‘สิงคโปร์’ ผู้นำการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ FDI ในเวียดนาม ปีนี้

ตามรายงานของหน่วยงานการลงทุนในต่างประเทศ (FIA) ภายใต้กระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม เปิดเผยว่าสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ของนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม มูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 59.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รองลงมาเกาหลีใต้ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 12% และจีน 538 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 29.3% ตามลำดับ โดยอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 63% ของทุนจดทะเบียนรวมทั้งหมด หรือเป็นมูลค่า 3.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาภาคอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (30% ของทั้งหมด) อีกทั้ง เมืองโฮจิมินห์ยังคงเป็นเมืองที่ได้รับการดึงดูดจากเม็ดเงิน FDI มากที่สุด มีมูลค่ามากกว่า 52.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 12.6% ของเงินลงทุนทั้งหมด รองลงมาจังหวัดบิ่นห์เยืองและฮานอย

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/economy/singapore-leads-fdi-pledges-in-vietnam-this-year-4432527.html

“เวิลด์แบงก์” ประเมินเวียดนามได้รับผลประโยชน์ทางการค้าและรายได้มากที่สุดในสมาชิก RCEP

ตามรายงานของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่าได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบจากการเข้าร่วมสมาชิกของเวียดนามจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยพิจารณาแบบจำลองจาก 4 ปัจจัยที่สะท้อนให้ทราบถึงสถานะของธุรกิจ 1) การปรับลดภาษีของกลุ่ม RCEP เพียงข้อตกลงการค้าฉบับเดียวเท่านั้น 2) ลดอัตราภาษีศุลกากรและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี อาทิ การลดภาษีสินค้าเกษตร 35%,  สินค้าอุตสาหกรรม 25% และบริการ 25% 3) ต้นทุนการค้าระหว่างสมาชิกลดลง 1% ในช่วงปี 2565-2578 4) ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการเปิดกว้างทางการค้าและต้นทุนการค้าที่ลดลง ดังนั้น ผลจากการวิเคราะห์ พบว่ารายได้และการค้าที่แท้จริงของเวียดนามขยายตัวได้ดี ตลอดจนได้รับผลประโยชน์สูงสุดในสมาชิก RCEP รายได้ที่ทแจริงเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับระดับพื้นฐาน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-to-get-highest-trade-income-gains-among-rcep-members-wb-post926211.vov

อุปสงค์ในประเทศขยายตัว ภาคการส่งออกกระตุ้นเศรษฐกิจเวียดนาม ปี 65

องค์กรระหว่างประเทศหลายสถาบัน มองว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวดี สำหรับผลการวิเคราะห์ขององค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก “Fitch Ratings” มีมุมมองในทิศทางที่เป็นบวกมากที่สุด โดยคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโต 7.9% ในปี 2565 และ 6.5% ในปีหน้า และสถาบันอื่นๆ เช่น ธนาคารโลก (5.5%) และธฯคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (6.5%) ทั้งนี้ Fitch Ratings มองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม สาเหตุสำคัญมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกเวียดนามยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง ซึ่งภาคการส่งออกของเวียดนามมีความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน การเบี่ยงเบนของการค้าจากจีนและข้อตกลงการค้าหลายฉบับ ทั้งนี้ อันที่จริง การส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตของเวียดนามมาหลายปีแล้ว แม้จะมีผลกระทบด้านลบจากการระบาดของโควิด-19 แต่มูลค่าการส่งออกของเวียดนามในปีที่แล้ว อยู่ที่ 336.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19%YoY

 

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/business/positive-domestic-demand-exports-to-boost-vietnam-s-growth-in-2022-818218.html

 

‘นายกฯ เวียดนาม’ สั่งคุมราคาน้ำมัน เหตุรักษาเสถียรภาพตลาดในประเทศ

นาย ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงาน รักษาเสถียรภาพระหว่างอุปสงค์และอุปทานของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศ อีกทั้งสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าทำการตรวจสอบศูนย์หน่วยจำหน่ายและสถานีการค้าทั่วประเทศ เพื่อจัดการกับผู้ที่ทำการกักตุนน้ำมันในการแสวงหากำไรและการละเมิดอื่นๆ นอกจากนี้ รัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงการคลังเข้ามาประสานงานกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เพื่อทำการศึกษาและเสนอแนวทางปรับนโยบายภาษีเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมถึงขอความร่วมมือไปยังคณะกรรมการประชาชนจังหวัดและส่วนกลางให้ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมการขายน้ำมันที่ร้านค้าปลีกในท้องที่อย่างใกล้ชิด

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/item/11199502-pm-orders-balance-of-petrol-demand-supply-for-domestic-market.html

‘เวียดนาม-อินเดีย’ เผยการค้าทะลุ 13 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานการค้าเวียดนามประจำอินเดีย อ้างรางานจากรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าการค้าระหว่างประเทศเวียดนามและอินเดียในปี 2564 มีมูลค่าเกินกว่า 13 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกมีมูลค่า 6.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20%YoY ในขณะที่อินเดียมีมูลค่า 6.95 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 56% ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามไปยังตลาดอินเดียในเดือน ธ.ค. ได้แก่ โลหะ (79.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) รองลงมาคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน, โทรศัพท์และส่วนประกอบ, เครื่องจักรและอะไหล่ เป็นต้น โดยสินค้าประเภทวัตถุดิบพลาสติก สารเคมี ยางและถ่านหิน เป็นสินค้าเวียดนามที่มีการเติบโตสูงที่สุดในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 231%, 162% และ 138% ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamindia-trade-exceeds-13-billion-usd/222475.vnp

‘เพาะเลี้ยงหอยมุก’ ก้าวขึ้นแท่นอุตสาหกรรมศักยภาพของเวียดนาม

คุณ Nguyen Chu Hoi รองประธานสมาคมประมงของเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามมีแนวชายฝั่งกว่า 3,200 กม. และมีเกาะมากกว่า 150 แห่ง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแหล่งเอื้อต่อการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลา กุ้ง ปูก้ามหัก หอยเชลล์และหอยแมลงภู่

ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามผ่านมติศูนย์กลางพรรคฯ ฉบับที่ 36-NQ/TW ลงวันที่ 22 ต.ค. 2561 ว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจทางทะเลเวียดนามจนถึงปี 2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2045 โดยการเพาะเลี้ยงหอยมุกเป็นส่วนหนึ่งของภาคประมง อีกทั้ง เมื่อพิจารณาว่าการเพาะเลี้ยงหอยมุกเป็นอุตสาหกรรม จำเป็นต้องพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าและสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาล ตลอดจนการบริหารจัดการของภาครัฐฯ และการดำเนินนโยบาย จะช่วยให้อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงไข่มุกได้ใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/farming-pearls-from-mussels-a-potential-industry-for-vietnam/222423.vnp