คลองชลประทานภายในกัมพูชาเข้าถึงพื้นที่การเพาะปลูกกว่าร้อยละ 62

ในช่วงกลางปี 2563 ระบบชลประทานของกัมพูชาสามารถเข้าถึงได้โดยประมาณร้อยละ 62 ของพื้นที่เพาะปลูก 2,957,400 เฮกตาร์ทั่วประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะเพิ่มความครอบคลุมต่อไปเมื่อโครงการพัฒนาชลประทานขนาดใหญ่ 12 โครงการเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 ซึ่งในปี 2562 น้ำชลประทานครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรม 1,835,422 เฮกตาร์ ทั่วประเทศกัมพูชารวมถึง 537,077 เฮกตาร์ สำหรับปลูกข้าวในฤดูแล้งและ 1,298,345 เฮกตาร์สำหรับปลูกข้าวในฤดูฝน  หากเปรียบเทียบกับความครอบคลุมของการชลประทานระหว่าง 2510-2562 การเข้าถึงของคลองชลประทานเพิ่มขึ้นร้อยละ 81รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยังเน้นย้ำถึงความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาในการฟื้นฟูและพัฒนาระบบชลประทานของกัมพูชาเพื่อสนับสนุนและขยายการพัฒนาการเกษตรของประเทศต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739924/water-from-cambodias-irrigation-canals-accessible-by-62-of-total-farm-land/

การส่งออกข้าวของกัมพูชาพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 42 ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2563

การส่งออกข้าวของกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ตามรายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกล่าวว่ากัมพูชาส่งออกข้าวสารจำนวน 397,660 ตัน นับจากเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.25 เมื่อเทียบกับจำนวน 281,538 ตัน ในปี 2562 ซึ่งกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปยังกว่า 56 ประเทศทั่วโลก โดยการส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 45 จีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.20 ส่วนในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 47.7 และแหล่งอื่น ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.26

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739927/rice-exports-surge-by-42-percent-in-the-first-six-months-of-2020/

บริษัทบำบัดน้ำในกัมพูชาคาดว่าจะมีรายรับเพิ่มขึ้นหลังจากขาดทุนในปีที่แล้ว

ยูทิลิตี้บริษัทที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ดำเนินการด้านการประปาของพนมเปญ (PWSA) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) โดยมีเป้าหมายที่จะรวบรวมรายได้ให้เพิ่มสูงขึ้นในปี 2563 หลังจากรายได้รวมลดลงอย่างมากในปีที่แล้ว ซึ่งในปี 2562 รายรับของ PWSA ลดลงมากกว่าร้อยละ 18 สู่ระดับ 52.79 ล้านดอลลาร์จาก 64.65 ล้านดอลลาร์ในปี 2561 ตามรายงานทางการเงินที่ยื่นต่อ CSX โดยรายงานแสดงให้เห็นว่ากำไรจากการดำเนินงานลดลงร้อยละ 45.22 มาอยู่ที่ 12.67 ล้านดอลลาร์ จากกว่า 23.13 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่กำไรสุทธิลดลงร้อยละ 54.77 สู่ 8.12 ล้านดอลลาร์ จาก 17.96 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 79.83 ล้านดอลลาร์ ในปี 2563 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิมากกว่า 24.60 ล้านดอลลาร์ โดยในปี 2562 บริษัท ได้ผลิตน้ำสะอาด 221,656,505 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ตั้งเป้าหมายการให้บริการน้ำประปาให้ครอบคลุม 100% ในเขตใจกลางเมืองภายในปี 2568 จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมชาวกัมพูชา 4.9 ล้านคน เข้าถึงการเชื่อมต่อกับน้ำสะอาดแล้วคิดเป็นร้อยละ 80 ของครัวเรือนในเขตเมือง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739594/water-company-expects-big-revenue-rise-after-2019-loss/

บริษัทจากญี่ปุ่นเกือบ 90 แห่ง ในกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจาก Covid-19

ประธานสมาคมธุรกิจญี่ปุ่นแห่งกัมพูชา (JBAC) กล่าวว่าธุรกิจของญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจกรรมในกัมพูชาประมาณ 87 แห่ง กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ได้ขอความช่วยเหลือและความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่าผลกระทบของ COVID-19 ส่งผลกระทบทั่วโลกไม่จำกัดเฉพาะประเทศกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ออกมาตรการและนโยบายอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ต่อด้านธุรกิจและสภาพแวดล้อมการลงทุนในประเทศกัมพูชา ซึ่งประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (PPSEZ) กล่าวว่าในการเปิดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ว่าการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งทั้งในแง่ของผลกำไรและรายได้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยกล่าวว่าปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทาย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739617/nearly-90-japanese-firms-in-the-kingdom-hit-by-virus/

สหรัฐฯมอบเงินสนับสนุน 56 ล้านดอลลาร์แก่กัมพูชา

รัฐบาลสหรัฐฯได้มอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2563 จำนวน 56 ล้านดอลลาร์ รวมถึงเพื่อส่งเสริมภาคเกษตรกรรมในกัมพูชาอีก 18 ล้านดอลลาร์ ตามแถลงการณ์รัฐบาลกัมพูชาผ่านสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) และรัฐบาลสหรัฐฯผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) ได้ลงนามในข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อจัดหาโครงการด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม โดยรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชากล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือ ซึ่งความร่วมมือด้านการพัฒนาทวิภาคีอย่างต่อเนื่องนี้เป็นเสาหลักที่สำคัญในการส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ โดยในความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง USAID จะให้ทุนแก่โครงการต่างๆเพื่อช่วยลดจำนวนคนยากไร้ และเพิ่มการผลิตพืชผลที่สำคัญและปรับปรุงโภชนาการให้กับชุมชนในชนบท ซึ่งในภาคการศึกษากระทรวงศึกษาธิการเยาวชนและการกีฬาและโปรแกรม USAID จะสนับสนุนความพยายามในการปรับปรุงความเข้าใจในการอ่านในหมู่เด็กๆ เพื่อลดอัตราการออกกลางคันและจัดหาชาวกัมพูชาให้เข้ามาทำงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738964/us-gives-56-mln-to-support-kingdom/

การเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษในกัมพูชากำลังเผชิญกับอุปสรรค

ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (PPSEZ) แถลงในการเปิดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับปี 2562 การเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งทั้งในแง่ของกำไรและรายได้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับบริษัท จากผลกระทบของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกบริษัททั่วโลก ซึ่งคาดว่าหลังจากการระบาดของ COVID-19 รวมถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนสายการผลิตย้ายมายังกัมพูชาเร็วขึ้น รายงานแสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกจาก PPSEZ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.9 ในช่วง 4 ปีจากปี 2016 – 2019 รวม 316 ล้านดอลลาร์สู่ 518 ล้านดอลลาร์ บริษัท ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 สินทรัพย์รวมของ PPSP มากกว่า 94 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.14 ในขณะที่ส่วนทุนมีมากกว่า 59 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.60 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50739183/after-massive-growth-special-economic-zone-will-face-hurdles/

การเปลี่ยนแปลงของกัมพูชาจากความไม่มั่นคงด้านอาหารสู่ประเทศผู้ส่งออกข้าว

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ากัมพูชากำลังส่งเสริมภาคเกษตรกรรมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการส่งออกข้าว ซึ่งนายกฯย้ำว่ากัมพูชาจะไม่ประสบกับความไม่มั่นคงด้านอาหารเหมือนในอดีตอีกต่อไป คำแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “โครงการเยียวยาสำหรับครอบครัวผู้ยากจนและผู้ด้อยโอกาสในช่วง Covid-19″ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 โดยจุดแข็งของกัมพูชาคือมีผลผลิตส่วนเกินถึง 6 ล้านตัน ซึ่งกัมพูชาส่งออกข้าวหลัก ๆ สามประเภท ได้แก่ ข้าวหอม ข้าวขาวและข้าวสวยไปยังจีน สหภาพยุโรป และ อาเซียน ตามรายงานของสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) โดยกัมพูชามีรายได้มากกว่า 240 ล้านดอลลาร์จากการส่งออกข้าวในช่วง 5 เดือนแรกในปี 2563 ซึ่งส่งออกข้าว 356,000 ตัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีการส่งออกเพียง 250,000 ตัน โดยตัวเลขการส่งออกในปี 2563 ถือเป็นการเติบโตที่สำคัญที่สุดในกัมพูชาซึ่งเป็นปริมาณการส่งออกที่สูงที่สุด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738817/cambodias-transformation-from-a-food-insecurity-to-a-rice-exporting-nation/