สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ มาตรการของภาครัฐและประมาณการเศรษฐกิจเวียดนาม

ผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มเวียดนามชี้กระทบหนักพิษโควิด-19 หาทางรับมือกับวิกฤติไวรัส

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาคสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามเผชิญกับอุปสรรคหลายด้าน เนื่องจากการยกเลิกคำสั่งซื้อและความล่าช้า แต่ผู้ผลิตบางรายได้ค้นหาแนวทางในการรับมือกับวิกฤติดังกล่าว โดยผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มในประเทศดิ้นร้นในการเสาะหาแหล่งวัตถุดิบจากที่อื่นๆ หลังจากเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของเวียดนามเข้าสู่การล็อกดาวน์ในช่วงปลายเดือนมกราคม แต่ในปัจจุบัน สิ่งต่างๆ เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติในจีน และปัญหาใหญ่โตจากการแพร่ระบาดไปยังทั่วโลก ส่งผลให้เวียดนามมียอดคำสั่งซื้อจากตลาดสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ในขณะเดียวกัน ยอดส่งออกลดลงร้อยละ 9.07 เมื่อเทียบกับปีก่อนในไตรมาสแรก และนำเข้าร้อยละ 16.59 ทั้งนี้ จากข้อมูลของกลุ่มผู้ผลิตและส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มแห่งชาติของเวียดนาม (VINATEX) กล่าวว่าผู้ซื้อจากสหรัฐฯและยุโรป ได้ระงับหรือยกเลิกคำสั่งซื้อตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และคาดว่าการส่งออกอาจลดลงร้อยละ 33 คิดเป็นมูลค่า 33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 ทั่วโลก รวมถึงยอดคำสั่งซื้ออาจดิ่งลงร้อยละ 29 ตลอดทั้งปี ถึงแม้ว่าจะมีผลกระทบด้านลบมากมาย แต่การระบาดของเชื้อดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ผลิตท้องถิ่นได้รับโอกาสที่ดีจากความต้องการหน้ากากทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pandemichit-garment-producers-find-way-to-weather-crisis/172166.vnp

เวียดนามเผชิญปัญหาขาดแคลนผัก ส่งผลราคาสูงขึ้น

ราคาผักปรับตัวสูงขึ้นในเมืองโฮจิมินห์ ส่งผลให้เกษตรกรลดการผลิตลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากภาวะน้ำเค็มรุกล้ำเข้าในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง นายเฮียน พ่อค้าในตลาดแห่งหนึ่ง บริเวณเมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่าในเดือนนี้ ราคาผักเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10 ต่อวัน, ราคามะเขือเทศอยู่ที่ 1.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม, ผักชี 2.3 ดอลลาร์สหรัฐ และบร็อคโคลี่ 1.3 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น ซึ่งราคาดังกล่าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 50-100 จากช่วงต้นเดือนนี้ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการบริษัทแห่งหนึ่งที่ดำเนินการค้าเกษตรกรรม ระบุว่าจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้เกษตรกรกังวลว่าจะไม่มีความต้องการ ดังนั้น จึงไม่มีการหว่านเมล็ดพืช ในขณะเดียวกัน จังหวัดเตี่ยนซางอยู่ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เกิดภาวะน้ำเค็มรุกล้ำทำให้เกษตรกรต้องซื้อน้ำจากจังหวัดอื่น ประกอบกับสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกและการระบาดของเชื้อดังกล่าวยังคงต่อเนื่อง ทำให้ราคาผักคาดว่ายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/715646/vegetable-shortage-continue-to-push-prices-upward.html

สมาคมเวียดนาม-สปป.ลาวมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสปป.ลาว

เมื่อวันที่ 21 เมษายนผ่านมาสมาคมมิตรภาพเวียดนาม – ลาวได้มอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสปป.ลาวโดยเฉพาะแพทย์และพยาบาลที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการป้องกันและต่อสู้กับ COVID-19 โดยเวชภัณฑ์ประกอบด้วยชุดป้องกัน 500 ชุดและหน้ากากป้องกันใบหน้า 18,500 ชุด หน้ากากทางการแพทย์ 17,500 ชุดและหน้ากากผ้าต้านเชื้อแบคทีเรีย 1,000 ชุด การช่วยเหลือดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นปึกแผ่นระหว่างสองประเทศ เพื่อเอาชนะความยากลำบากที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 รวมถึงเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ จะเป็นประโยชน์กันในภายภาคหน้าเพราะสปป.ลาวถือเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของเวียดนามหากสปป.ลาวฟื้นตัวได้เร็ว เศรษฐกิจกลับมาเหมือนเดิมจะทำให้การค้าระหว่างประเทศกับมาขยายตัวได้เหมือนเดิม การช่วยเหลือดังกล่าวจึงเป็นทั้งการช่วยเหลือด้านสาธารณะสุขและเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ

ที่มา : http://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=51828

เวียดนามอนุมัติส่งออกข้าวมากกว่า 56,000 ตัน

สำนักงานกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุในเว็บไซต์ว่าเวียดนามส่งออกข้าวราว 57,000 ตัน ช่วงบ่ายวันอังคาร ซึ่งจำนวนข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของ 400,000 ตัน ภายใต้โควตาส่งออกในเดือนนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ได้อนุมัติแผนของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ในการส่งออกข้าวอีกครั้งหลังจากระงับชั่วคราว เพื่อให้แน่ใจว่าเวียดนามมีอาหารเพียงพอที่จะรับมือการระบาดของไวรัส ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกข้าวราว 1.52 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 700.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และ 16 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/715610/more-than-56000-tonnes-of-rice-cleared-for-customs-approval.html

ราคาน้ำมันดิ่งลงหนัก ส่งผลต่อรายรับงบประมาณไม่มากนัก

จากข้อมูลของสำนักงบประมาณ ภายใต้กระทรวงการคลัง ระบุว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งหนัก ไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อรายรับงบประมาณของเวียดนามมากนัก ทางผู้อำนวยการของสำนักงบประมาณได้แสดงความคิดเห็นหลังจากได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนพ.ค. จากน้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (WTI) หรือรู้จักในอีกชื่อ ‘Texas light sweet’ โดยการลดลงหนักของรายรับงบประมาณรัฐ เนื่องมาจากการคาดการณ์ราคาน้ำมันอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวไม่ส่งผลมากนัก และได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการปรับโครงสร้างรายรับงบประมาณจากน้ำมันดิบ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3 ของทั้งหมด ทั้งนี้ ตามข้อมูลของกระทรวงการคลัง ระบุว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ รายรับงบประมาณจากน้ำมันดิบประมาณ 622 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.4 ของประมาณการและเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะเดียวกัน กำลังการผลิตของเวียดนามอยู่ที่ 2.8 ล้านตัน และเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.8 ของแผน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/oil-price-plummet-impact-on-budget-revenue-not-too-big-official/172101.vnp