คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานแสดงสินค้าเครื่องหนังนับพันในกัมพูชา

คาดว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมงานมากกว่า 20,000 คน ทั้งในประเทศและต่างประเทศในเดือนหน้าบนเกาะเพชร (Diamond Island) สำหรับงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมรองเท้า โดยงานนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Leathertech Cambodia 2019 จะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า Diamond Island ในวันที่ 15-17 พฤศจิกายน ซึ่งผู้จัดงานคือ ASK Trade & Exhibitions Pvt Ltd กล่าวว่ากัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดงานขนาดใหญ่เนื่องจากกัมพูชาเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตรองเท้าและเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีสำหรับนักลงทุนในอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะมี บริษัท กว่า 80 บริษัท จากทั้งในและต่างประเทศ เช่น จีน สหรัฐ ยุโรป เวียดนาม ไทย และจากประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังมาเข้าร่วม ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จะจัดแสดงภายในงาน ได้แก่ รองเท้า เครื่องหนัง ส่วนประกอบสารเคมีและอุปกรณ์เสริมในอุตสาหกรรม โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรองเท้า 10 อันดับแรกของโลกที่มีมูลค่าการส่งออกรองเท้ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/655400/thousands-of-visitors-expected-at-leather-expo/

โครงการอำนวยความสะดวกในการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดในกัมพูชา

เริ่มตั้งแต่วันศุกร์แผนกการค้าในจังหวัดตาแก้ว กำปอต และเกาะกงจะสามารถออก “แบบฟอร์ม D” หรือ ใบรับรองแหล่งกำเนิด (CO) เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการส่งออกสำหรับผู้ค้าในจังหวัดต่างๆ โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ผู้ส่งออกและผู้ค้าในจังหวัดข้างต้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อทำการตรวจสอบและออกใบรับรองแหล่งกำเนิด แต่จะเป็นการเดินทางไปยังแผนกการค้าในแต่ละจังหวัดแทน ซึ่งตั้งแต่ปี 2560 กระทรวงพาณิชย์ได้มอบ “แบบฟอร์ม D” ให้กับหน่วยงานระดับจังหวัดเป้าหมายคือการอำนวยความสะดวกในฝั่งของกิจกรรมทางธุรกิจและการส่งออก เพื่อที่จะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับบริษัท โดยมีมากกว่า 20 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของกำปอต กล่าวว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การบริการสะดวกขึ้นสำหรับผู้ส่งออกและผู้ค้าในจังหวัด โดย “แบบฟอร์ม D” สามารถใช้สำหรับการจัดส่งได้ภายในอาเซียน.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50655401/scheme-to-facilitate-co-issuance-expands/

กลุ่มนักลงทุนจีนหนุนภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอในกัมพูชา

สมาคมใหม่ของนักลงทุนจีนได้เปิดตัวเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของกัมพูชาซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สุดของการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยสมาคมสิ่งทอประสานงานกับรัฐบาล ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มนักลงทุนจีนเป็นพิเศษ โดยกัมพูชามีโรงงานกว่า 663 แห่ง เป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้า 520 แห่งและอีก 83 แห่งทำการผลิตรองเท้า ส่วนที่เหลือจะเป็นโรงงานผลิตถุง ซึ่งทั้งอุตสาหกรรมมีแรงงานประมาณ 800,000 คน กว่า 80% เป็นผู้หญิงตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมระบุรายงานเมื่อปีที่แล้ว โดยจากรายงานของ NBC แสดงให้เห็นว่าการส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าของกัมพูชามีมูลค่าถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24% จาก 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่อยู่ในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งกัมพูชามีค่าแรงขั้นต่ำเป็นอันดับห้าในอาเซียน ค่าแรงขั้นต่ำของกัมพูชาสำหรับภาคตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่ 182 เหรียญสหรัฐต่อเดือน แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 190 เหรียญสหรัฐในปีหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50655062/china-textile-group-launched-to-bolster-garment-sector/

การศึกษาสำหรับศูนย์โลจิสติกส์ที่สำคัญของกัมพูชาจะพร้อมในไม่ช้า

การศึกษาความเป็นไปได้สำหรับศูนย์โลจิสติกส์สำคัญในกรุงพนมเปญและสีหนุวิลล์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนสิ้นปีนี้ โดยกระทรวงโยธาธิการและโทรคมนาคมศึกษาความเป็นไปได้สำหรับศูนย์โลจิสติกส์ในเมืองหลวงกำลังดำเนินการโดยความช่วยเหลือของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย ในขณะที่ IMF ให้ความช่วยเหลือในสีหนุวิลล์ ซึ่งศูนย์โลจิสติกส์เป็นส่วนสำคัญของแผนแม่บทด้านโลจิสติกส์ของรัฐบาล โดยมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มตัวเลือกสำหรับการขนส่งทางบก ทางรถไฟและทางน้ำ เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์และบริการในท้องถิ่น ซึ่งศูนย์บริการโลจิสติกส์ทำหน้าที่เป็น “ศูนย์บริการแบบครบวงจร” สำหรับกิจกรรมการนำเข้าและส่งออก โดยเป็นการรวมตัวกันของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าปริมาณการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือ Autonomous Sihanoukville (PAS) เพิ่มขึ้นกว่า 18% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของภาคการขนส่งที่สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50655287/studies-for-major-logistics-centres-to-be-ready-soon/

งบประมาณประจำปี 2563 ของกัมพูชา

รัฐบาลได้วางแผนงบประมาณระดับชาติมากกว่า 7.66 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ซึ่งจะแบ่งตามภาคต่างๆใน 39 กระทรวงและสถาบันต่างๆ โดยในส่วนของภาคธุรกิจเพื่อสังคมวางแผนตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 37.4% เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบกับปีนี้ ส่วนฝ่ายความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจัดสรรไว้ที่ 25.8% เพิ่มขึ้น 9.3% ส่วนฝ่ายการบริหารทั่วไปเพิ่มขึ้น 4.7% ในขณะที่ภาคเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 3.3% รวมถึงส่วนอื่นๆอีก ซึ่งมีกลยุทธ์ใหม่ที่ได้นำเสนอคือ การเพิ่มเงินเดือนสำหรับข้าราชการ ครู แพทย์ ตำรวจ ทหาร โดยยังคงไม่เก็บภาษีเจ้าหน้าที่ของรัฐและกองกำลังติดอาวุธทุกชนิดสำหรับเงินเดือนขั้นต่ำไม่ว่าจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำเท่าใดก็ตาม ซึ่งข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะลดลงเป็น 6.5% ในปีหน้าซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 29.36 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/cambodias-national-budget-next-year-set-us766-billion-107098

ADB เผยแพร่กลยุทธ์การเป็นหุ้นส่วนใหม่ของกัมพูชา

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้รับรองยุทธศาสตร์ความร่วมมือในระดับประเทศ (CPS) ระยะเวลาห้าปีใหม่ โดยให้การสนับสนุนเป้าหมายของกัมพูชาในการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับสูงภายในปี 2573 ซึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์ปี 2562-2566 ADB จะให้เงินกู้ยืมเพื่อพัฒนาและให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคการเกษตรและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ 1.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ในเมืองและชนบท รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานทดแทนและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นสำคัญ โดยการสนับสนุนการปฏิรูปของภาครัฐและการพัฒนาขีดความสามารถของสถาบันจะยังคงเป็นหัวใจหลัก ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงและคุณภาพการบริการสำหรับชาวกัมพูชารวมถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยเชื่อว่า CPS จะช่วยสร้างโอกาสในการทำงานที่ดีขึ้นสำหรับชาวกัมพูชาโดยลงทุนด้านการศึกษาทักษะและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เนื่องจากประชากรวัยหนุ่มสาวของกัมพูชากำลังการขยายการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลและการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์การเป็นหุ้นส่วนในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50654726/adb-releases-new-cambodia-partnership-strategy/

การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก

ภาคอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชามีการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรก โดยมีการดูดซับตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับบ้านและคอนโดมิเนียมตามรายงานล่าสุดจากการประเมินของ VTrust ซึ่งการปรับปรุงตลาดอสังหาริมทรัพย์ของกรุงพนมเปญในช่วงครึ่งปีแรกมีการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรกว่า 13,900 ยูนิตจาก 82 โครงการและกำลังดำเนินการก่อสร้างถึง 4,600 แห่ง โดยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการประเมิน VTrust กล่าวว่าอัตราการดูดซับตลาดที่แข็งแกร่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพของภาคธุรกิจ ซึ่งอุปทานใหม่ในกรุงพนมเปญมีมากกว่า 147,000 ตารางเมตร ณ เดือนมิถุนายน โดยประธานสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชากล่าวว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอีกห้าปีข้างหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงพนมเปญ สีหนุวิลล์ เค็ป กัมปอต เสียมราฐ พระตะบองและเกาะกง ซึ่งการเติบโตนี้เกิดขึ้นได้จากรายได้ที่สูงขึ้นในหมู่คนท้องถิ่นการสนับสนุนของธนาคารพาณิชย์ความพยายามของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระเบียบข้อบังคับ รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50654869/real-estate-growth-robust-in-h1-vtrust/