การค้าที่มั่นคง

หากอยากจะเปิดบริษัททำการค้าขายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม คลินิกเสริมความงามในเมียนมา ถ้าเป็นตลาดล่างของเครื่องสำอางค์ อันนี้ง่ายมากเพราะโดยมากจะมีขายตามแผงลอยในตลาดทั่วไป คือจะมีขายสินค้าในครัวเรือน เช่น สบู่ ยาสีฟัน เครื่องสำอางค์ทั่วไป และขนมมีหมด ซึ่งมักจะมีอยู่ทั่วไปในทุกๆเมือง ทุกๆหมู่บ้าน อีกทั้งภายในตลาดก็จะมีสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ซึ่งทุกๆแห่งจะมีแพล็ตฟอร์มเดียวกันหมด ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนักและรัฐเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านเรามาก ส่วนสินค้าระดับสูงหรือตลาดบนในอดีตจะไม่ค่อยมีมากนัก จะเริ่มมีให้เห็นก็ประมาณสักสิบปีที่ผ่านมา พอห้างสรรพสินค้าเริ่มเปิดก็เริ่มมีตู้โชว์ของเครื่องสำอางค์แบรนด์เนมก็เข้ามาสู่ตลาดมากขึ้นการแข่งขันก็เริ่มรุนแรงขึ้น และเริ่มมีร้านที่เป็นร้านขายแบรนด์ของตนเองเข้ามาร่วมทำตลาดด้วย ต่อมาอิทธิพลของเกาหลีใต้เริ่มเข้ามาสู่ตลาด ทำให้วัยรุ่นคลั่งไคล้กันมาก ดังนั้นเครื่องสำอางค์ตลาดบนเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด การแข่งขันกันดุเดือดขึ้นพอสมควร แง่ดีคือตลาดเริ่มยอมรับเครื่องสำอางค์มากขึ้น เพราะในอดีตจะพบว่าแต่สาวๆ เมียนมาชอบทาหน้าด้วยทานาคาเท่านั้น

ที่มา: https://www.posttoday.com/aec/trade/601341

11 เดิอนมูลค่าค้าชายแดนเมียนมาสูงถึง 9.4 พันล้านเหรียญ

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เมียนมามีรายได้มากกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐจากการค้าชายแดนในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างวันที่ 1 ต.ค.ถึง 6 ก.ย.ในปีงบประมาณปัจจุบัน 61-62 มีมูลค่าถึง 9.464 พันล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่ปีที่แล้วมีมูลค่ารวม 8.434 พันล้านเหรียญสหรัฐ ค้าชายแดนส่วนใหญ่จะเป็นจีนคือมีมูลค่ามากกว่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ลดลง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน มูลค่าการค้าชายแดนที่นะบูแหล่ / Htikhee ที่ค้าขายกับไทยมีมูลค่า 2.318 พันล้านเหรียญสหรัฐมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า เพื่อเป็นส่งเสริมการค้าต้องปรับปรุงทั้งด้านปริมาณและคุณภาพในการนำเข้า ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุนที่สามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/border-trade-value-reaches-over-94-bn-in-11-months

ย่างกุ้งวางแผนศูนย์กลางโลจิสติกส์สถานีรถบรรทุกเพื่อลดความแออัด

ย่างกุ้งวางแผนสร้างศูนย์กลางโลจิสติกส์และสถานีรถบรรทุกในเขตชานเมืองเพื่อลดความแออัดและจัดหาพื้นที่จอดรถให้เพียงพอ ปัจจุบันมีบริษัทขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก 22 ล้อ, 12 ล้อและ 6 ล้อจากโรงงานโดยตรงไปยังเมืองต่างๆ อย่างไรก็ตาม การขนย้ายสินค้าไปยังคลังสินค้าที่สถานีขนส่งทางหลวงบุเรงนอง ในเขตการปกครอง Mayangone ก่อนที่จะโหลดสินค้าลงบนรถบรรทุก ทำให้การจราจรหนาแน่นและสถานีที่ไม่สามารถรองรับจำนวนรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้นได้ เครือข่ายการขนส่งสินค้าของประเทศครอบคลุมโดยรถบรรทุกเป็นส่วนใหญ่นอกเหนือจากช่องทางรถไฟและทางทะเล ในช่วงปีงบประมาณ 60-61 มีรถบรรทุกสินค้ารวม 530,000 คันขนย้ายสินค้าไปทั่วย่างกุ้ง ปริมาณการขนส่งสินค้าทางรถไฟมีจำนวน 526,000 ตันในขณะที่ 422,000 ตันและ 1,400 ตันถูกขนย้ายโดยเรือและเครื่องบินตามลำดับ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/yangon-plans-logistics-hub-truck-terminal-ease-congestion.html

อินโดนีเซีย – เมียนมาหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านอาหาร สิ่งทอ และภาคบริการ

จากรายงานของสหพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (UMFCCI) นักธุรกิจอินโดนีเซียและเมียนมากำลังหารือเพื่อร่วมมือในอุตสาหกรรมอาหารสิ่งทอและบริการ การจับคู่ทางธุรกิจจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นการอำนวยความสะดวกระหว่างนักธุรกิจในการซื้อขายปุ๋ย ยาฆ่าวัชพืช บรรจุภัณฑ์ อาหารและยาซีเมนต์ ปูนซีเมนต์ กระดาษและเยื่อกระดาษ สิ่งทอรวมถึงผ้าบาติก การค้าและบริการ จากข้อมูลพบว่าการค้าของสองประเทศมีมูลค่า 523.147 ล้านเหรียญสหรัฐในระหว่าง เม.ย.ถึงก.ย.2561 เมียนมาส่งออก 62.822 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการนำเข้ามูลค่า 460.325 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปีงบประมาณ 60-61 การค้ากับอินโดนีเซียมีมูลค่า 1,025.278 ล้านเหรียญสหรัฐ- ส่งออก 123.909 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ นำเข้า 901.369 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 61 ถึง ก.ค. 62 มีมูลค่า 863.091 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจัดงาน UMFCCI Centennial International Expo 2019 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการลงทุนในประเทศและต่างประเทศและโอกาสทางเศรษฐกิจโดยจัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้ารวมถึงยานพาหนะจากเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน มาเลเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/indonesia-myanmar-discuss-cooperation-in-foodstuff-textile-service-sectors

กำไรการส่งออกประมงทางทะเลพุ่ง 660 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้

สหพันธ์ประมงเมียนมาระบุว่าจนถึงเดือน ส.ค.ของปีงบประมาณนี้มีรายได้แตะ 667.007 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่ม15.788 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค.ถึง ส.ค.ของปี 60-61 ภาคการเดินเรือ 651.219 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออก 536,396.055 ตัน ในช่วงปีงบประมาณนี้การส่งออกทางทะเลมีจำนวน 544,533.187 ตัน ปีนี้การส่งออกอาจจะไม่ต่างจากปีที่แล้วเนื่องจากความล่าช้าและการปิดกั้นเส้นทางการค้าทางทะเลของจีน ซึ่งเดือนนี้การส่งออกจะไม่เพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่ใช่ฤดูการจับปลา ปีงบประมาณที่ผ่านมารายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 720 ล้านเหรียญสหรัฐสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบทศวรรษ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/marine-export-earnings-hit-over-660-m-usd-this-fy

สมาคมอุตสาหกรรมข้าวเมียนมาส่งออกข้าวไปยังจีน

สมาคมอุตสาหกรรมข้าวเมียน (MRF) ส่งออกข้าว 250,000 ตันไปยังจีนโดยมีการลงนาม MOU กับธัญพืชและน้ำมันกับจีน ในเดือน พ.ย.ระหว่างการจัดงานธัญพืชและน้ำมันแห่งชาติของจีนที่จัดโดย MRF ส่วน MOU ดังกล่าวลงนามในเดือนมิ.ย.โดยจะส่งออกข้าว 100,000 ตัน แต่ปัจจุบันส่งออกอยู่ที่ 90,000 ตัน การส่งออกข้าวไปจีนผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐผ่านระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าของจีนและส่วนใหญ่ส่งออกผ่านชายแดน อย่างไรก็ตามการส่งออกได้ลดลงในปีงบประมาณปัจจุบันเนื่องจากการหยุดชะงักจากการตรวจจับสินค้าที่ผิดกฏหมาย ดังนั้นเมียนมาจึงเล็งตลาดส่งออกใหม่สำหรับข้าวผ่านทางทะเล กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าโมซัมบิกและไลบีเรียเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งเมียนมาส่งข้าวมากกว่า 30,000 ตันทุกสัปดาห์ จากข้อมูลในช่วงปีงบประมาณ 60-61 เมียนมาส่งออกข้าวสูงถึง 3.6 ล้านตัน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-rice-federation-export-rice-china.html