เล็งขยายลดภาษีน้ำมันเครื่องบินอีก6เดือน

สรรพสามิตเปิดทางลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเหลือ 20 สตางค์ต่อลิตร อีก 6 เดือน กรณีการพิจารณาขยายเวลายกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินในประเทศให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสายการบินโลวคอสต์ว่า ล่าสุดผู้บริหารสายการบินโลวคอสต์ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาข้อเสนอของผู้ประกอบการในการขยายเวลาการยกเว้นภาษีดังกล่าวออกไป จากที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนก.ย.2563 อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตเห็นว่าหากการปรับลดภาษีจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และมีส่วนช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ สำหรับการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2563 ภาษีน้ำมันอยู่ที่ 20 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมลิตรละ 4.762 บาท

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/633556

คาดการท่องเที่ยวภายในประเทศของกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลประชุมแบน

ธุรกิจต่างๆทั่วกัมพูชาหันมาให้ความสนใจการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น เนื่องจากในช่วงเทศกาลที่ผ่านมาผู้คนเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ภายในประเทศกันอย่างหนาแน่นสร้างโอกาสให้กับธุรกิจภาคบริการและอื่นๆ โดยในด้านบริษัทผู้ให้บริการทั่วประเทศกำลังร่วมกันระดมสมองเพื่อรองรับในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 16, 17 และ 18 กันยายน ซึ่งบรรดาเกสต์เฮาส์ ที่พัก ทั่วประเทศเริ่มเสนอที่พักราคาประหยัดเพื่อเป็นการจูงใจผู้เข้าพักในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงเช่นเดียวกับบาร์และร้านอาหารต่างๆ โดยหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศให้ได้มากที่สุด ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน โดยหวังว่าวันหยุดในช่วงเทศกาลของกัมพูชาในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศให้เกิดการฟื้นฟู

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50763443/more-domestic-tourism-expected-over-pchum-ben-festival-period/

กัมพูชาเผยช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ ‘อังกอร์ รีสอร์ท’ รองรับนักท่องเที่ยว 400,000 คน

หน่วยงาน “Angkor Enterprise” เปิดเผยว่าอุทยานโบราณสถานอังกอร์ในจังหวัดเสียมฐาน สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 393,293 คน ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ด้วยมูลค่า 18,332,011 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขข้างต้น ชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงร้อยละ 74.66 ขณะที่ รายได้ลดลงร้อยละ 73.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8,817 คน ที่เข้ามาเยี่ยมชมปราสาทเกาะแกร์ (Koh Ker) จ.พระวิหาร และสร้างรายได้จากการขายตั๋วถึง 88,170 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชายังคงได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่นเดียวกันหลายๆประเทศทั่วโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50759735/angkor-resort-received-400000-tourists-in-first-eight-months/

การท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาในช่วงวันหยุดยาว สร้างเงินอัดฉีดกว่า 100 ล้านดอลลาร์

การเคลื่อนไหวของนักท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุด 5 วันที่ผ่านมา ของการชดเชยช่วงวันหยุดปีใหม่ของกัมพูชา โดยมีเงินหมุนเวียนในภาคการท่องเที่ยวโดยประมาณสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในการประชุมเพื่อทบทวนกิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงวันหยุด 5 วัน นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา โดยจังหวัดเสียมราฐซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานโบราณคดีอังกอร์ดึงดูดผู้เข้าชมมากที่สุดในช่วงวันหยุดชดเชยปีใหม่ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 21 สิงหาคม ซึ่งจากรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวรายงานว่าเป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศกว่า 1.4 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอีกราว 14,148 คน ที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุด โดยไปเยือนจังหวัดเสียมราฐ 214,047 คน, กัมปอต, แก๊ป, พระตะบอง และพระสีหนุ มีผู้เยี่ยมชม 180,754, 146,383, 133,349 และ 116,346 คน ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50757435/domestic-tourism-gets-100-million-cash-injection-and-a-life-line/

กัมพูชาวางมาตรการฟื้นฟูการท่องเที่ยวร่วมกับไทย

คณะทำงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา – ไทย ได้หารือเกี่ยวกับการหาแนวทางแก้ไขและดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ โดยคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชานำโดยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยวและความร่วมมือระหว่างประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยว ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พบปะกันผ่านการประชุมทางไกล โดยแบ่งปันประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ซึ่งกัมพูชาและไทยได้วางกลยุทธ์ในกิจกรรมช่วยเหลือและแผนในอนาคตซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ “mitigation phase”, “early recovery” และ “post-COVID-19 crises recovery plan” โดยทำการกำหนดจังหวัดนำร่องโครงการเพื่อจัดเตรียมแพ็คเกจทัวร์ และเตรียมการต้อนรับ การจัดการที่ดี ภายใต้ความเหมาะสมและปลอดภัย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50756873/measures-to-restore-regional-tourism/

ภาคอุตสาหกรรมเร่งให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมมัคคุเทศก์ในเมียนมา

สมาคมมัคคุเทศก์เมียนมา (MTGA) กล่าวว่าได้ส่งต่อข้อเสนอแนะในการขอสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือมัคคุเทศก์ท้องถิ่นไปยังคณะกรรมการแผนบรรเทาเศรษฐกิจ COVID-19 ของรัฐบาล ความช่วยเหลือทางการเงินและเงินกู้ COVID-19 ในปัจจุบันมอบให้กับภาคการท่องเที่ยวและ บริษัทต่างๆ แต่ไม่ใช่สำหรับไกด์นำเที่ยว ดังนั้นจึงมีการส่งข้อเสนอแนะเพื่อพิจารณาเงินกู้สำหรับมัคคุเทศก์ท้องถิ่น โดยจะช่วยเหลือเพียงมัคคุเทศก์ประเภทเดียวที่ได้รับคือการอุดหนุนเมื่อเข้าร่วมหลักสูตรการฝึกอบรมที่จำเป็นที่ช่วยคนได้ครั้งละไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น กระทรวงจะศึกษาข้อเสนอแนะจากสมาคมมัคคุเทศก์เมียนมาและให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการที่มีหน้าที่ดูแลพนักงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว คณะกรรมการแผนบรรเทาเศรษฐกิจ COVID-19 ได้ปล่อยเงินกู้เป็นระยะเวลาหนึ่งปีในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 แก่ธุรกิจในภาคต่างๆเช่นเกษตรกรรม การท่องเที่ยว และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอตัวของธุรกิจที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/industry-body-urges-more-help-tour-guides-myanmar.html

การท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันขึ้นปีใหม่กัมพูชา

การท่องเที่ยวภายในประเทศดึงดูดผู้เดินทางมากกว่า 1.4 ล้านคน ทั้งคนในท้องถิ่นและชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ภายในประเทศในช่วงสัปดาห์ก่อนของวันขึ้นปีใหม่ประจำปีของกัมพูชา โดยประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชา (CATA) กล่าวว่าในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีส่วนช่วยภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากหลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดในปัจจุบัน แต่ด้วยความร่วมมือที่ดีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาล และภาคเอกชน ทำให้ในช่วงวันหยุดประชาชนรู้สึกปลอดภัย ในขณะที่ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยของรัฐบาลส่งผลให้ผู้คนภายในประเทศกล้าที่จะเดินทางไปเที่ยวยังจุดท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ แต่ถึงอย่างไรผู้สังเกตการณ์ด้านการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่ากัมพูชาจะสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวราว 3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 ปีในการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50756096/internal-travellers-breathe-fresh-air-into-tourism/

รีสอร์ทในกัมพูชาเกือบ 600 แห่ง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว

กระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่ามีรีสอร์ทอย่างน้อย 557 แห่งทั่วประเทศเปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนักท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงวันหยุด 5 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมพร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้แนะนำให้รีสอร์ทเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นรวมทั้งเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย แอลกอฮอล์เจล มาส์ก และเจลล้างมือ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อความปลอดภัย ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาทำให้โรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร และ บริษัททัวร์บางแห่งปิดกิจการไปแล้วกว่า 3,000 แห่งทั่วกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาอนุญาตให้มีวันหยุด 5 วันตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 21 สิงหาคม เพื่อทดแทนวันหยุดปีใหม่ของกัมพูชาในช่วงกลางเดือนเมษายน โดยเลื่อนออกไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/755525/nearly-600-tourism-resorts-cash-in-on-domestic-tourists-during-five-day-holiday/

อโกด้า ชี้ เชียงใหม่ครองอันดับ 1 ที่คนอยากเที่ยวในไทย

อโกด้า ชี้ ชาวไทยมีแนวโน้มสูงที่จะเที่ยวในประเทศ เชียงใหม่ครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางยอดนิยม นายเออร์รอล คุก รองประธานฝ่าย Partner Services ของอโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว เปิดเผยผลการสำรวจจากแคมเปญ โกโลคอล ที่จัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของหลายประเทศทั่วโลกพบว่า นักท่องเที่ยวไทย 78% อินโดนีเซีย 76% และสหรัฐอเมริกา 74% เป็น 3 ประเทศแรกที่อยากออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากที่สุด โดย 3 จุดหมายปลายทางยอดนิยมแรกของนักท่องเที่ยวไทย คือ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหัวหิน  ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า 3 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวมีความพร้อมและอยากออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 87% อินโดนีเซีย 78% และไต้หวัน 59% เป็น 3 ชาติแรกที่อยากออกเดินทางมากที่สุด โดยรวมแล้ว ภายในช่วง 12 เดือนข้างหน้านี้ 65% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด อยากเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ส่วนอีก 35% อยากไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ทั้งนี้ นักเดินทางไทย 41% สะดวกเดินทางในระยะเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 46% ตามมาด้วย 36% ที่เลือกเดินทาง 2 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงที่สุดของโลก ในส่วนของวิธีเดินทาง นักท่องเที่ยวชาวไทย 50% เลือกการเดินทางด้วยเครื่องบิน และ 41% เลือกรถยนต์ส่วนตัว ส่วนในระดับนานาชาติ นักท่องเที่ยวทั่วโลกมากกว่า 1 ใน 4 รู้สึกสะดวกใจที่จะเดินทางในระยะเวลา 2 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า ตัวเลขนี้รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวอเมริกา 14% และไต้หวัน 15% โดยนักท่องเที่ยวจากสองชาตินี้ยังอยู่ในอันดับ 1 และ 3 ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พอใจจะเดินทางไม่เกิน 5-8 ชั่วโมง (อเมริกา 25%, ซาอุดีอาระเบีย 22% และไต้หวัน 19%) เนื่องจากพื้นที่อันกว้างใหญ่ของออสเตรเลียจึงไม่น่าแปลกใจที่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียมีแน้วโน้มมากที่สุดที่จะเดินทางมากกว่า 8 ชั่วโมง  ส่วนวิธีการเดินทางนั้น นักท่องเที่ยวทั่วโลก 28% เลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และ 57% เลือกที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน “ถึงแม้ผู้คนทั่วโลกจะต้องหยุดเดินทางท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน แต่ความกระหายในการเดินทางนั้นไม่ได้ลดลง ที่จริงแล้วมันกลับเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้การเดินทางในประเทศเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของผู้คนในหลายภูมิภาค ซึ่งส่วนมากต้องการออกสำรวจประเทศของตนเอง พักอาศัยในชุมชนท้องถิ่น โดยใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า 4 ชั่วโมง” สำหรับเมืองต่างๆจึงต้องหาทางดึงดูดนักท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น เพื่อช่วยเติมเต็มช่องว่างของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป ในทางตรงกันข้าม จุดหมายปลายทางที่โด่งดังในระดับภูมิภาคที่ใกล้ชายหาด ธรรมชาติ หรือพื้นที่ชนบท ก็มีโอกาสได้รับประโยชน์จากเทรนด์การท่องเที่ยวนี้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวก็มีโอกาสได้ช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบด้วย

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/790167

จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังกัมพูชาลดลงอย่างน่าตกใจ

ในช่วงหกเดือนแรกของปีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามากัมพูชาลดลงประมาณร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วตามรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยว โดยรายงานระบุว่าในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียวจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงถึงร้อยละ 97.3 ซึ่งกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศประมาณ 1.183 ล้านคน ลดลงร้อยละ 64.6 เมื่อเทียบกับช่วงหกเดือนแรกของปีที่แล้ว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนลดลงร้อยละ 78.7 (275,673 คน) เวียดนามลดลงร้อยละ 55 (161,084 คน) สหรัฐลดลงร้อยละ 60 สาธารณรัฐเกาหลีลดลงร้อยละ 62 สหราชอาณาจักรลดลงร้อยละ 50 เป็นต้น ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวกำลังดำเนินการเพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่เสียหายโดยเตรียมแผน “Travel bubble” ไว้รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/751716/visitor-numbers-to-kingdom-collapse/