ADB คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2021

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับแนวโน้มระยะกลางสำหรับเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะหดตัวลงร้อยละ 4 ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแนวโน้มก่อนหน้านี้ของ ADB ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอันเป็นผลมาจากการระบาดของ Covid-19 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานทางการเกษตรที่ดีขึ้นและปริมาณการผลิตที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางดีขึ้น โดยกล่าวในระหว่างการนำเสนอการสัมมนาทางเว็บเรื่อง “On Road Map to Recovery? Cambodia’s Economic Outlook for 2021” ซึ่งจัดโดย EuroCham ซึ่ง ADB ระบุปัจจัยขับเคลื่อนพื้นฐาน 5 ประการ ในการรักษาอัตราการเติบโต ประการแรกคือการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายการค้า การพัฒนาทักษะ การศึกษาและการผ่อนคลายสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ ตัวขับเคลื่อนที่สองคือการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ประการที่สามคือการสร้างนวัตกรรมและดิจิทัลโดยเฉพาะในอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัล ตัวขับเคลื่อนที่สี่คือการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่คุณค่าในภูมิภาคและการเข้าถึงตลาด และอันดับที่สุดท้ายคือการขยายตัวของเมืองและชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788737/adb-projects-a-rebound-in-growth-for-2021/

หนี้เสียทางฝั่งของไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชาลดลงร้อยละ 2.27 ณ ต.ค.

อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของภาคการเงินรายย่อยลดลงจากร้อยละ 2.56 ในเดือนกันยายน สู่ร้อยละ 2.27 ในเดือนตุลาคมหลังจากเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.33 ในเดือนมกราคมและสูงสุดในเดือนพฤษภาคมที่ร้อยละ 2.61 โดยหัวหน้าฝ่ายสื่อสารของสมาคมการเงินรายย่อยกัมพูชา (CMA) กล่าวว่าการลดลงของหนี้เสียเนื่องจากธนาคารและสถาบันการเงินยังคงทำงานร่วมกันกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด สำหรับอัตราส่วน NPL ที่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีตามมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับโลก ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว NBC แจ้งธนาคารและสถาบันการเงินว่าควรดำเนินการปรับโครงสร้างเงินกู้ต่อไปจนถึงกลางปี ​​2564 ในการที่จะช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788275/microfinance-bad-loans-fall-to-2-27-in-october/

การเปลี่ยนแปลงทางด้านพลังงานสะอาดในกัมพูชา

จังหวัดกัมปอตจะเป็นที่ตั้งของฟาร์มกังหันลมแห่งแรกของกัมพูชา โดยถือเป็นก้าวสำคัญบนทิศทางของพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนในกัมพูชา ซึ่งโครงการพลังงานทดแทนจากลมในกัมพูชากำลังใกล้เข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้าง โดย The Blue Circle (กัมพูชา) ถือเป็นบริษัทผู้ทำการศึกษาโครงการและอยู่ระหว่างการหารือกับการไฟฟ้าแห่งกัมพูชา (EDC) เกี่ยวกับต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งโครงการพลังงานลมแห่งแรกของ Blue Circle ในกัมปอตสามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดได้ถึง 225 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โดยสามารถรองรับการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนได้ 150,000 ครัวเรือน และลดการปล่อย CO2 ได้มากกว่า 130,000 ตันต่อปี ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับกัมพูชาในการบรรลุพันธสัญญาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกรุงปารีสในปี 2015 และถือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชาพึ่งพาแหล่งพลังงานต่างๆเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นพลังน้ำ ถ่านหิน น้ำมันเตา และพลังงานที่ทำการนำเข้ามาจากต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788448/winds-of-change-for-renewables-in-the-kingdom/

รัฐบาลกัมพูชาเร่งพิจารณาการจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่ากระทรวงกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อหรือยกเลิกงานแสดงสินค้าที่จะจัดขึ้นในกัมพูชา จากสถานการณ์การแพรระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงไม่แน่นอน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าหากมีการจัดงานแสดงสินค้าขึ้นจะมีกำหนดอยู่ระหว่างวันที่ 24 ถึง 27 ธันวาคม ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนงานแสดงสินค้าได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากหน่วยงานในพื้นที่ บริษัท ผู้ผลิต ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมายังงาน “Buy Cambodian Campaign” ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นการส่งเสริมการใช้สินค้าในท้องถิ่นและช่วยลดการไหลเข้าของสินค้าจากต่างประเทศเข้าสู่กัมพูชา ทั้งยังเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ผลิตในพื้นที่เพื่อช่วยในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพถูกสุขอนามัยและความปลอดภัย รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ ด้วยต้นทุนที่ต่ำทำให้สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788020/local-goods-exhibition-hangs-in-the-balance/

สนามบินภายในประเทศกัมพูชาได้รับรางวัลความปลอดภัยทางสุขภาพ

สนามบินนานาชาติสามแห่งของกัมพูชาได้รับรางวัล Airport Health Accreditation (AHA) ที่ออกโดย Airports Council International (ACI) ซึ่งรับรองสนามบินนานาชาติของประเทศของกัมพูชา (Phnom Penh International, Siem Reap International และ Sihanouk International) ตามการตรวจสอบที่ดำเนินการในเดือนพฤศจิกายนโดย ACI โดยการตรวจสอบมุ่งเน้นไปที่มาตรการด้านสุขภาพและสุขอนามัยที่กำหนดขึ้นที่สนามบินทั้งสามแห่งเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งสนามบินทั้งสามแห่งของกัมพูชาได้สอดรับกับแนวทางปฏิบัติอย่างเต็มที่ภายใต้มาตรการด้านสุขภาพของรัฐบาลกัมพูชาและมาตรการที่เป็นไปตามคำแนะนำด้านสุขอนามัยที่ออกโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการของสายการบินอีกครั้ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50787907/kingdoms-airports-awarded-prestigious-accreditation/

โครงการท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวของกัมพูชาเสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 55

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) กล่าวว่าโครงการท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดกัมปอตได้ดำเนินการแล้วเสร็จถึงร้อยละ 55 แต่ด้วยการออกแบบใหม่และผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้เกิดความล่าช้า โดยโครงการมีมูลค่าอยู่ที่ 8 ล้านดอลลาร์ มาจากเงินกู้ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2022 ซึ่งหัวหน้าแผนกโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำและการก่อสร้างท่าเรือของ MPWT กล่าวว่าได้ตัดสินใจที่จะออกแบบอาคารผู้โดยสารหลักและท่าเรือใหม่เนื่องจากเพิ่งสังเกตว่าการออกแบบครั้งแรกไม่ดีพอ ดังนั้นจึงต้องมีการออกแบบและวางแผนเพิ่มเติมสำหรับข้อกำหนดโครงสร้างที่แตกต่างกัน โดยท่าเรือตั้งอยู่ในเขตตึกชูมีความยาวประมาณ 300 เมตร และสามารถรองรับเรือที่บรรทุกผู้โดยสารได้ 300 ถึง 400 คน โดยเมื่อท่าเรือสร้างเสร็จและพร้อมให้บริการ จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านแพ็คเกจการท่องเที่ยวที่เชื่อมจังหวัดกัมปอตกับจุดหมายปลายทางในเวียดนามและไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50787547/kampot-tourism-port-project-55-complete/

ตลาดกัมพูชายังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการพืชผักภายในประเทศได้

รายงานการปลูกผักในกัมพูชามีการเพาะปลูกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ประเทศกลับไม่สามารถยุติการนำเข้าได้เนื่องจากการบริโภคในท้องถิ่นนั้นมีปริมาณที่มากกว่าการผลิต โดยกระทรวงและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดกำลังทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกผักเพิ่มขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแรงผลักดันของการปลูกผักทั่วกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสู่ 60,000 เฮกตาร์ โดยการเก็บเกี่ยวผักภายในประเทศกัมพูชาอยู่ที่ 640,000 ตันต่อปี ในขณะที่ความต้องการผักของอยู่ที่ประมาณ 850,000 ตันต่อปี โดยความพยายามในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในกัมพูชายังคงเป็นความท้าทาย แต่กระทรวงและรัฐบาลจะยังคงดำเนินการต่อไปเพื่อเอาชนะปัญหาทั้งหมดเพื่อช่วยให้เกษตรกรเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50787580/vegetable-planting-up-but-not-yet-feeding-local-demand-in-full/