‘รัสเซีย’ ตั้งเป้าฟาร์มแปรรูปเนื้อสุกร 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนาม

คณะกรรมการประชาชนจังหวัดทัญฮว้า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ AVG Capital Partners เพื่อสร้างฟาร์มแปรรูปเนื้อสุกรในเขตเศรษฐกิจ ‘Nghi Son’ ด้วยมูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในจังหวัดทัญฮว้า รวมถึงฟาร์มเลี้ยงสุกร 5 ล้านตัวต่อปี ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงสุกรเชิงพาณิชย์ 43 แห่ง และฟาร์มเลี้ยงสุกรลูกผสม 3 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ด้วยกำลังการผลิต 2 ล้านตันต่อปี ประกอบกับโรงฆ่าสัตว์และโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยตัวแทนของบริษัท AVG ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างประโยชน์แก่ท้องถิ่น เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ งบประมาณ การสร้างงาน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารตามหลักมาตรฐานสากล

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/russian-firm-plans-to-build-us-14-billion-pork-processing-complex-in-vietnam-27671.html

นักลงทุนไทยเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในเวียดนาม

สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยร่วมกับสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม และบริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวโอกาสทางการลงทุน เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 45 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและเวียดนาม นายฟัน จิ้ ทัน เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ได้บรรยายถึงความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามและการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามครั้งที่ 13 โดยคาดว่าจะส่งผลให้เวียดนามก้าวเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ด้วยรายได้ปานกลางระดับสูงในปี 2573 และเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2588 ทั้งนี้ ธุรกิจไทยทุ่มเงินกว่า 12.84 พันล้านเหรียญสหรัฐไปยัง 600 โครงการในเวียดนาม จำแนกออกเป็นด้านต่างๆ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน, นิคมอุตสาหกรรม, เทคโนโลยีขั้นสูง, พลังงานและเกษตรกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ นายสนั่น  อังอุบลกุล  ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม กล่าวว่ามีความสนใจอย่างมากในการลงทุนไปเวียดนาม เนื่องมาจากความมีเสียรภาพทางการเมือง การประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 แรงงานจำนวนมาก กำลังซื้อสูงและสภาพแวดล้อมการลงทุน

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/thai-investors-keen-on-future-business-opportunities-in-vietnam-833370.vov

Global Times เผยเวียดนาม ดาวรุ่งในเอเชียตะวันออกเฉีนงใต้

ตามรายงาน “Asia Economics Quarterly” ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย ปี 2563 และจะทะยานเป็นขึ้นเบอร์หนึ่งในภูมิภาคในปีนี้ เวียดนามได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวอย่างในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.91% ในปี 2563 อีกทั้ง เศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ดีในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาและสามารถก้าวข้ามวิกฤตทางการเงินในเอเชีย รวมถึงวิกฤตการเงินโลก ด้วยเหตุนี้ เวียดนามพร้อมที่จะก้าวไปสู่ประเทศรายได้ปานกลาง ทั้งนี้ เวียดนามได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน การส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ พุ่ง 24.5% ในปี 2563 ด้วยมูลค่าการส่งออก 76.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เวียดนามเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้ามาเป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี แตะระดับสูงสุด 19.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ประกอบกับอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ การลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีกับกลุ่มเศรษฐกิจสำคัญของโลก โดยในปี 2563 เวียดนามได้ลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP), ข้อตกลงการค้าสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) และข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอังกฤษ (UKVFTA) เพื่อขยายตลาดส่งออก

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/global-times-vietnam-a-rising-star-in-southeast-asia-27640.html

เวียดนามนำเข้ารถยนต์ 2.35 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 63

ตามรายงานของสำนักงานศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในปี 2563 เวียดนามนำเข้ารถยนต์ 105,000 คัน เป็นมูลค่า 2.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในแง่ของปริมาณ ลดลง 24.5% และในแง่ของมูลค่า ลดลง 25.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งในเดือนธันวาคม ปริมาณการนำเข้ารถยนต์อยู่ที่ 12,690 คัน เป็นมูลค่า 308 ล้านเหรียญสหรัฐ ในแง่ของปริมาณและมูลค่า เพิ่มขึ้น 3.7% และ 12.8% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ตามลำดับ ทั้งนี้ ปริมาณการนำเข้าส่วนใหญ่ราว 88% ในเดือนสุดท้ายของปี มาจากประเทศไทย (7,696 คัน) ตามมาด้วยอินโดนีเซีย (2,353 คัน) และจีน (1,158 คัน) นอกจากนี้ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) ระบุว่ายอดขายรถยนต์ในเวียดนามพุ่งขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ในเดือนสุดท้ายของปี และลูกค้ารีบซื้อรถยนต์ก่อนที่นโยบายภาครัฐฯ จะปรับลดค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ 50% โดยจะหมดอายุภายในสิ้นปี อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่าในปีนี้ จะเป็นปีที่ลำบากอีกครั้ง สำหรับตลาดรถยนต์เวียดนาม สาเหตุจากผู้ประกอบการต่างๆ เลือกที่จะควบคุมการใช้จ่ายมากขึ้น

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-spends-us235-billion-to-import-cars-in-2020-316043.html

“โควิด-19” ไม่สะเทือนเวียดนามรัฐ-เอกชนมองเศรษฐกิจยังโตต่อเนื่อง

นายฟัน จิ้ ทัน เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 64 ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี  โดยองค์กรการเงินระหว่างประเทศ อาทิ ธนาคารโลก (World Bank) ,กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ “ไอเอ็มเอฟ” (International Monetary Fund : IMF) และธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ “เอดีบี” (Asian Development Bank : ADB) คาดการณ์ไว้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ “จีดีพี” (GDP) จะเติบโตอยู่ที่ 6.5-7.0% ทั้งนี้ เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ได้ตั้งแต่ช่วงแรก ส่งผลทำให้แม้ว่าปี 63 เศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่มี GDP เติบโตถึง 2.91 % ในปี 63 โดยอัตราการเติบโตของ GDP เวียดนามในช่วงปี 2559-2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ในอีก 5 ปี (2564-2568) ข้างหน้ารัฐบาลเวียดนามได้วางแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 10 ปี การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจฉบับใหม่ปี 2564-2573 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาแห่งชาติเวียดนามที่คาดว่าจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์แบบทวิภาคีกับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยที่สามารถนำไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับนักลงทุนไทยที่จะเข้ามาในประเทศเวียดนามมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า

ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/466134

อึคอมเมิร์ซเวียดนาม โต 18% ในปี 63

จากข้อมูลของกรมการค้าออนไลน์และเทคโนโลยีสารสนเทศของเวียดนาม เปิดเผยว่าเมื่อปีที่แล้ว การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกลำบาก รวมถึงกิจกรรมของการผลิตและธุรกิจเกิดหยุดชะงักลง อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอึคอมเมิร์ซเวียดนาม สูงถึง 18% ด้วยมูลค่าอยู่ที่ 11.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุดังกล่าวมาจากเวียดนามเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเติบโตของอีคอมเมิร์ซเป็นตัวเลข 2 หลัก ทั้งนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Temasek และ Bain & Company คาดการณ์ว่าจะเติบโต 29% ในช่วงปี 2563-2568 โดยขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามอาจสูงกว่า 52 พันล้านเหรียญสหรัฐ และติดอันดับที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียนในปี 2568

  ที่มา : https://sggpnews.org.vn/business/ecommerce-growth-of-vietnam-achieves-18-percent-in-2020-90400.html

เวียดนามเผยความต้องการนำเข้าอาหารทะเลที่หรูหราพุ่งสูงขึ้น

เวียดนามนำเข้าอาหารทะเลที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น อาทิ ปูยักษ์ และกุ้งล็อบสเตอร์ เป็นต้น เนื่องมาจากราคาที่ปรับตัวลดลงและคาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองตรุษญวณ (Tết) ทางรองกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่าในปีที่แล้ว การส่งออกอาหารทะเลจากอลาสก้าเพิ่มขึ้น 125% คิดเป็นมูลค่า 19 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารทะเลของสหรัฐอเมริกา อันดับที่ 6 ของโลก ด้วยมูลค่าการนำเข้า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของสถาบันการตลาดอาหารทะเลอลาสก้าในเวียดนาม ระบุว่าความต้องการอาหารทะเลในเวียดนามพุ่งสูงขึ้น และโรงงานแปรรูปหลายแห่งกำลังย้ายออกจากจีนไปยังเวียดนาม สาเหตุมาจากเรื่องภาษีศุลกากร นอกจากนี้ ในช่วงเทศกลาลตรุษญวณ มีความต้องการปูอลาสก้ามากขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องจากทำอาหารได้ง่ายและเหมาะสำหรับโอกาสพิเศษ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/860872/demand-for-imported-luxury-seafood-rises.html