กัมพูชาจับตาจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชากำลังพิจารณาสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ โดยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ในระหว่างการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “โครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดพระสีหนุ 2024” ในจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเน้นย้ำถึววิสัยทัศน์ของรัฐบาลสำหรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคต เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่หลากหลายในระยะต่อไป และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและดำเนินโครงการนำร่องภายในเขตเศรษฐกิจอย่างจริงจัง โดยเน้นไปที่การดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีสีเขียว อุตสาหกรรมที่ยั่งยืน และภาคดิจิทัล เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501432763/cambodia-eyes-establishing-special-economic-zone-by-countries-says-pm/

ธนาคารกรุงเทพ วางยุทธศาสตร์สาขาฮ่องกง สู่เกตเวย์ ‘จีน-อาเซียน’

ธนาคารกรุงเทพ วางยุทธศาสตร์ ‘เกตเวย์ จีน-อาเซียน’ ดันสาขาฮ่องกงเป็นหัวหอก เปิดประตูการค้าเอเชียตะวันออก ปูทางสู่โอกาสลงทุนเขตเศรษฐกิจ GBA มั่นใจจุดแข็งประสบการณ์เกือบ 70 ปีในฮ่องกง แถมเครือข่ายสาขาครอบคลุมภูมิภาคอย่างแข็งแกร่ง ขานรับโอกาสจังหวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ขณะเดียวกันพร้อมเปิดต้อนรับเงินทุนจีนไหลเข้าไทย ชี้กลุ่มยานยนต์ EV-ทุนใหญ่ กำลังคึกคัก ชูธง ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ พร้อมพาลูกค้าลุยตลาดอาเซียน เป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1374506

เอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว เข้าเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน

เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน (Savan Park) และ Savannakhet Dry Port ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทย นำโดยเอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ ในการเข้าเยือนพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย และสปป.ลาว โดยปัจจุบันภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษมีบริษัทเข้าลงทุนทั้งหมด 78 บริษัท ซึ่งเขตเศรษฐกิจดังกล่าวมีประสิทธิภาพและข้อได้เปรียบในหลายๆด้าน โดยเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์ที่มีท่าเรือบกภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งในปี 2022 การค้าผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ แบ่งเป็นมูลค่าการนำเข้ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการส่งออกที่มีมูลค่า 207 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานล่าสุดของท่าเรือบก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten65_Thai_y23.php

“เวียดนาม” ตั้งเป้าจำนวนธุรกิจ 1.5 ล้านแห่งในปี 2568

รัฐบาลต้องการให้ภาคเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการพัฒนาประเทศ โดยตั้งเป้าว่ามีจำนวนธุรกิจ 1.5 ล้านแห่งในปี 2568 และกว่าครึ่งหนึ่งของกิจการในประเทศเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนามได้นำนโยบายในการส่งเสริมการดำเนินกิจการของธุรกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการวางโครงสร้างพื้นฐาน เขตเศรษฐกิจและเขตอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ มูลค่าของภาคเอกชน คาดว่ามีสัดส่วน 55% ของ GDP ในปี 2568 และปรับตัวสูงขึ้น 60-65% ในปี 2573 อย่างไรก็ดี ธุรกิจส่วนใหญ่ 95%  หรือประมาณ 1 ล้านแห่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs)

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-plans-to-have-15-million-businesses-in-2025-post1011250.vov

“บริษัทเทคจีนยักษ์ใหญ่” วางแผนลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม

บริษัทสัญชาติจีน “ซันนี ออปติคอล เทคโนโลยี กรุ๊ป” (Sunny Optical Technology Group) วางแผนที่จะลงทุนในเขตเศรษฐกิจเบน บิ่ญ จังหวัดท้ายเงวียน (Thai Nguyen) เป็นเงินทุนประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมพื้นที่ 26-40 เฮกตาร์ โดยการก่อสร้างโรงงานในเขตเศรษฐกิจแห่งนี้จะใช้ระยะเวลา 5 ปี หลังจากได้รับใบอนุญาตการลงทุนจากหน่วยงานท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน โรงงานใหม่แห่งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการจัดหาวัสดุการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ นอกจากนี้ ในปัจจุบัน จังหวัดท้ายเงวียน (Thai Nguyen) ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุด “ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์” ในเวียดนาม

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/business/chinas-sunny-optical-technology-plans-us25-billion-investment-vietnam-3334711

“อีอีซี” จัดทำงบตามแผนบูรณาการปี 67 เสนอ 100 โครงการพัฒนาตามแนวทาง BCG ด้วย 5 แนวทาง

นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการฯ รักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 คณะที่ 5.1 ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงานเป็นประธานว่า สกพอ.และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะเจ้าภาพรองแผนงานบูรณาการอีอีซี ร่วมกับหน่วยงาน 17 กระทรวง 42 หน่วยงาน จัดทำโครงการ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่อีอีซีทุกมิติ ผ่านการมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง BCG จำนวน 100 โครงการ ด้วย 5 แนวทางสำคัญได้แก่ 1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และระบบดิจิทัล 2.การพัฒนาบุคลากร การศึกษา วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม 3.ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ทันสมัย และมีมาตรฐาน 4.การพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ให้เกิดการพัฒนาทัดเทียมนานาชาติ และ 5.การส่งเสริมการลงทุนด้านเศรษฐกิจ BCG ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพและสร้างการรับรู้สู่ประชาชน ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายผลักดันให้เกิดการลงทุนจากภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่อีอีซี และพื้นที่ที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี เกิดอัตราการขยายตัวของ GDP ในพื้นที่อีอีซี เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 ส่งผลสัมฤทธิ์ให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 40,000 คน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและสร้างความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/418049

“เวียดนาม” ได้รับโอกาสทอง เปิดรับเม็ดเงินทุนจากต่างชาติระลอกใหม่

นาย Tran Quoc Phuong รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน กล่าวว่าเวียดนามมี “โอกาสทอง” ที่จะดึงดูดคลื่นระลอกใหม่ของการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจ (EZs) และนิคมอุตสาหกรรม (IPs) โดยเมื่อพิจารณาจากข้อมูลจะพบว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ประจำปี จะไหลเข้าไปยังเขตเศรษฐกิจและนิคมอุตสาหกรรม มีสัดส่วนราว 35%-40% ของเงินทุนจากต่างประเทศทั้งหมด ทั้งนี้ กระทรวงฯ เปิดเผยว่าในปัจจุบันเวียดนามมีโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม 403 โครงการ และเขตเศรษฐกิจตามชายแดน 18 โครงการ และเขตเศรษฐกิจตามชายแดน 26 โครงการ ซึ่งทำให้เวียดนามกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสามารถรองรับกับองค์กรต่างชาติขนาดใหญ่ เช่น Samsung, Canon, LG, Sumitomo และ Foxconn  เป็นต้น

อีกทั้ง ผู้เชี่ยวชาญได้ให้อธิบายไว้ว่าทำไมเวียดนามจึงมองว่าโอกาสในครั้งนี้ถือเป็นการดึงดูดการลงทุนครั้งใหม่ นอกเหนือจากสามารถรักษาเสถียรภาพทางการเมืองแล้ว ประกอบกับเศรษฐกิจอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากการระบาดของโควิด-19 โดยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคและการควบคุมเงินเฟ้อ

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnam-has-golden-chance-to-welcome-new-fdi-wave-post118468.html

พระพุทธรูปถูกติดตั้งในเขตเศรษฐกิจเฉพาะบึงธาตุหลวงส่งเสริมการท่องเที่ยว

พระพุทธรูปสูง 100 เมตรจะถูกติดตั้งในเขตเศรษฐกิจเฉพาะบึงธาตุหลวงโดยนักพัฒนาชาวจีนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ นายกรัฐบมนตรีสปป.ลาวกล่าวว่า “มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นในสปป.ลาว ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยช่วยปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพ สร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับประชาชนสปป.ลาว ทั้งนี้การสร้างพระพุทธรูปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยววัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และประเพณีของสปป.ลาวให้กลับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสปป.ลาว” ทั้งนี้รัฐบาลเชื่อว่าโครงการมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างโอกาสในการทำงานให้กับคนในท้องถิ่น เมื่อเสร็จสิ้น โครงการสัมปทาน 99 ปีจะครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่อาศัย สวนสาธารณะ และพื้นที่สีเขียว ทะเลสาบ โรงพยาบาล ศูนย์การศึกษา ร้านอาหาร ศูนย์กีฬา และศูนย์การค้า

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Economic_173.php

เวียดนามเผยพร้อมจัดตั้งเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรม แต่ต้องดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น

ตามข้อมูลของ CBRE ระบุว่าภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนที่จะเกิดการระบาดของเชื้อไวรัส เนื่องจากเวียดนามกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางของการย้ายฐานการผลิตจากกประเทศจีน บริษัทเวียดนาม เผยว่าอสังหาริมทรัพย์จะก้าวขึ้นเป็น “กระดูกสันหลัง” ของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมประเทศ ทั้งนี้ รายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) ณ เดือนพ.ค. 64 เวียดนามมีนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 394 แห่ง แบ่งออกเป็นสวนอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการอยู่ 286 แห่ง ด้วยอัตราการเช่า 71.8% และสร้างงาน 3.78 ล้านตำแหน่ง นอกจากนี้  ดร.ตรัน ดินห์ เตียน อดีตผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจของเวียดนาม กล่าวว่าท้องถิ่นได้โอกาสอันสำคัญ และเวียดนามจะเป็นแหล่งดึงดูกการลงทุนชั้นนำของโลก จากความได้เปรียบของข้อตกลงการค้าเสรี อีกทั้ง นักพัฒนาเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ไม่ควรร้อนใจเกินไป เนื่องจากสิ่งสำคัญในตอนนี้ คือ การหานักลงทุนเข้ามาผลักดันนิคมอุตสาหกรรม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/ips-set-up-but-vietnam-still-needs-to-do-more-to-attract-investors/202515.vnp

‘รัสเซีย’ ตั้งเป้าฟาร์มแปรรูปเนื้อสุกร 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนาม

คณะกรรมการประชาชนจังหวัดทัญฮว้า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ AVG Capital Partners เพื่อสร้างฟาร์มแปรรูปเนื้อสุกรในเขตเศรษฐกิจ ‘Nghi Son’ ด้วยมูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในจังหวัดทัญฮว้า รวมถึงฟาร์มเลี้ยงสุกร 5 ล้านตัวต่อปี ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงสุกรเชิงพาณิชย์ 43 แห่ง และฟาร์มเลี้ยงสุกรลูกผสม 3 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ด้วยกำลังการผลิต 2 ล้านตันต่อปี ประกอบกับโรงฆ่าสัตว์และโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยตัวแทนของบริษัท AVG ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างประโยชน์แก่ท้องถิ่น เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ งบประมาณ การสร้างงาน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารตามหลักมาตรฐานสากล

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/russian-firm-plans-to-build-us-14-billion-pork-processing-complex-in-vietnam-27671.html