กัมพูชาเก็บภาษีได้ 1.6 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020

กรมจัดเก็บภาษีทั่วไป (GDT) เก็บรายได้จากภาษีคิดเป็นจำนวน 6,820.48 พันล้านเรียล (ประมาณ 1,684 ล้านดอลลาร์) ในช่วงแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้ซึ่งแบ่งโดย GDT ที่สรุปได้นั้นเท่ากับร้อยละ 59 ของเป้าหมายในปี 2020 ตามรายงานข่าวประชาสัมพันธ์ที่ออกหลังการประชุม ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้จากภาษีที่มาจากสองแหล่งหลักคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 และร้อยละ 23 เป็น 1,385.06 พันล้านเรียล (336 ล้านดอลลาร์) และ 2,710.18 พันล้านเรียล (657 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามลำดับ ด้วยการเติบโตของรายได้จากภาษี ผู้อำนวยการของ GDT กล่าวว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายการปฏิรูปในเชิงลึกของรัฐบาลผ่านมาตรการที่สำคัญรวมถึงการเสริมสร้างและการจัดการการปฏิรูปภาษี ของการจัดเก็บภาษีและอื่นๆร่วมด้วย โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะรวบรวมรายได้จากภาษี 11,543 ล้าน Riel (2,885 ล้านดอลลาร์) ในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50744480/cambodia-collected-1-6-billion-in-tax-revenue/

ธนาคารกลางกัมพูชาประกาศถึงสินเชื่อภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) รายงานถึงสินเชื่อประเภทเช่าซื้อเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42.6 สู่ระดับ 330.3 ล้านดอลลาร์ โดยมี 110,479 บัญชีทำการกู้ยืมในช่วงระหว่างครึ่งแรกของปี 2563 โดยสถาบันการเงินรายย่อย (MFI) กัมพูชามองว่าส่วนใหญ่ของการปล่อยกู้ยังมีเสถียรภาพ แต่สินเชื่อด้อยคุณภาพในธุรกิจลีสซิ่งยังคงต้องจับตามองจากการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของ NPL ซึ่งในเดือนธันวาคม 2019 LOLC มีลูกค้า 41,000 ราย ที่มีสินเชื่อลิสซิ่ง คิดเป็นจำนวน 103 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2563 พอร์ตสินเชื่อของลีสซิ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2562 โดยส่วนใหญ่จากมากจากสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ รถแทรกเตอร์และรถสามล้อ ซึ่งรองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายอุปกรณ์การเกษตรของ RMA กัมพูชาซึ่งให้บริการด้านเครื่องจักรกลการเกษตรและรถแทรกเตอร์ภายใต้แบรนด์ John Deere กล่าวว่าปัจจุบันลูกค้าของ RMA ประมาณ 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์กำลังใช้บริการสินเชื่อจากธนาคาร และ MFIs เพื่อทำการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วยอดขายลดลงประมาณร้อยละ 15 จากผลกระทบของ COVID-19 ด้านธนาคารกลางกัมพูชากล่าวว่าได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการดูแลภาพรวมของธนาคารและสถาบันการเงินภายในประเทศ ให้มีเสถียรภาพมากที่สุดในช่วงของการระบาดใหญ่ในครั้งนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50744333/the-central-bank-announces-big-jump-in-financial-leasing-credit/

กัมพูชามองหาแหล่งเงินกู้ต่างประเทศเพื่อกระตุ้นการเติบทางเศรษฐกิจ

กัมพูชากำลังมองหาแหล่งเงินกู้อื่น ๆ เช่นจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และพันธมิตร รวมถึงธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และธนาคารโลก เพื่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ เพื่อสร้างสมดุลหนี้สินในระบบเศรษฐกิจ โดยฮิโรชิซูซูกิประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของสถาบันวิจัยธุรกิจแห่งกัมพูชา (BRIC) กล่าวว่าสัดส่วนหนี้คงค้างจากจีนอยู่ที่ร้อยละ 47.48 จากสถิติหนี้สาธารณะของกัมพูชา ซึ่งรายงานจาก MEF ณ ปี 2562 หนี้สาธารณะของกัมพูชาอยู่ที่ 7.6 พันล้านดอลลาร์ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นอยู่ที่เพียงร้อยละ 0.01 ต่อปีและครบกำหนด 40 ปีตามรายงาน ซึ่ง ADB เพิ่งอนุมัติเงินกู้ 250 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชาในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับธุรกิจ โดยกัมพูชาเก็บภาษีได้ 6 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นกว่า 1.485 พันล้านดอลลาร์จากเป้าหมายของรัฐบาลที่ 4.56 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50744111/widening-foreign-debt-sources-to-boost-economic-growth/

บริษัทจากญี่ปุ่นวางแผนร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ญี่ปุ่นประกาศถึงการกระชับกฎเกณฑ์สำหรับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนจากถ่านหินในต่างประเทศในด้านสิ่งแวดล้อม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ารัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะกระชับกฎการสนับสนุนการลงทุนบนโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งรัฐบาลในปัจจุบันให้เงินทุนแก่ บริษัท ญี่ปุ่นหากโครงการเข้าคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ โดยการลงทุนของญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วคิดเป็นจำนวนกว่า 4.8 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการลงทุนบนโรงไฟฟ้าถ่านหินในต่างประเทศ โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย เวียดนามและบังคลาเทศ ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเป็นเสาหลักของการส่งออกโครงสร้างพื้นฐานสำหรับญี่ปุ่น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50743959/japan-to-limit-financing-of-overseas-coal-power-plants/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ในช่วง 5 เดือนแรก

การส่งออกจากกัมพูชาไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 สู่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจากสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐ โดยรายงานด้านการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 สู่ 2.4 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมกัมพูชานำเข้าผลิตภัณฑ์มูลค่า 125 ล้านดอลลาร์ จากสหรัฐอเมริกาลดลงร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการขยายตัวในทิศทางบวกของการส่งออกนั้นเกิดจากการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่เสื้อผ้าสำเร็จรูป เช่น ข้าวสาร จักรยานและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการส่งออกของภาคเครื่องนุ่งห่มลดลงโดยเฉพาะในตลาดสหภาพยุโรป โดยเมื่อปีที่แล้วการค้าทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศมีมูลค่ารวม 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับปี 2561

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50743738/cambodias-exports-to-u-s-up-26-percent-in-first-five-months/

การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปในกัมพูชาลดลงจากผลกระทบของ Covid-19

โฆษกกระทรวงแรงงานและฝึกอบรมด้านการส่งออกในภาคเสื้อผ้าลดลงมากกว่าร้อยละ 5 เป็นประมาณ 3.78 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก โดยโฆษกกระทรวงแรงงานกล่าวในการแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลในการตอบสนองต่อผลกระทบของ COVID-19 ที่กระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) เมื่อวานนี้ว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปของกัมพูชาอยู่ที่ราว 3.784 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5.4 จากการส่งออกมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 เหตุผลในการลดลงนั้นเป็นเพราะผลกระทบของ COVID-19 รวมถึงการจัดซื้อที่ลดลงทั่วโลก ซึ่งเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าในประเทศกัมพูชา (GMAC) กล่าวว่าการลดลงโดยทั่วไปนั้นเป็นเพราะการหยุดการดำเนินการชั่วคราวและคำสั่งซื้อที่ลดลง โดยจากรายงานครึ่งปีของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ซึ่งกัมพูชานำเข้าลดลงร้อยละ 5 การส่งออกสินค้ากัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นร้อยละ 45 จักรยานร้อยละ 18 ข้าวร้อยละ 29 และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50743103/garment-exports-fall-factories-hit-by-virus/