อิรวดีและฉานมีแผนส่งเสริมการลงทุน

เมียนมากำลังขยายทางเลือกสำหรับธุรกิจที่จะลงทุนในประเทศ เมื่อไม่นานมานี้อนุญาตให้นักลงทุนขยายสาขาการลงทุนออกไปนอกกรุงย่างกุ้งและมัฑะเลย์และภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศแม้จะมีการระบาดของ COVID-19 คณะกรรมการการลงทุนของอิรวดี ได้อนุญาตให้ลงทุนในโรงแรมและการท่องเที่ยว การผลิต และการก่อสร้างมูลค่าประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ 3 พันล้านจัต คาดว่าจะสร้างงานได้มากกว่า 2,000 ตำแหน่ง โดยได้ให้การสนับสนุน 35 นักลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศลงทุนในภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันรัฐฉานเดินหน้าด้วยแผนการส่งเสริมการลงทุน 10 ปี สำหรับปีงบประมาณ 2562-2563 ถึงปีงบประมาณ  2573 – 2574 เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจโดยการจ้างแรงงานในสัดส่วนที่สูงขึ้น โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และการให้บริการที่สามารถรองรับนักลงทุนและธุรกิจ แผนส่งเสริมการลงทุนของรัฐฉาน (SSIPP) มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเป็น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 และ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 โดยรัฐฉานสามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมูลค่า 780 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2561-2562 ส่วนใหญ่เป็นภาคพลังงานคิดเป็นร้อยละ 70 แม้ว่ารัฐฉานจะมีทรัพยากรธรรมชาติและแรงงานจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เนื่องจากขาดทักษะ โครงสร้างพื้นฐาน และระบบตลาดที่ใช้ได้จริง ท่ามกลางความไม่แน่นอนในภูมิภาคและในพื้นที่แนวชายแดน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/ayeyarwady-shan-advance-investment-promotion-plans.html

รัฐบาลกัมพูชาชะลอการเก็บภาษีสำหรับธุรกิจภาคการท่องเที่ยว

รัฐบาลกัมพูชาได้ประกาศให้มีการยกเว้นภาษีสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวต่ออีกสองเดือน โดยหวังว่าจะช่วยลดภาระของกิจการในปัจจุบันจากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งประกาศผ่านมาตรการรับมือเศรษฐกิจของกัมพูชาต่อ COVID-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวเริ่มพัฒนากลยุทธ์เพื่อทยอยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งจากการประกาศมาตรการได้รวมไปถึงการยกเว้นภาษีทุกประเภท สำหรับโรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหารและตัวแทนการท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนกับกรมสรรพากรทั่วไป ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน โดยรัฐบาลจะขยายเวลาการยกเว้นภาษีขั้นต่ำอีกสองเดือนให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชา ซึ่งประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวกัมพูชา (CATA) ยินดีต่อการตัดสินใจของรัฐบาลโดยกล่าวว่าจะช่วยลดภาระในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50750936/govt-extends-tax-holiday-for-tourism-sector/

นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังกัมพูชาลดลงร้อยละ 98.8 ในเดือน ก.ค.

อุทยานอังกอร์สถานที่ท่องเที่ยวของกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 1,790 คน ในเดือนกรกฎาคม 2563 ลดลงกว่าร้อยละ 98.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ทำรายได้อยู่ที่ 78,440 ดอลลาร์สหรัฐ จากการขายตั๋วในเดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยเสริมว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 389,630 คน ซึ่งมีรายได้เกือบ 18.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการขายตั๋วลดลงร้อยละ 72 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามายังกัมพูชาเนื่องจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ซึ่งบังคับให้กัมพูชาต้องจำกัดการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือนมีนาคมเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส โดยกัมพูชามีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยืนยันแล้วรวม 239 ราย รักษาหายแล้ว 166 ราย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50750844/foreign-tourists-to-cambodias-angkor-down-98-8-percent-in-july-due-to-pandemic/

พิพัฒน์ ลุยฟื้นเที่ยวไทยยึดหลักนิวนอร์มัล

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า” ว่า​ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดยุทธศาสตร์การฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยการให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ การใช้จ่ายจากการเดินทาง เพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และการจ้างงานภาคประชาชนในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ 4 ประการ คือ ความปลอดภัย ความสะอาด ความเป็นธรรม และกระจายรายได้สู่ชุมชน ทั้งนี้ หลังจากนายพิพัฒน์​ กล่าวปาฐกถาพิเศษแล้ว ได้มีวงเสวนาเรื่อง “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า” มีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายสุรวัช อัครวรมาศ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และอุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สำหรับการสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความพร้อมของภาครัฐตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมกันนั้นยังหวังจะให้คนไทยมีโอกาสสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวในเวลาที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด ตามแนวทางการท่องเที่ยวด้วยวิถีใหม่ และนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/787851

นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาถึงสปป.ลาวลดลงกว่า 60%

นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาสปป.ลาวในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ลดลง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากการปิดด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 จากการรายงานของกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยวพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงจาก 2,228,459 คนในเดือนม.ค.-มิ.ย. ในปี 62 เป็น 886,447 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนลดลงจาก 1,462,985 เป็น 555,475 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน ไทยลดลงจาก 942,470 คน เป็น 350,098 ในขณะที่เวียดนามลดลงจาก 468,632 เป็น 186,174 จีนลดลงจาก 261,199 เป็น 138,457 เกาหลีใต้ลดลงจาก 46,967 เป็น 40,207 และญี่ปุ่นลดลงจาก 44,559 เป็น 11,081 ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเนื่องจากด่านชายแดนระหว่างประเทศถูกปิดในช่วงการระบาดของโควิด -19 ทุกส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้รับผลกระทบรวมถึงโรงแรม รีสอร์ทและเกสต์เฮาส์ บริษัททัวร์และสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศ นอกจากนี้เหตุการณ์สำคัญหลายอย่างได้ถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไปธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยมีมูลค่ามากกว่า 450,000 ดอลลาร์สหรัฐที่หายไปจากภาคธุรกิจในช่วงสองเดือนแรกของปี สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ (NERI) ระบุว่านักท่องเที่ยวจากจีนและไทยซึ่งเป็นตลาดชั้นนำของลาวลดลง 16% และ 5% ตามลำดับในช่วงเวลาเดียวกัน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_International_142.php

การท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาเริ่มฟื้นตัวในช่วงเดือนกรกฎาคม

นักท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งหมดที่ได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศกัมพูชาอยู่ที่ 313,300 คน ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2563 โดยตัวเลขดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวทองคอน ซึ่งเสริมว่าแนวโน้มบ่งชี้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.67 เมื่อเทียบกับสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน โดยคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 5,491 คน ลดลงร้อยละ 30.89 และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 307,809 คนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.54 แสดงให้เห็นมุมมองแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนสิงหาคมเนื่องจากผู้คนจะมีวันหยุดยาว (เพื่อชดเชยวันหยุดปีใหม่กัมพูชาของพวกเขา) ตามด้วยเทศกาลวันหยุดประชุมแบนในเดือนกันยายน ในขณะที่สถานการณ์ COVID-19 ภายในประเทศก็เริ่มที่จะดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50746062/domestic-tourism-takes-off-with-a-bang-over-310000-tourists-travel-in-first-two-weeks-of-july/

แขวงไชยสมบูรณ์เปิดตัวการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อการพัฒนาการเกษตรและการท่องเที่ยว

แขวงไชยสมบูรณ์ไฟเขียวให้กับบริษัทในท้องถิ่นเพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการพัฒนาการเกษตรและการท่องเที่ยวที่ ‘Phakatai’ ในหมู่บ้าน ‘Phasangobsouk’ เมือง ‘Anouvong’ การศึกษาความเป็นไปได้สำหรับทั้งสองจะใช้เวลาประมาณ 18 เดือน พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจสำหรับโครงการจัดขึ้นระหว่างแผนกวางแผนและการลงทุนจังหวัดและบริษัทท้องถิ่น โครงการนี้จะช่วยให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์จากปศุสัตว์และผักมากขึ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในจังหวัดมากขึ้นนอกจากนี้แขวงไชยสมบูรณ์ มีกำหนดจะเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมมากขึ้นในจังหวัด โดยภาคที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เขา Phou Bia ภายใต้โครงการ KPG และผู้พัฒนาคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวพร้อมกับวางมาตรการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีการนำเสนอรายงานที่ประชุมของกรมสารสนเทศวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจังหวัดเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ใหม่ในแขวงไชยสมบูรณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในภูมิภาคตามมาตรฐานสากลพร้อมกับให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชนบทอย่างเพียงพอ เมื่อดำเนินการแล้วจะกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวหลักของภูมิภาคซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้มากขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Xaysomboun_133.php

กัมพูชาเร่งพัฒนาภาคเกษตรกรรม การท่องเที่ยวภายในประเทศ และ SMEs

กัมพูชาจำเป็นต้องเร่งส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในประเทศ การเกษตรและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลังจากการประชุมเรื่อง “สิ่งที่ประเทศกัมพูชาควรเตรียมที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจหลัง COVID-19” ซึ่งเศรษฐกิจของกัมพูชาจะไม่สามารถฟื้นตัวได้เลยจนกว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ สนับสนุนการท่องเที่ยวและสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงลดต้นทุนการผลิตในภาคการขนส่งและการพัฒนาของ SMEs โดย ณ ปัจจุบัน SMEs ภายในประเทศได้เริ่มจ้างงานประมาณร้อยละ 70 ของภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่ยังคงขาดแคลนเทคโนโลยีและแรงงานที่มีทักษะสูง เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาอาจหดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในปีนี้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50736309/agriculture-domestic-tourism-and-smes-are-the-catalysts-to-restore-the-economy/

JICA สนับสนุนการพัฒนาสนามบินนานาชาติวัตไต

สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA) และกรมการบินพลเรือนของสปป.ลาวได้บรรลุข้อตกลงในการปรับปรุงสนามบินนานาชาติวัตไต JICA ซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งได้ลงนามเพื่อดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อการปรับปรุงสนามบินอย่างต่อเนื่องรายละเอียดของโครงการจะมีการปรับปรุงอาคารสนามบินและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรวมถึงการขยายรันเวย์และการพัฒนามาตรการต่างๆ ให้เป็นสากลและทันสมัยมากขึ้น ปัจจุบันสนามบินให้บริการผู้โดยสารประมาณ 1.8 ล้านคนต่อปีและคาดการณ์ไว้สำหรับปี 2020 จะมีผู้โดยสารมากกว่า 1.5 ล้านคน หากพัฒนาให้เต็มความจุท่าอากาศยานคาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของสปป.ลาวในอีกหลายทศวรรษที่จะมีการขยายตัวในอัตราที่สูงและเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจของสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_JICA114.php

รัฐเดินหน้าแผน travel bubble รับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศวันละ 1 พัน

กระทรวงท่องเที่ยวเดินหน้า แผน travel bubbleเปิดรับนักท่องเที่ยว วันละ1,000 คนเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน เตรียมเสนอแนวทางดำเนินการให้ศบค.พิจารณา 17 มิ.ย.นี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 63 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ผลักดัน travel bubble หรือ การจับคู่ประเทศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่าๆ กัน ซึ่งเป็นความร่วมมือในลักษณะทวิภาคีด้านการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ทั่วโลกกำลังหันมาสนใจ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในหลายๆประเทศเริ่มดีขึ้น
ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/625975