ในช่วง 8 เดือนแรกของปี กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 75 โครงการ

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 75 โครงการ นอกเขตเศรษฐกิจพิเศษในช่วง 8 เดือนแรกของปี ลดลงร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชาที่ออกมาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยระบุว่าโครงการลงทุนภาคเอกชนทั้งหมดมีมูลค่าการลงทุนรวม 1,106 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 52.5 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งโครงการใหม่เหล่านี้คาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 57,000 ตำแหน่ง อยู่ภายใต้อุตสาหกรรมพลังงาน บริการ และการท่องเที่ยว เป็นสำคัญ โดยปีที่แล้ว CDC อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ไปกว่า 238 โครงการ มูลค่ารวม 8.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50948049/75-investment-projects-approved-in-first-eight-months-this-year/

ตั้งแต่ ก.ค. ถึง ส.ค.64 เมียนมาไฟเขียวให้ต่างชาติลงทุนเพียงรายเดียว รวมมูลค่า 5 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) ระหว่างเดือนก.ค. – ส.ค. 2564 เมียนมาอนุญาตให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเพียง 1 ราย ในภาคการผลิตเพียง 5.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม พ.ศ. 2564 เมียนมาร์อนุญาตการลงทุนจากต่างประเทศเพียง 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐในภาคการผลิต ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563-2564 มีการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวม 45 โครงการ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคพลังงาน มากกว่า 80% ด้วยเงินลงทุนรวม 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ภาคเกษตรมีการลงทุนใน 2 โครงการ มูลค่าเกือบ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคปศุสัตว์และประมงจำนวน 6 โครงการ มูลค่ากว่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภาคการผลิตจำนวน 24 โครงการมูลค่ากว่า 262 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ธุรกิจโรงแรมและการท่องเทียวมีมูลค่าการลงทุนกว่า 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ธุรกิจที่ลงทุนในการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมมูลค่ากว่า 28 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ การลงทุนในภาคบริการจำนวน 5 โครงการมูลค่ากว่า 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านการขนส่งและการสื่อสารมีการลงทุนมากกว่า 133 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับอนุมัติการลงทุนมากกว่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531-2532 จนถึงสิ้นเดือนก.ค. 2564 เมียนมาอนุญาตให้มีการลงทุนจากต่างประเทศไปแล้วมากกว่า 91,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/215851

LG เพิ่มการลงทุนในเวียดนาม 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

คณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด ประเทศเวียดนามเปิดเผยว่าได้ออกใบอนุญาตให้ LG Display บริษัทผลิตจอแสดงผลชั้นนำของเกาหลีใต้สามารถเพิ่มการลงทุนในเมืองไฮฟอง 1.4 พันล้านเหรียญ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวนั้น จะช่วยเพิ่มผลผลิตหน้าจอแสดงผล OLED ของโรงงานไฮฟอง จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตที่ 9.6-10.1 ล้านชิ้นต่อเดือน ขยายเป็น 13-14 ล้านชิ้นต่อเดือน คณะกรรมการระบุในคำแถลง ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าวจะช่วยสร้างงานใหม่ถึง 10,000 ตำแหน่ง และสร้างรายได้จากการส่งออก 6.5 พันล้านเหรียญต่อปี

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20210901/lg-display-raises-investment-at-vietnam-factory-by-14-bln-local-govt/62885.html

ญี่ปุ่นเร่งกระจายการลงทุนไปยังหลายพื้นที่เศรษฐกิจ รวมถึงกัมพูชา

กัมพูชาและญี่ปุ่น เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 22 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีสมาชิกภาคเอกชนเข้าร่วมมากกว่า 130 คน โดยจะร่วมหารือมุ่งเน้นไปที่ค่าแรงขั้นต่ำ ภาษี การขนส่ง และการสร้างความเข้าใจต่อห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศกัมพูชามากขึ้น ตามคำแถลงของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ซึ่ง CDC รายงานถึงการอนุมัติโครงการการลงทุนทั้งหมด 145 โครงการ มูลค่ารวม 2.8 พันล้านดอลลาร์ โดยมี 66 โครงการตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นถือเป็นส่วนสำคัญต่อภาคการลงทุนในกัมพูชา สู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของกัมพูชา เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชา และถือเป็นการลดความเสี่ยงในภาคธุรกิจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50927114/japanese-investments-to-diversify-economy-praised/

สุพัฒนพงษ์ เตรียมประชุม รมว.เศรษฐกิจอาเซียน ดันแก้อุปสรรคการลงทุน

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.เมื่อเร็วๆ นี้เห็นชอบร่างกรอบการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนอาเซียน (ASEAN Investment Facilitation Framework : AIFF) ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย นาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนของไทยในการรับรองกรอบ AIFF ในการประชุม รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและคณะมนตรีเขตการลงทุนอาเซียนครั้งที่ 24 (ASEAN Economics Ministers-24th ASEAN Investment Area Council Meeting : AEM-24tAA Counail Meeting ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 กันยายน ที่จะถึงนี้ โดยกรอบ AIFF ในครั้งนี้ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนในฐานะเสาหลักสำคัญของการลงทุนที่นำไปสู่การรักษาและการเติบโตของการลงทุนในประเทศ ผ่านการสร้างบรรยากาศการลงทุนที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุนในการจัดตั้ง ดำเนินการ และขยายการลงทุนและธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ภูมิภาคอาเซียนกำลังจะก้าวเข้าสู่สภาพแวดล้อมภายหลังวิกฤติการระบาดของโรคโควิด 19 โดยมุ่งให้อาเซียนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 โดยเน้นที่การลงทุนเพื่อผลักดันให้อาเซียนเป็นฐานการผลิต (ซัพพายเชน) ที่สำคัญของโลก

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/957596

ทางการกัมพูชารายงานถึงการอนุมัติโครงการการลงทุนใหม่ ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม

ทางการกัมพูชารายงานถึงโครงการการลงทุนใหม่ 2 โครงการมูลค่ารวม 5.5 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) คือโครงการของบริษัท Collaboration Packaging Material Products Co., Ltd. กำลังสร้างโรงงานในเขตจังหวัดกันดาล เพื่อผลิตชิ้นส่วนสำหรับกระเป๋าและรองเท้า และโครงการของบริษัท Chasefire Outdoors (Cambodia) Co., Ltd. จะตั้งโรงงานในจังหวัดตาแก้ว เพื่อผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า และอุปกรณ์ตั้งแคมป์ ซึ่งคาดว่าทั้งสองโครงการจะสร้างงานมากกว่า 1,200 ตำแหน่ง ให้กับคนในท้องถิ่น โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ CDC ได้อนุมัติโครงการการลงทุนใหม่กว่า 10 โครงการ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการผลิตเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง และรองเท้า รวมมูลค่าเกือบ 80 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสร้างงานได้ประมาณ 11,500 ตำแหน่ง ซึ่งปีที่แล้วมีโรงงานกว่า 101 แห่งในกัมพูชาปิดตัวลง เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 โดยส่วนใหญ่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50917469/5-5-mn-of-investments-in-new-apparel-projects-will-create-1200-jobs/

ค้าเวียดนามปี 73 มีสัดส่วน 15% ของ GDP

ตามแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าในประเทศภายในปี 64-73 มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการค้าในประเทศมาอยู่ 15-15.5% อีก 10 ปีข้างหน้า ภายใต้แผนดังกล่าวนั้น การค้าในประเทศจะเติบโตเฉลี่ย 9-9.5% ต่อปี และรายได้ทั้งมาจากการค้าปลีกและจากการบริการผู้บริโภค 13-13.5% โดยแผนดังกล่าวจะมุ่งไปที่การสร้างแบรนด์สินค้าเวียดนาม ตลอดจนปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค ธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้ง ส่วนราชการยังได้กำหนดให้มีการส่งเสริมการลงทุนและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการลงทุน เพื่อปรับให้เข้ากับหลักการการค้าใหม่ รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความทันสมัยและยั่งยืน โดยเฉพาะพื้นที่ชนบท

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/domestic-trade-to-make-up-15-of-gdp-by-2030-876968.vov

เวียดนามเผย 6 เดือนแรก ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ กว่า 15 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ตามข้อมูลกระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เผยว่านักลงทุนต่างชาติแห่เข้าลงทุนในเวียดนาม 15.27 ล้านเหรียญสหรัฐปีนี้ คิดเป็น 97.4% ของจำนวนเม็ดเงินทุนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว กระทรวงฯ รายงานว่าเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. มีเม็ดเงินทุน 9.55 พันล้านเหรียญสหรัฐ เข้าไปอัดฉีดในโครงการที่ได้รับการจดทะเบียนใหม่ จำนวน 804 โครงการ เพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปมากที่สุด คิดเป็น 45.7% ของเงินลงทุนทั้งหมด รองลงมาการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ในขณะที่ สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ด้วยเม็ดเงินลงทุน 5.64 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-attracts-over-15-billion-usd-of-fdi-in-six-months/203576.vnp

กิจการเวียดนาม ก้าวลงทุนโครงการต่างประเทศ ทั้งสิ้น 21.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงวางแผนและการลงทุน ระบุว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนเวียดนามทุ่มเงินรวมทั้งสิ้น 21.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยจำนวน 1,420 โครงการ โดยส่วนใหญ่จะเข้าไปลงทุนในโครงการภาคเหมืองแร่และภาคเกษตรกรรม และจุดหมายทางการลงทุนยอดนิยมของเวียดนาม อาทิ ประเทศสปป.ลาว กัมพูชาและรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วน 23.7%, 13.1% และ 12.9% ตามลำดับ ทั้งนี้ จำนวนเงินลงทุนใหม่และเงินลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศ ทั้งสิ้น 546.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้ ทั้งหมด 15 ประเทศที่ได้รับการลงทุนจากเวียดนาม ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ สหรัฐฯ 302.8 ล้านเหรียญสหัฐ ตามมาด้วยกัมพูชา 89.1 ล้านเหรียญสหรัฐ แคนาดา 32.08 ล้านเหรียญสหรัฐ และฝรั่งเศส 32 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-firms-invest-us2181-billion-in-overseas-projects-868290.vov

‘ศักดิ์สยาม’ เร่งลงทุนขนส่งบูม ศก.ไทย ปักธงฮับอาเซียน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Empowering Thailand 2021 เคลื่อนอนาคตไทยด้วยการลงทุน” ในงานสัมมนาเรื่อง “EMPOWERING THAILAND 2021 เคลื่อนอนาคตไทยด้วยการลงทุน” ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัส โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2019 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงัน โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้คาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 6 เนื่องจากมีวัคซีนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมมีแผนการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้การคมนาคมขนส่งของประเทศมีความสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งทางราง เพื่อลดต้นทุนการขนส่งของประเทศ และการเตรียมความพร้อมการคมนาคมขนส่งทางอากาศรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน หรือ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” (Phuket Sandbox)

ที่มา : https://www.posttoday.com/economy/news/656301