กัมพูชาและไทยลงนามในข้อตกลงการจดทะเบียนข้ามพรมแดน

กัมพูชาและไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นข้ามพรมแดน เพื่อปูทางให้ บริษัท ไทย และ บริษัท กัมพูชา เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ท้องถิ่นได้ โดยได้ลงนามกันที่กรุงเทพฯระหว่างผู้อำนวยการตลาดหลักทรัพย์ประเทศกัมพูชา (SECC) และ เลขาธิการ ก.ล.ต. ประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมถึงแนวทางช่วยเหลือผู้ออกตราสารที่ต้องการเสนอขายหลักทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นตราสารทุนหรือตราสารอนุพันธ์ทั้งในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา โดยเชื่อว่า MoU เป็นขั้นตอนสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือในตลาดทุนระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลสองแห่งทั้งด้านของความเชื่อมั่นและการดำเนินการจดทะเบียนข้ามพรมแดนให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาเปิดตัวในปี 2555 มี บริษัท จดทะเบียน 5 แห่ง โดยมีการระดมทุนทั้งหมด 120 ล้านเหรียญสหรัฐใน CSX นับตั้งแต่เปิดตัว

ที่มา : https://www.b2b-cambodia.com/news/cambodia-thailand-sign-agreement-on-cross-border-listings/

กัมพูชาเปิดตัวแผนแม่บทเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 2 สถานที่มรดกโลก

กรุงพนมเปญของกัมพูชา ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ 4 ยุทธศาสตร์รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาและสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ฟื้นฟูในส่วนพื้นที่อุทยานโบราณคดีอังกอร์และวัดพระวิหารในจังหวัดทางตอนเหนือ โดยแหล่งท่องเที่ยวหลักสองแห่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 9.7% และ 5.5% ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังจังหวัด จากรายงานระบุว่าในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.84 ล้านคนเพิ่มขึ้น 11.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนถึง 1.5 ล้านคนในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบเป็นรายปีนักท่องเที่ยวเวียดนามพุ่งขึ้นเกือบ 480,000 คนเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีและนักท่องเที่ยวสปป.ลาวเกือบ 220,000 คนลดลง 1.9%

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/cambodia-unveils-masterplan-to-boost-tourism-in-2-world-heritage-sites-153334/

เมืองใหม่ที่จะสร้างในเสียมราฐของกัมพูชา

จะมีการสร้างเมืองแห่งใหม่ในเสียมเรียบ โดยโครงการนี้เพิ่งถูกเพิ่มไปในแผนแม่บทในด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกล่าวว่าเมืองใหม่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมในจังหวัดมากขึ้น โดยมีสถานที่สำคัญคือ Angkor Archeological Complex ตั้งอยู่ห่างจากเสียมราฐในทิศตะวันออกประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งแผนแม่บทจะแล้วเสร็จภายในต้นปีหน้า โดยจากตัวเลขของอังกอร์เอ็นเตอร์ไพรส์สหราชอาณาจักรมีรายได้กว่า 55.7 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการขายตั๋วเข้าชมสถานที่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยกลยุทธ์ดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักอาศัยนานขึ้น และนิยามความเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดใหม่ ซึ่งประเทศจีนก็ยังคงเป็นประเทศที่ติดอันดับยอดนิยมของนักท่องเที่ยงที่มาเยือนเสียเรียบโดยคิดเป็นประมาณ 540,000 คนในช่วงครึ่งปีแรกตามมาด้วยเกาหลีและสหรัฐอเมริกา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643972/new-city-to-be-built-in-siem-reap-province/

World Bank อนุมัติเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนากัมพูชา

ธนาคารโลกได้อนุมัติการเบิกจ่ายอย่างเป็นทางการจำนวน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกัมพูชา โดยเงินให้กู้ยืมจะอยู่ภายใต้ กรอบความร่วมมือในระดับประเทศในช่วง ปี2562-2566 ซึ่งได้รับการอนุมัติจากธนาคารโลกในเดือนพฤษภาคมตามแถลงการณ์ที่ออกหลังจากการประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยโครงการกู้ยืมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงระดับความสำคัญของรัฐบาลและจัดการกับความท้าทายภายในประเทศเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ การพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร เสริมสร้างการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งกรอบการทำงานจะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพของรัฐและส่งเสริมการพัฒนาภาคเอกชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643974/world-bank-approves-1-billion-in-development-assistance/

การมีส่วนร่วมของธนาคารกลางเวียดนามต่อธนาคารในท้องถิ่นกัมพูชา

ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชาได้กล่าวชื่นชมธนาคารของเวียดนามที่ดำเนินงานในกัมพูชาเพื่อสนับสนุนและพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งในระหว่างการประชุมประจำปี ผู้ว่าการ NBC กล่าวว่าเวียดนามมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชาโดยเฉพาะทรัพยากรมนุษย์ผ่านความช่วยเหลือด้านเทคนิค โดยเชื่อว่ากัมพูชายังคงเติบโตในอัตราที่รวดเร็วแม้จะมีความท้าทายระดับโลกหลายประการรวมถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ซึ่งธนาคารของทั้งสองประเทศเป็นกลไกที่สำคัญซึ่งกันและกันในการส่งเสริมความร่วมมือและส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการธนาคารและการเงินในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม โดยทำการแบ่งปันประสบการณ์และค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดของอุตสาหกรรม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643677/praise-for-vn-central-banks-contribution-to-local-banking/

RDB ของกัมพูชา เปิดสินเชื่อ “ฉุกเฉิน” รอบใหม่

ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวในกัมพูชา ธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบทของภาครัฐ (RDB) ได้เริ่มให้เงินกู้ยืมแก่โรงสีข้าวในท้องถิ่นภายใต้กองทุนฉุกเฉินของภาครัฐ โดยเงินกู้ยืมในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้โรงสีซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในท้องถิ่น ซึ่งมีวงเงินอยู่ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐเท่ากับปีที่แล้ว โดยผู้ขอสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นโรงสีขนาดกลางตั้งอยู่ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวส่วนใหญ่ในกัมพูชา เช่น Battambang, Banteay Meanchey, Pursat, Prey Veng, and Takeo ซึ่งเงินกู้ของ RDB มีอายุสินเชื่ออยู่ที่ 12 เดือนและอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี โดย RDB ยังมีเงินทุนอีก 30 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโรงสีข้าวในจังหวัดที่ผลิตข้าวหลัก ที่ต้องการสร้างหรือพัฒนาสถานที่เก็บสินค้าเช่นคลังสินค้าหรือไซโลในการเก็บสินค้า ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีกัมพูชาส่งออกข้าวสาร 281,538 ตันเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643674/rdb-opens-new-round-of-emergency-loans/

ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์กังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดการลงทุนของจีน

คนในวงการอสังหาริมทรัพย์กังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการตัดสินใจของจีนในการจำกัดการไหลออกของเงินทุนที่ผลต่อกัมพูชา โดยเมื่อ 2 ปีก่อนจีนได้ดำเนินนโยบายกำหนดข้อจำกัดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนขาออก เพื่อจัดการเกี่ยวกับการไหลออกของเงินทุนและลดความเสี่ยงต่อระบบการเงินของจีนจากการลงทุนในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งกัมพูชามีจำนวนเงินลงทุนโดยตรงจากจีนในภาคอสังหาริมทรัพย์กว่า 40% จึงมีโอกาสได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามข้อจำกัดด้านเงินทุนที่ไหลออกของจีนอาจจะส่งผลดีเนื่องจากจะเป็นการลดสัดส่วนของเงินทุนไม่ให้ไปอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่งมากจนเกินไป โดยตามบทความใน South China Morning Post การลงทุนโดยตรงของจีน (ODI) ลดลง 9.6% มาอยู่ที่ 143.04 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2018 ซึ่งจากการสำรวจความตั้งใจในการลงทุนของนักลงทุนจีนของ CBRE เมื่อปีที่แล้วการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนลดลง 80% สู่ 75 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643320/real-estate-experts-concerned-about-chinas-investment-restrictions/

Kith Meng ได้รับเลือกเป็นประธาน CCC อีกครั้ง

Kith Meng ได้รับเลือกเป็นประธานหอการค้ากัมพูชาด้วยการสนับสนุนจากประธานในจังหวัดต่างๆของกัมพูชา 15 คน โดยจะมีการดำเนินการหลายอย่างเพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกังวลของภาคเอกชน ซึ่งคาดหวังว่าประธานสภาจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในหลายภาคส่วนในกัมพูชา เพื่อให้กัมพูชาเป็นเป้าหมายการลงทุนที่ดีของนักลงทุน โดยบทบาทของหอการค้ากัมพูชาคือการพูดในนามของภาคเอกชนในการเจรจากับรัฐบาลและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งความรับผิดชอบหลักคือการจัดการฟอรัมระหว่างภาครัฐและเอกชนซึ่งเป็นกลไกหลักที่รัฐบาลใช้ในการลดอุปสรรคการทำธุรกิจและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643673/kith-meng-re-elected-as-ccc-president/