หน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มดำเนินการเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมในกัมพูชา

กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร (IFAD) ซึ่งเป็นองค์กรด้านการเงินระดับโลกและหน่วยงานพิเศษของสหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศแผนการที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อยกระดับภาคเกษตรกรรม และบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยความร่วมมือดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจของชุมชนในชนบทโดยการสร้างโอกาสให้กับแรงงานเกษตรกรและการขยายโอกาสสำหรับเกษตรกรรายย่อยด้วยการสนับสนุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการบริการการเกษตรเพื่อนวัตกรรมความยืดหยุ่นและการขยายตัว (ASPIRE) จะถูกนำโดย MAFF และมุ่งเน้นในทันทีคือการรักษาการผลิตผักใบเขียวและไข่ไก่เป็นองค์ประกอบสำคัญของอาหารท้องถิ่น พร้อมกันกับโครงการเร่งรัดการรวมตลาดสำหรับผู้ถือครองรายย่อย (AIMS) ที่นำโดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นช่องทางในการจัดหาทรัพยากรเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านชลประทานในฟาร์มแก่เกษตรกรเพื่อสนับสนุนในการผลิตสินค้าเหล่านี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50715086/un-agency-springs-into-action-to-aid-agriculture-sector/

ผ้าไหมในกัมพูชาอาจเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่น่าสนใจหลังการระบาด Covid-19

เจ้าหน้าที่อาวุโสของมหาวิทยาลัย Royal University of Phnom Penh (RUPP) ได้เรียกร้องให้ชุมชนท้องถิ่นภาคเอกชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการพัฒนาโครงการผ้าไหมในประเทศกัมพูชา โดยประธานคณะกรรมาธิการ RUPP และผู้อยู่เบื้องหลังศูนย์วิจัยผ้าไหมกล่าวว่าสถาบันของเขามีความรู้และทรัพยากรเพียงพอที่จะมอบไหมที่มีคุณภาพและต้นหม่อนให้กับชุมชนในชนบท ซึ่งเสริมว่า COVID-19 จะสร้าง “New Normal” สำหรับประเทศกัมพูชา โดยการเรียนรู้อย่างหนึ่งคือประเทศกัมพูชาต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในชนบทเพื่อให้เศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในอนาคต ภายในบริบทนี้ผ้าไหมอาจเป็นองค์ประกอบหนึ่ง จากข้อมูลของ Mey มีการใช้ไหมถึง 400 ตัน ในประเทศทุกปีส่วนใหญ่จะทำการนำเข้ามามากกว่าการผลิตไหมเอง ซึ่งการผลิตผ้าไหมจะช่วยให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนตลอดระยะเวลาหลายปีที่พวกเขาสามารถขายใบหม่อนหรือรังไหมให้โรงงานในกำปงสปรือ โดยสามารถสร้างรายได้ระหว่าง 500-600 เหรียญสหรัฐ ในทุกรอบการเก็บเกี่ยวต่อเฮกตาร์และถ้าเกษตรกรสามมรถทำได้ถึง 6 รอบต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50715091/silk-could-be-a-slick-way-forward-post-covid-19/

รัฐบาลคาดการณ์การฟื้นตัวในรูปแบบ V-shaped สวนทางกับผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ

รัฐบาลกัมพูชามองโลกในแง่ดีว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเห็นการเติบโตในรูป V-shaped หลังจากการระบาดของ Covid-19 ในทางตรงข้ามกับผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจกลับมองว่าการฟื้นตัวจะอยู่ในรูป U-shape ซึ่งในแง่เศรษฐกิจผู้เชี่ยวชาญธุรกิจและ Bloomberg.com อธิบายการกู้คืนในรูปแบบ V-shaped ว่าเป็นวิถีการเคลื่อนที่ซึ่งการฟื้นตัวจะรวดเร็ว แต่นักวิจัยด้านธุรกิจหลายคนเตือนว่าการฟื้นตัวมีแนวโน้มที่จะเป็นไปในรูปแบบ U-shaped ซึ่งหมายความว่าอาจใช้เวลาถึงสองปีในการฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยธนาคารโลกและ ADB คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของกัมพูชาจะชะลอตัวลงราว 2.5% และ 2.3% ในปีนี้ตามลำดับอันเป็นผลมาจากการระบาดโดยตรง ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปี 2563 ของกัมพูชาจะหดตัวถึง -1.7% ในปีนี้ อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตจะฟื้นตัวเป็น 5.9% ในปี 2564 ภายใต้สถานการณ์พื้นฐานตามรายงานของธนาคารโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50714665/govt-predicts-v-shaped-recovery-economic-experts-disagree/

กัมพูชาส่งออกยางพาราเพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาสแรง

การส่งออกยางของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงลดลงเล็กน้อยตามรายงานของกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง โดยตัวเลขแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมกัมพูชาส่งออกยาง 53,057 ตันเพิ่มขึ้น 10% โดยมีราคาเฉลี่ย 1,397 เหรียญสหรัฐต่อตันลดลง 1.2% ซึ่งรวมแล้วภาคดังกล่าวมีรายได้ประมาณ 74 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลาดังกล่าว ถึงแม้จะมีปริมาณการส่งออกลดลง 15% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับกุมภาพันธ์จาก 12,913 ถึง 11,751 ตัน เป็นผลมาจากการหยุดชะงักในด้านการค้าข้ามพรมแดนในการตอบสนองต่อการระบาดของ COVID-19 รวมถึงรองประธานของ An Mady บริษัท ที่เป็นเจ้าของสวนยางและส่งออกผลิตภัณฑ์กล่าวว่าการชะลอตัวของการส่งออกส่วนใหญ่จะลดลงตามคำสั่งซื้อที่ลดลงจากผู้นำเข้ารายใหญ่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50714831/rubber-exports-up-by-10-percent-in-q1/

ส่วนต่อขยายรันเวย์สนามบินสีหนุวิลล์ในกัมพูชาจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน

สนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์จะสามารถรับมือกับปริมาณเที่ยวบินที่ค่อนข้างแออัดได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้หลังจากโครงการส่วนต่อขยายรันเวย์ระยะทางยาว 3,300 เมตรเสร็จสมบูรณ์ จาก 2,800 เมตร ปัจจุบันสนามบินนานาชาติทั้งสามแห่งสามารถรองรับเครื่องบินขนาดกลางจากจีนหรือกาตาร์ได้ โดยกัมพูชามีสายการบิน 47 แห่ง หกแห่งเป็นสายการบินท้องถิ่นรวมถึงสายการบินแห่งชาติ หรือกัมพูชาอังกอร์แอร์ ที่ให้บริการผู้โดยสารและขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งสนามบินนานาชาติทั้งสามแห่งของกัมพูชาบริหารงานโดย Cambodia Airports ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่ม VNCI ในประเทศฝรั่งเศส โดยการจราจรของผู้โดยสารมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2562 คิดเป็น 11.6 ล้านคน ตามรายงานของ Cambodia Airports

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50714603/runway-extension-in-sihanoukville-airport-to-be-completed-in-june/

ผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ขอให้สถาบันการเงินช่วยปรับโครงสร้างเงินกู้

สมาคมไมโครไฟแนนซ์แห่งกัมพูชา (CMA) ได้กล่าวว่าสมาคมรวมถึงสมาชิกกำลังติดต่อกับลูกค้าของสถาบันการเงินรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ในการปรับโครงสร้างเงินกู้ โดย CMA ยังคงเปิดให้มีการเข้าถึงเงินทุนจากประชาชนผ่านระบบการเงิน ซึ่งสมาชิก CMA ทั้งหมดได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการสนับสนุนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยได้ดำเนินการและแก้ไขปัญหาตามประเภทของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าในแต่ละราย ซึ่งต้องสอดคล้องกับแนวทางของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา เพื่อให้มีการปรับโครงสร้างสินเชื่อลูกค้า MFIs ลูกค้าหรือผู้กู้ทุกคนควรติดต่อกับผู้ให้กู้เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และหาวิธีการแก้ปัญหาตามกลยุทธ์ Win-Win เพื่อพัฒนาภาคการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยและสามารถชำระหนี้ได้ CMA สนับสนุนให้ชำระตามปรกติต่อไป โดย MFI แต่ละแห่งจะใช้โอกาสนี้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก่อนมาเป็นลำดับแรก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50714464/covid-19s-affected-customers-asked-to-discuss-loan-restructuring/