ททท.คาดปีใหม่เงินสะพัดท่องเที่ยวแค่หมื่นล.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2564 คาดว่าหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนักท่องเที่ยวเกิดความหวั่นวิตกกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งนี้ ททท.ประเมินว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวปีใหม่ 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.63 – 3 ม.ค. 64 คาดว่า จะมีคนไทยเดินทางภายในประเทศ 2.75 ล้านคน-ครั้ง และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่มากว่า 10,742 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 37% ซึ่งลดลงจากปีก่อนมาก เพราะปีที่ผ่านมามีวันหยุดยาวถึง 5 วัน และมีการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เพราะเป็นช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสร้างรายได้หมุนเวียนมากถึง 23,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเกิดล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร แต่ก็ยังไม่นำไปสู่การล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง ดังนั้น บางพื้นที่จึงยังจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 64 ที่ ททท. เป็นผู้จัด หรือร่วมสนับสนุนการจัดงานใน 4 พื้นที่ทั้งเมืองหลักและเมืองรองตามภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ ราชบุรี และร้อยเอ็ด แต่การจัดงานได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ยกระดับความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมโรค คาดว่ามีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณ 4.71 แสนคน-ครั้ง และมีรายได้หมุนเวียน 1,800 ล้านบาท

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/814874

กัมพูชาร่วมระดมสมองแก้ปัญหาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งกัมพูชาเองก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นเดียวกัน โดยรัฐบาลได้ริเริ่มโครงการต่างๆเพื่อตอบสนองต่อผลกระทบที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันไปบ้างแล้ว ล่าสุดได้จัดการประชุมทางวิดีโอทั้ง 4 ภูมิภาคภายในประเทศกัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งรัฐบาลเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบมาแล้วหลายประการ อาทิ เช่น การยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียม ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้สินธนาคาร สำหรับคนที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดมากที่สุดรัฐบาลได้จัดโปรแกรมการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะให้กับแรงงานได้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชา (CATA) กล่าวว่าการชะลอตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะส่งผลให้มีคนตกงานในภาคการท่องเที่ยวถึง 60,000 ตำแหน่งในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50795857/think-tank-addresses-tourism-industry-impacts/

สปป.ลาวสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากขึ้น

สปป.ลาวจำเป็นต้องพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมให้มากขึ้นพื่อพัฒนาให้กลายแหล่งศึกษาสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและป่าได้มีการส่งเสริมให้มีการผลิตกาแฟคุณภาพของสหกรณ์ผู้ผลิตกาแฟ Bolaven Plateau ในแขวงจำปาสัก กิจกรรมการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรจะช่วยสร้างรายได้แก่ชุมชนได้อย่างมหาศาล ในช่วงเวลาของการระบาดของ COVID -19 ในหลายประเทศทั่วโลกทำให้สปป.ลาวสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงเกิดการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวภายในประเทศเกิดขึ้น เป็นโอกาสสำหรับนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่จะช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศและทดแทนรายได้ที่สูญเสียไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ การส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับเกษตรกรรมยังมุ่งปรับปรุงมาตรฐานของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมทั้งดึงดูดการลงทุนในการพัฒนาการท่องเที่ยวมากขึ้น สปป.ลาวยังคงมองการท่องเที่ยวเชิงเกษตรไม่ใช่การลงทุน แต่การพัฒนาในภาคเกษตรกรรมการส่งเสริมดังกล่าวจึงทำให้สปป.ลาวได้รับประโยชน์ท้ะงในด้านการได้พัฒนาการท่องเที่ยวในขณะเดียวกันภาคเกษตรกรรมก็เติบโตควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวอีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos246.php

การลดหย่อนภาษีของรัฐบาลสปป.ลาวมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการลงทุนในแขวงไชยสมบูรณ์

รัฐบาลสปป.ลาวได้ออกนโยบายลดหย่อนภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้นในแขวงไชยสมบูรณ์นายอุ่นดวง ขาวพันธุ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการที่ริเริ่มนี้ เพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจในแขวงไชยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายนี้ธุรกิจที่ลงทุนในการพัฒนาการท่องเที่ยวและโรงแรมจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีกำไรเป็นระยะเวลาห้าปีและหากพวกเขาเพิ่มการลงทุนในการท่องเที่ยวมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนเงินที่ลงทุนเดิมพวกเขาจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีกำไรอีกสองปี นอกจากนี้นักลงทุนจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสัมปทานที่ดินและจำนวนเงินที่พวกเขาใช้จ่ายในการฝึกอบรมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยสามารถนำมาหักออกจากใบเรียกเก็บภาษีโดยรวมของพวกเขาได้ การส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวรัฐบาลมีความต้องการเพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวซึ่งแขวงไชยบูรณ์ถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่สำหรับการพัฒนาเพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจและความพยายามในการลดความยากจนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_244.php

การท่องเที่ยวภายในประเทศถือเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของกัมพูชา

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจกัมพูชา โดยรายงานขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่ามีการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาภายในประเทศมีมากถึง 11.2 ล้านคน ในกัมพูชา ถือเป็นเกือบสองเท่าของจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่มีการลงทะเบียนที่ 6.2 ล้านคน ในปีที่แล้ว และในขณะที่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศลดลงอย่างรวดเร็วทั่วโลกผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างมองหาโอกาสจากการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นในการมีส่วนช่วยฟื้นตัวของภาคส่วนในระยะถัดไป ทั้งองค์การการท่องเที่ยวเพื่อสังคมระหว่างประเทศ (ISTO) กล่าวว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นทางออกที่แท้จริง สำหรับภาคส่วนนี้เนื่องจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียวนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าและการท่องเที่ยวในประเทศให้ประโยชน์เป็นวงกว้างมากกว่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50793199/domestic-tourism-is-key-to-sector-recovery-experts/

เศรษฐกิจปีหน้าจะโต 4% ต้องทำอะไรอีกมาก

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2564 จะออกมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และทำให้หลายฝ่ายประเมินว่าเศรษฐกิจไทยพ้นจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ติดลบ 12.1% แล้วก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่เดือนแรกของไตรมาส 4 ปี 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่าเศรษฐกิจไทยช่วงเวลาดังกล่าวยังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชน ยกเว้นการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวสูงขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวระหว่าง 3.5-4.5% มีค่ากลางอยู่ที่ 4.0% โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่าจะไม่เกิดการระบาดวงกว้างรอบ 2 จนถึงระดับที่จะต้องประกาศล็อกดาวน์อีกหรือไม่ แน่นอนว่าถ้าถึงระดับดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2564 อย่างแน่นอน นอกจากนี้ การส่งออกที่มีน้ำหนักต่อเศรษฐกิจไทยสูงก็ยังต้องขึ้นกับการฟื้นตัวของการค้าโลกในปี 2564 ด้วย ซึ่งต้องส่งเสริมการส่งออกสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศและกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญ ในขณะที่การท่องเที่ยวและธุรกิจบริการในระยะยาวอาจต้องลดการพึ่งพาจำนวนนักท่องเที่ยวและเปลี่ยนมาพึ่งการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/911383

โควิด-19 กระทบภาคการท่องเที่ยวเวียดนามรุนแรง

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเวียดนามในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ประมาณ 3.8 ล้านคน ลดลงร้อยละ 76.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องมาจากเวียดนามระงับการเข้ามาของชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ประกอบไปด้วยนักลงทุนต่างชาติ ผู้เชี่ยวชาญ แรงงานที่มีทักษะสูง ผู้จัดการธุรกิจและครอบครัวของผู้โดยสารดังกล่าวที่ได้รับอนุญาตเข้ามายังประเทศ นับตั้งแต่ปิดพรมแดนในเดือนมีนาคม ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 17,700 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม และลดลงร้อยละ 99 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาภูมิภาคของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 73.3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม ด้วยจำนวนราว 2.8 ล้านคน ลดลงร้อยละ 78.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมายุโรป อเมริกา โอเชียเนียและแอฟริกา นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว กล่าวว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จำเป็นต้องดำเนินมาตรการเชิงรุก คิดค้นนวัตกรรมและสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและแนวโน้มการท่องเที่ยวในบริบทหลังวิกฤตการแพร่ระบาด COVID-19

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnams-inbound-tourism-suffers-heavily-from-covid-19-315075.html

กัมพูชายังคงได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าท่องเที่ยวชั้นนำของโลก

กัมพูชายังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลกในปี 2020 ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าว โดยเน้นว่าสถาบันและเว็บไซต์ระดับนานาชาติที่เชี่ยวชาญด้านการจัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดทั่วโลกได้จัดอันดับให้กัมพูชาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวและพักอาศัย โดยในเดือนมีนาคม 2020 กัมพูชาได้รับรางวัล International Travel Award 2020 โดยในวันที่ 9 ตุลาคม 2020 สื่อสิ่งพิมพ์ Big 7 Travel ได้เน้นย้ำให้จังหวัดเสียมราฐของกัมพูชาเป็น 1 ใน 7 สถานที่ที่ผ่อนคลายที่สุดในโลก แต่ในปัจจุบันกัมพูชากำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวได้ทำการรับมือไม่ว่าจะเป็นการกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในการเดินทางและการท่องเที่ยว ทั้งกระทรวงยังเตรียมแผนเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในปี 2021-2025 อีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50787065/cambodia-maintains-its-position-as-one-of-the-worlds-top-tourism-destinations/

เมียนมามีแผนปรับปรุงการภาคบริการเพื่อรับมือ COVID-19

กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวพยายามปรับปรุงบริการในภาคการท่องเที่ยวเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานการฟื้นฟูยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของเมียนมาที่ได้จัดทำขึ้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังการระบาดของโควิด -19 ทั้งนี้ธุรกิจต่างๆ จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน COVID-19 เพื่อกลับมาเปิดการดำเนินการใหม่อีกครั้ง ซึ่งผู้ประกอบการกล่าวว่าภาคการท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการฟื้นตัว คาดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากยกเลิกข้อจำกัด โดยเริ่มจากการท่องเที่ยวในประเทศก่อน ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวกล่าวว่ากระทรวงจำเป็นต้องร่วมมือกับกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-hotel-ministry-plans-improve-services.html

กัมพูชาลงนามข้อตกลง GREEN BELT สนับสนุนภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ

กระทรวงการท่องเที่ยวและบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น Yamato Green Co Ltd. ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MoU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาห่วงโซ่คุณค่า “Green belt” ที่ให้บริการภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเกษตรกรกัมพูชาในการปรับปรุงเทคนิคการปลูกผักและพืชอื่นๆด้วยเทคโนโลยีของญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยให้เกษตรกรผลิตผักที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยสำหรับตลาดกัมพูชา โดยเฉพาะในโรงแรมและร้านอาหารในภาคการท่องเที่ยวรวมถึงส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น ซึ่ง MoU มุ่งเน้นไปที่การให้บริการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งหมดรวมถึงภาคย่อยทางด้านการท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการท่องเที่ยวในชนบท ตามรายงานของ General Directorate of Agriculture (GDA) ของกระทรวงเกษตรในปี 2019 กัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกผักราว 57,262 เฮกตาร์ทั่วประเทศและผลิตอาหารได้ประมาณ 682,012 ตันต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50783047/agreement-to-boost-green-belt-tourism-signed/