สปป.ลาว หนุน โลจิสติกส์เชื่อมทางรถไฟ จีน-สปป.ลาว

เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคปฏิวัติประชาชนลาว และประธานาธิบดีทองลุน สีสุลิด แห่งสปป.ลาว ได้เสนอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานร่วมกับ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าใน สปป. ลาว (Vientiane Logistics Park :VLP) เพื่อให้ประเทศเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค อีกทั้งยังขอให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานและกำหนดกฎหมายที่จำเป็นเพื่อหนุนอุตสาหกรรมให้เติบโดได้ดียิ่งขึ้น โดยการเปิดให้บริการของรถไฟลาว-จีนตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2564 มีรายงานว่า การขนส่งสินค้าเพื่อกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้น ซึ่งมีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การเปิดดำเนินการของ VLP มีการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและจีนเพิ่มขึ้น คาดว่าจนถึงปี 2573 จะมีการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 5 ล้านตู้ ครอบคลุมทั่วประเทศและจะมีการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ 2 ล้านตู้ต่อปีผ่าน VLP และทางรถไฟ ทั้งนี้มีการประเมินว่า VLP จะสร้างรายได้ให้กับรัฐประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://english.news.cn/asiapacific/20220630/a006b98c589f4af28f9a3e7c8bee9323/c.html

หลวงน้ำทาเซ็นสัญญาสายส่งไฟฟ้า

จังหวัดหลวงน้ำทาได้ลงนามในสัญญากับ บริษัท พีที คอนสตรัคชั่น แอนด์ ทราเวล จำกัด สำหรับการก่อสร้างโครงข่ายไฟฟ้า 22kW และสายส่งไฟฟ้าขนาด 0.4kW การสำรวจและออกแบบกริดเกิดขึ้นในปี 2563 และ 2565 โดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้อนุมัติโครงการภายใต้แผนการลงทุนภาครัฐ โครงการจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2569 โดยมีการชำระเงินตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2568 วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างต้องปราศจากข้อบกพร่องและต้องมีใบรับรองตามสัญญา วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจะต้องขนส่งไปยังสถานที่ก่อสร้างและมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 97.75 พันล้านกีบ ค่าก่อสร้าง 97.23 พันล้านกีบ ในขณะที่มูลค่าการจัดการโครงการอยู่ที่ 514 ล้านกีบ ตามรายงานของ Electricite du Laos (EDL) ลาวมีแผนที่จะกระชับการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และเปลี่ยนแหล่งน้ำให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนความพยายามของประเทศในการเป็น “แบตเตอรี่พลังงานสะอาด” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากลาวยังคงปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายไฟฟ้าให้กับประเทศอาเซียนอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2564-2568 รัฐบาลมีแผนจะผลิตไฟฟ้า 1,807 เมกะวัตต์ โดยไฟฟ้าพลังน้ำคิดเป็นร้อยละ 57 ของทั้งหมด ไฟฟ้าจากถ่านหินร้อยละ 19 และพลังงานแสงอาทิตย์ร้อยละ 24

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Luang124.php

สิ้นเดือนพ.ค.ของปีงบฯ 65-66 เงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่เมียนมา ดิ่งลง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัทของเมียนมา (DICA) ณ สิ้นเดือนพ.ค.2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 เงินลงทุนจากต่างประเทศเพียง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ไหลเข้าสู่เมียนมา เป็นการลงทุนจากจีนจำนวน 9.017 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไต้หวันระดมทุน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ฮ่องกง 1.215 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และญี่ปุ่น.1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 6 เดือนแรก สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการลงทุนในเมียนมามากที่สุด มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 297 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ โครงการลงทุนที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาประเทศ เช่น  1) การผลิตปุ๋ย 2) การผลิตปูนซีเมนต์ 3) การผลิตเหล็ก 4) เกษตรกรรมและปศุสัตว์และที่เกี่ยวข้อง: 5) การผลิตอาหารและสร้างมูลค่าเพิ่ม 6) การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า7) การผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์  และ 8) การขนส่งสาธารณะ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/232391

โครงการถนนวงแหวนหมายเลข 3 ของกัมพูชา แล้วเสร็จร้อยละ 75

โครงการถนนวงแหวนหมายเลข 3 แล้วเสร็จกว่าร้อยละ 75 ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2022 ภายใต้งบประมาณการก่อสร้างรวม 300 ล้านดอลลาร์ แหล่งเงินกู้จากทางประเทศจีน ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในเดือน มกราคม 2019 โดยโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน กันยายน 2022 ตามรายงานของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ซึ่งถนนวงแหวนหมายเลข 3 มีระยะทางรวม 52 กม. โดย 47 กม. สร้างด้วยปูนซีเมนต์ และอีก 5 กม. สร้างด้วยแอสฟัลต์ มีความกว้างอยู่ที่ 22 ม. ทอดยาวจากถนนแห่งชาติหมายเลข 4 โดยเริ่มจาก Por Sen Chey ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรหนาแน่นทางฝั่งตะวันตกของกรุงพนมเปญ และผ่านถนนแห่งชาติหมายเลข 2 และ 3 ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนแห่งชาติหมายเลข 1 ในส่วนตะวันออกของท่าเรืออิสระของเมืองหลวง ก่อสร้างโดยบริษัท Shanghai Construction Group Co., Ltd.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501085667/ring-road-3-approaches-75-completion-milestone/

กัมพูชาเปิดใช้งานโรงไฟฟ้า 3 แห่ง มูลค่าลงทุนรวม 90 ล้านดอลลาร์

กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชา เปิดสถานีสายส่งไฟฟ้าย่อยและเครือข่ายในจังหวัดเกาะกง กัมปงจาม และกระแจะ ซึ่งสร้างขึ้นภายใต้กรอบของโครงการร่วมกับสำนักงานพัฒนาฝรั่งเศส (AFD) โดยโครงสร้างพื้นฐานด้านการส่งและจำหน่ายไฟฟ้า จะทำให้ระบบส่งกำลังในภาคตะวันตกและภาคใต้ของกัมพูชามีความเสถียรมากยิ่งขึ้น ภายใต้ความยั่งยืนทางด้านพลังงานภายในประเทศ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลฝรั่งเศสในการขอสัมปทานเงินกู้มูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ และเงินช่วยเหลือ 1 ล้านดอลลาร์ จากสหภาพยุโรปสำหรับการก่อสร้างผ่าน AFD และ Electricité du Cambodge (EDC) มอบเงินบริจาค 15.41 ล้านยูโร (ประมาณ 15.9 ล้านดอลลาร์) เพื่อดำเนินโครงการขยายโครงข่ายส่งและจำหน่ายไฟฟ้าในสามจังหวัด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501073276/90-million-worth-electricity-transmission-and-distribution-infrastructure-in-three-provinces-inaugurated/

‘เวียดนาม’ ยกระดับเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์

หนังสือพิมพ์ Dau tu (Investment) จัดเสวนาหัวข้อ “Getting 5G Ready for Vietnam’s Digital Transformation” วันที่ 4 เม.ย. โดยผู้ให้บริการรายใหญ่ในวงการสื่อสาร อาทิ VinaPhone, MobiFone และ Viettel ประกาศเริ่มทดลองใช้บริการ 5G ในเมืองสำคัญ ได้แก่ เมืองฮานอยและโฮจิมินห์ และจะเร่งขยายไปยังเมืองอื่นๆ ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายดังกล่าว ได้นำเครือข่าย 5G ไปทดลองเชิงพาณิชย์ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้าที่จะพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล โดยคาดว่าเครือข่าย 5G จะวางรากฐานในการเชื่อมโยงและพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ทำให้มูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัลเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-to-boost-5g-commercialisation/224626.vnp

คาดการก่อสร้างท่าเรือในจังหวัดกำปอตของกัมพูชาจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.

โครงการก่อสร้างท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวในกำปอต เมืองชายฝั่งสำคัญแห่งหนึ่งของกัมพูชา ขณะนี้แล้วเสร็จอยู่ที่ร้อยละ 93.41 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2022 รายงานโดยกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) หลังจากได้ร่วมหารือกับทางรัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง MPWT ซึ่งท่าเรือท่องเที่ยวกำปอตสร้างขึ้นภายใต้การจัดหาเงินทุนของ ADB มูลค่าโครงการเกือบ 10 ล้านดอลลาร์ ที่ได้เริ่มขึ้นในปี 2018 ซึ่งคาดว่าเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ ท่าเรือท่องเที่ยวกำปอตจะกลายเป็นประตูสำคัญสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยและเวียดนาม และมีส่วนช่วยในการพัฒนาการท่องเที่ยวระดับจังหวัด สร้างโอกาสให้กับผู้คนในท้องที่ เพิ่มรายได้ และปรับปรุงความเป็นอยู่ของผู้คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501049971/construction-of-kampot-tourism-port-to-complete-in-june/

กัมพูชาสนับสนุนการก่อสร้างท่าเทียบเรือและห้องเย็น สำหรับกิจกรรมทางการค้า

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกัมพูชา สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าและห้องเย็นในบริเวณท่าเทียบเรือใกล้กับท่าเรือพนมเปญในจังหวัดกันดาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการค้าระหว่างประเทศ ในส่วนของการก่อสร้างห้องเย็นจะทำการลงทุนโดย บริษัท InfraCo Asia ผ่านบริษัท Khmer Cold Chain Company โดยห้องเย็นแห่งนี้จะมีพื้นที่ให้บริการมากกว่า 36,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น และเพื่อตอบสนองต่อผู้ประกอบการในท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าโครงการลงทุนดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายแก่นักลงทุน ผู้ค้า นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ที่ต้องการใช้บริการของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกและนำเข้าสินค้าต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501045913/cross-docking-and-cold-storage-facility-to-serve-export-import-activities/

ทางรถไฟสายเวียงจันทน์-หวุงอ่าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายน

การก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมเมืองเวียงจันทน์กับท่าเรือหวุงอ่างในจังหวัดห่าติ๋งตอนกลางของเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางรถไฟดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเส้นทางที่รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามได้ตกลงที่จะร่วมกันพัฒนาซึ่งจะช่วยให้สปป.ลาวที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลสามารถเข้าถึงท่าเรือน้ำลึกเพื่อเพิ่มช่องทางการขนส่งอีกทางได้ โครงการรถไฟดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Lao Logistics Link ซึ่ง PetroTrade เป็นบริษัทในเครือของ PTL Holding Company Limited ได้รับไฟเขียวให้ร่วมมือกับรัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามเพื่อพัฒนา นอกจากเป็นการเชื่อมต่อระหว่างสปป.ลาวและเวียดนามแล้ว ทางรถไฟจะเชื่อมต่อตลาดขนส่งสินค้าของไทยและเมียนมาร์โดยตรงกับท่าเรือหวุงอ่าง ซึ่งสปป.ลาวถือหุ้นใหญ่ร้อยละ 60 ของโครงการและที่เหลือเป็นของรัฐบาลเวียดนาม ท่าเรือนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดีเพื่อใช้เป็นประตูระหว่างเวียดนามตอนกลาง สปป.ลาวกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในการเชื่อมการค้ากัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Work53.php

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชยศาสตร์อนุญาตให้มีบริการส่งน้ำมันฟรี

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชยศาสตร์อนุญาตให้บริษัท เอ็นทีพี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการจัดส่งเชื้อเพลิงโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีที่สุดและลดต้นทุนการเดินทาง ท่ามกลางราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์ นายจินดาศักดิ์ โฆษะมันคง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอ็นทีพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริการส่งน้ำมันจะเริ่มในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนประหยัดเวลาและเงินในการเดินทาง อีกทั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ทำให้บริการดังกล่าวจะช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้บริการมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างคลังสินค้าในจังหวัดสะหวันนะเขตเพื่อเก็บเชื้อเพลิง 3.5 ล้านลิตร โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดหาเชื้อเพลิงให้กับโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอื่นๆ เช่น การรถไฟลาว-จีน และสะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 5

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_NTP_27_22.php