พนมเปญเมกามอลล์พร้อมเปิดตัวในปี 2565

ผู้บริหารระดับสูงของ Chip Mong Retail กล่าวว่าการก่อสร้าง Chip Mong 271 Mega Mall เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 20 และพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าภายในปี 2565 โดยมีขนาดพื้นที่กว่า 150,000 ตารางเมตร 5 ชั้น มีที่จอดรถ 2,000 คันและมอเตอร์ไซค์ 500 คัน รวมมูลค่ากว่า 130 ล้านดอลลาร์ในการก่อสร้างบนที่ดินมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ ในใจกลางกรุงพนมเปญ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ภายในพื้นที่พัฒนา Chip Land ของ Landmark 271 เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศกัมพูชา โดยเชื่อว่าโครงการก่อสร้างนี้จะช่วยให้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางตอนใต้ของกรุงพนมเปญไปสู่เขตการค้าที่ทันสมัยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลเพื่อเพิ่มเมืองสีเขียวและศูนย์กลางการค้า ซึ่งกรรมการผู้จัดการของ DBD Engineering Co Ltd. กล่าวว่าการลงนามใน MoU กับ Chip Mong เพื่อดำเนินการพัฒนาและติดตั้งระบบไฟฟ้าแสดงให้เห็นถึงการดำเนินการที่เหมาะสมของโครงการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731799/mega-mall-20-percent-complete/

กัมพูชาเพิ่มแรงกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวในประเทศ

กระทรวงการท่องเที่ยวและสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชา (CATA) ได้กระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดใหญ่ ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเมษายน 2563 ซึ่งกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.16 ล้านคน ซึ่งลดลงมากกว่าร้อยละ 52 ตามตัวเลขจากกระทรวงการท่องเที่ยว โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงร้อยละ 70 และนักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงร้อยละ 50 ขาดทุนราว 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจอื่นๆ ในภาคบริการด้วย ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวแผนกขนส่งและการท่องเที่ยวกล่าวว่ากระทรวงกำลังให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในช่วงวิกฤต ด้วยการจัดแพคเกจทัวร์ รวมถึงการเดินทาง, ร้านอาหาร, โรงแรม, มัคคุเทศก์และอื่นๆ ในราคาที่สมเหตุสมผล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731378/boost-urged-for-tourism/

ไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชาอนุมัติสินเชื่อ 817 ล้านดอลลาร์ เพื่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

สมาคมไมโครไฟแนนซ์ของกัมพูชา (MFIs) อนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่าเกือบ 817 ล้านดอลลาร์สำหรับลูกค้ามากกว่า 180,000 ราย จากจำนวนลูกค้าเกือบ 200,000 ราย ที่ร้องขอความช่วยเหลือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมตามรายงานของไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา (CMA) โดยโฆษกของ CMA กล่าวว่าในปัจจุบันมีเพียง 4 ภาคธุรกิจที่ได้รับอนุมัติให้ปรับโครงสร้างสินเชื่อ รวมถึงการท่องเที่ยว, การก่อสร้าง, การขนส่งและอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งสมาคมกำลังพิจารณาเพิ่มการเกษตรเป็นภาคที่ห้าในการปล่อยสินเชื่อ โดยธนาคารแห่งชาติของกัมพูชา (NBC) ออกคำสั่งในเดือนมีนาคมให้กับทุกธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างการชำระคืนเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและลดภาระของลูกหนี้ที่ต้องเผชิญกับรายได้ลดลงอันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งขอให้สถาบันการเงินลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับเครดิตและยกเลิกค่าปรับจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731293/microfinance-817-million-of-loans-approved-for-restructure/

กัมพูชาส่งออกสินค้าทางการเกษตรกว่า 1.4 ล้านตัน ในช่วง 5 เดือนแรก

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตร(ไม่รวมข้าว) จำนวน 1.4 ล้านตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้แม้จะเกิดวิกฤตการณ์ COVID-19 ทั่วโลก โดยรายงานจากกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงแสดงให้เห็นว่าสินค้าเกษตรที่ไม่ใช่ข้าว ได้แก่ มันสำปะหลัง, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ข้าวโพด, กล้วย, มะม่วงและอื่นๆ คิดเป็นมันสำปะหลัง 996,290 ตัน ซึ่งส่งออกจากเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพิ่มขึ้นกว่า 25% คิดเป็น 190,141 ตัน ในขณะที่กล้วยมีปริมาณการส่งออก 121,415 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 172% โดยรายงานยังระบุด้วยว่าการส่งออกมะม่วงสดและพริกไทยเพิ่มขึ้น 50% และ 22.6% คิดเป็น 44,099 ตัน และ 2,527 ตัน ตามลำดับส่วนการส่งออกแป้งมันสำปะหลังและข้าวโพดลดลงอย่างมากโดยลดลง 97% และ 29% คิดเป็น 10,272 ตัน และ 35,636 ตัน ตามลำดับ ในขณะเดียวกันข้าวถูกส่งออกไปกว่า 356,097 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 42% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

ที่มา :https://www.khmertimeskh.com/50730202/cambodia-exports-1-4-million-tonnes-of-agricultural-products-in-first-five-months/

รัฐบาลกัมพูชาเร่งพัฒนาเขตการท่องเที่ยวใหม่

รัฐบาลกำลังเร่งจัดทำแผนการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวสำหรับประเทศ ทางด้านตะวันตก, ตะวันตกเฉียงเหนือ และรอบๆ แม่น้ำโตนเลสาบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวระบุ โดยกระทรวงกล่าวว่าการอภิปรายเกี่ยวกับหนังสือแผนที่ด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค จะช่วยเสริมสร้างขยายความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดทางตะวันตก, ตะวันตกเฉียงเหนือและบริเวณโตนเลสาบเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวตามที่กระทรวงระบุ ซึ่งประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชาให้การต้อนรับแผนดังกล่าวโดยกล่าวว่าภูมิภาคนี้จะมีศักยภาพที่ดีสำหรับการลงทุนด้านการท่องเที่ยว โดยสิ่งสำคัญคือการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมธรรมชาติทางประวัติศาสตร์และป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.61 ล้านคน ในปี 2562 ข้อมูลแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวท้องถิ่นมีจำนวน 11.3 ล้านคน ขณะที่ชาวกัมพูชาเดินทางออกนอกประเทศจำนวน 2.04 ล้านคน ตามตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50730097/government-to-boost-new-tourism-development-zones/

ภาคการก่อสร้างในกัมพูชาเริ่มซบเซา

การไหลเข้าของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของกัมพูชา (FDI) ลดลงอย่างมากในช่วง 2 เดือนแรกของปี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการลดลงของการลงทุนสำหรับภาคการก่อสร้างและการท่องเที่ยวตามรายงานของธนาคารโลก โดยรายงานระบุว่ามูลค่า FDI ที่ได้รับอนุมัติทั้งหมดของกัมพูชาลดลงร้อยละ 52.2 ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2020 อันเป็นผลมาจากการระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก ซึ่งการระบาดในครั้งนี้ได้ทำลายเศรษฐกิจระหว่างประเทศส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติลดการลงทุนลงอย่างมาก โดยกัมพูชาได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 40% จากจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังภาคการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามตามสมาคมก่อสร้างกัมพูชา (CCA) กล่าวว่ามูลค่าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจริงเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 เนื่องจากการลงทุนจากแหล่งในท้องถิ่น ตามรายงานของธนาคารโลก ซึ่งโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของกัมพูชาที่อนุมัติแล้วมีมูลค่าประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์ โดยธนาคารแห่งชาติของกัมพูชาคาดการณ์ว่า FDI ในกัมพูชาจะเพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้ อยู่ที่ 3.95 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50729648/sluggish-construction-sector-causes-sharp-fdi-contraction/

“Thailand Plus One” กลยุทธ์การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปต

เขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปต เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ มีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องกลและยานยนต์ ซึ่งโซนนี้จะใช้ประโยชน์จากบริเวณใกล้เคียงกับชายแดนไทยและการเข้าถึงทางหลวงสายเอเชียที่กำลังพัฒนา โดยจะเชื่อมโยงศูนย์กลางอุตสาหกรรมในอนาคตกับจุดแจกจ่ายหลัก ซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปตกำลังพัฒนาพื้นที่ราว 65.7 เฮกตาร์ และติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานมาตรฐานสากล เช่นสายไฟฟ้าของตัวเอง (ร่วมทุนกับ B. Grimm Power ในประเทศไทย), โรงบำบัดน้ำเสีย, บริการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงและบริการอื่น ๆ เพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้ผลิตที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุน จากรายงานของธนาคารโลกระบุว่ายอดส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 77.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 39.4 ล้านดอลลาร์ในปี 2561 จากรายงานของธนาคารโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50729641/thailand-plus-one-poipet-sez-investment-strategy/