มีความกว้างอยู่ที่ 22 ม. ทอดยาวจากถนนแห่งชาติหมายเลข 4 โดยเริ่มจาก Por Sen Chey ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรหนาแน่นทางฝั่งตะวันตกของกรุงพนมเปญ และผ่านถนนแห่งชาติหมายเลข 2 และ 3 ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนแห่งชาติหมายเลข 1 ในส่วนตะวันออกของท่าเรืออิสระของเมืองหลวง ก่อสร้างโดยบริษัท Shanghai Construction Group Co., Ltd.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501085667/ring-road-3-approaches-75-completion-milestone/