แนวโน้มท่องเที่ยวอาเซียนบูมยุคนิวนอร์มอล

ทราเอ็กซ์เอเชีย(TraXasia) ผู้เชี่ยวชาญด้านการโฆษณาในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เปิดเผยรายงานแนวโน้มนักท่องเที่ยวประจำไตรมาส 4 ปี 2563 ชี้การท่องเที่ยวระยะใกล้จะได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคนิวนอร์มอล ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจีนจะยังคงเป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค ตามมาด้วยเกาหลีใต้ ขณะไทยติดโผจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการท่องเที่ยวขาเข้าที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เนื่องจากการท่องเที่ยวระยะใกล้จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าในช่วงของการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดทั่วโลก นอกจากนี้ จากผลสำรวจยังพบด้วยว่า จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำที่คาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ ได้แก่ เวียดนาม (โฮจิมินห์ ฮานอย ดานัง) มาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง โคตาคินาบาลู) และ ไทย (กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่)

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902272

ดึงเอกชนช่วยปั๊มยอดคนไทยเที่ยว 5 แสนล.

ททท.จัดทำโครงการ เวิร์กเคชั่น ไทยแลนด์ ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ ดึงเอกชนซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวในประเทศ หวังสร้างรายได้ท่องเที่ยว 5 แสนล้านบาท ไทยเที่ยวไทยแตะ 100 ล้านคน-ครั้ง นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้จัดทำโครงการ เวิร์กเคชั่น ไทยแลนด์ ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านกลุ่มคนที่ยังมีกำลังซื้อ ออกเดินทางท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมในประเทศ เพื่อให้ธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว เบื้องต้นมีบริษัทเข้าร่วมโครงการผ่านการซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวในประเทศแล้วกว่า 84 ราย แบ่งเป็นทั้งหน่วยงาน องค์กร และบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ทั้งนี้ได้เชิญชวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ องค์กร และหน่วยงาน เดินทางท่องเที่ยวผ่านเส้นทางการท่องเที่ยว 5 ประเภท ได้แก่ ทำงานแบบสุขกาย สุขใจ ได้ตอบแทนสังคมรักษาสิ่งแวดล้อม,ท่องเที่ยวไปกับความสนใจพิเศษที่เลือกได้เอง ควบคู่กับการทำงาน,สร้างทีมเวิร์กด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน,พบปะหารือแบบพิเศษ และเสนอส่วนลดพิเศษ รวมทั้งแพ็กเกจทัวร์อีกจำนวนมาก เชื่อว่าโครงการนี้ จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งปีไม่ต่ำกว่า 80-100 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 400,000-500,000 ล้านบาท นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.ยังได้หารือร่วมกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการหารือถึงการปรับเงื่อนไขของเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อให้มีความน่าสนใจและกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มากขึ้นด้วย.

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/799333

เล็งขยายลดภาษีน้ำมันเครื่องบินอีก6เดือน

สรรพสามิตเปิดทางลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเหลือ 20 สตางค์ต่อลิตร อีก 6 เดือน กรณีการพิจารณาขยายเวลายกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินในประเทศให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสายการบินโลวคอสต์ว่า ล่าสุดผู้บริหารสายการบินโลวคอสต์ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาข้อเสนอของผู้ประกอบการในการขยายเวลาการยกเว้นภาษีดังกล่าวออกไป จากที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนก.ย.2563 อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตเห็นว่าหากการปรับลดภาษีจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และมีส่วนช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ สำหรับการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2563 ภาษีน้ำมันอยู่ที่ 20 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมลิตรละ 4.762 บาท

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/633556

คาดการท่องเที่ยวภายในประเทศของกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลประชุมแบน

ธุรกิจต่างๆทั่วกัมพูชาหันมาให้ความสนใจการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น เนื่องจากในช่วงเทศกาลที่ผ่านมาผู้คนเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ภายในประเทศกันอย่างหนาแน่นสร้างโอกาสให้กับธุรกิจภาคบริการและอื่นๆ โดยในด้านบริษัทผู้ให้บริการทั่วประเทศกำลังร่วมกันระดมสมองเพื่อรองรับในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 16, 17 และ 18 กันยายน ซึ่งบรรดาเกสต์เฮาส์ ที่พัก ทั่วประเทศเริ่มเสนอที่พักราคาประหยัดเพื่อเป็นการจูงใจผู้เข้าพักในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงเช่นเดียวกับบาร์และร้านอาหารต่างๆ โดยหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศให้ได้มากที่สุด ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน โดยหวังว่าวันหยุดในช่วงเทศกาลของกัมพูชาในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศให้เกิดการฟื้นฟู

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50763443/more-domestic-tourism-expected-over-pchum-ben-festival-period/

กัมพูชาเผยช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ ‘อังกอร์ รีสอร์ท’ รองรับนักท่องเที่ยว 400,000 คน

หน่วยงาน “Angkor Enterprise” เปิดเผยว่าอุทยานโบราณสถานอังกอร์ในจังหวัดเสียมฐาน สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 393,293 คน ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ด้วยมูลค่า 18,332,011 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขข้างต้น ชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงร้อยละ 74.66 ขณะที่ รายได้ลดลงร้อยละ 73.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8,817 คน ที่เข้ามาเยี่ยมชมปราสาทเกาะแกร์ (Koh Ker) จ.พระวิหาร และสร้างรายได้จากการขายตั๋วถึง 88,170 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชายังคงได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่นเดียวกันหลายๆประเทศทั่วโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50759735/angkor-resort-received-400000-tourists-in-first-eight-months/

การท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาในช่วงวันหยุดยาว สร้างเงินอัดฉีดกว่า 100 ล้านดอลลาร์

การเคลื่อนไหวของนักท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุด 5 วันที่ผ่านมา ของการชดเชยช่วงวันหยุดปีใหม่ของกัมพูชา โดยมีเงินหมุนเวียนในภาคการท่องเที่ยวโดยประมาณสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในการประชุมเพื่อทบทวนกิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงวันหยุด 5 วัน นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา โดยจังหวัดเสียมราฐซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานโบราณคดีอังกอร์ดึงดูดผู้เข้าชมมากที่สุดในช่วงวันหยุดชดเชยปีใหม่ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 21 สิงหาคม ซึ่งจากรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวรายงานว่าเป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศกว่า 1.4 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอีกราว 14,148 คน ที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุด โดยไปเยือนจังหวัดเสียมราฐ 214,047 คน, กัมปอต, แก๊ป, พระตะบอง และพระสีหนุ มีผู้เยี่ยมชม 180,754, 146,383, 133,349 และ 116,346 คน ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50757435/domestic-tourism-gets-100-million-cash-injection-and-a-life-line/

กัมพูชาวางมาตรการฟื้นฟูการท่องเที่ยวร่วมกับไทย

คณะทำงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา – ไทย ได้หารือเกี่ยวกับการหาแนวทางแก้ไขและดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ โดยคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชานำโดยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยวและความร่วมมือระหว่างประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยว ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พบปะกันผ่านการประชุมทางไกล โดยแบ่งปันประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ซึ่งกัมพูชาและไทยได้วางกลยุทธ์ในกิจกรรมช่วยเหลือและแผนในอนาคตซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ “mitigation phase”, “early recovery” และ “post-COVID-19 crises recovery plan” โดยทำการกำหนดจังหวัดนำร่องโครงการเพื่อจัดเตรียมแพ็คเกจทัวร์ และเตรียมการต้อนรับ การจัดการที่ดี ภายใต้ความเหมาะสมและปลอดภัย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50756873/measures-to-restore-regional-tourism/

ภาคอุตสาหกรรมเร่งให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมมัคคุเทศก์ในเมียนมา

สมาคมมัคคุเทศก์เมียนมา (MTGA) กล่าวว่าได้ส่งต่อข้อเสนอแนะในการขอสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือมัคคุเทศก์ท้องถิ่นไปยังคณะกรรมการแผนบรรเทาเศรษฐกิจ COVID-19 ของรัฐบาล ความช่วยเหลือทางการเงินและเงินกู้ COVID-19 ในปัจจุบันมอบให้กับภาคการท่องเที่ยวและ บริษัทต่างๆ แต่ไม่ใช่สำหรับไกด์นำเที่ยว ดังนั้นจึงมีการส่งข้อเสนอแนะเพื่อพิจารณาเงินกู้สำหรับมัคคุเทศก์ท้องถิ่น โดยจะช่วยเหลือเพียงมัคคุเทศก์ประเภทเดียวที่ได้รับคือการอุดหนุนเมื่อเข้าร่วมหลักสูตรการฝึกอบรมที่จำเป็นที่ช่วยคนได้ครั้งละไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น กระทรวงจะศึกษาข้อเสนอแนะจากสมาคมมัคคุเทศก์เมียนมาและให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการที่มีหน้าที่ดูแลพนักงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว คณะกรรมการแผนบรรเทาเศรษฐกิจ COVID-19 ได้ปล่อยเงินกู้เป็นระยะเวลาหนึ่งปีในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 แก่ธุรกิจในภาคต่างๆเช่นเกษตรกรรม การท่องเที่ยว และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอตัวของธุรกิจที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/industry-body-urges-more-help-tour-guides-myanmar.html

การท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันขึ้นปีใหม่กัมพูชา

การท่องเที่ยวภายในประเทศดึงดูดผู้เดินทางมากกว่า 1.4 ล้านคน ทั้งคนในท้องถิ่นและชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ภายในประเทศในช่วงสัปดาห์ก่อนของวันขึ้นปีใหม่ประจำปีของกัมพูชา โดยประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชา (CATA) กล่าวว่าในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีส่วนช่วยภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากหลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดในปัจจุบัน แต่ด้วยความร่วมมือที่ดีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาล และภาคเอกชน ทำให้ในช่วงวันหยุดประชาชนรู้สึกปลอดภัย ในขณะที่ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยของรัฐบาลส่งผลให้ผู้คนภายในประเทศกล้าที่จะเดินทางไปเที่ยวยังจุดท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ แต่ถึงอย่างไรผู้สังเกตการณ์ด้านการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่ากัมพูชาจะสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวราว 3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 ปีในการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50756096/internal-travellers-breathe-fresh-air-into-tourism/

รีสอร์ทในกัมพูชาเกือบ 600 แห่ง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว

กระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่ามีรีสอร์ทอย่างน้อย 557 แห่งทั่วประเทศเปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนักท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงวันหยุด 5 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมพร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้แนะนำให้รีสอร์ทเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นรวมทั้งเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย แอลกอฮอล์เจล มาส์ก และเจลล้างมือ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อความปลอดภัย ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาทำให้โรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร และ บริษัททัวร์บางแห่งปิดกิจการไปแล้วกว่า 3,000 แห่งทั่วกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาอนุญาตให้มีวันหยุด 5 วันตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 21 สิงหาคม เพื่อทดแทนวันหยุดปีใหม่ของกัมพูชาในช่วงกลางเดือนเมษายน โดยเลื่อนออกไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/755525/nearly-600-tourism-resorts-cash-in-on-domestic-tourists-during-five-day-holiday/