เม็ดเงินลงทุน 564 ล้านดอลลาร์สหรัฐในนิคมอุตสาหกรรม Da Nang Hi-Tech Park

นิคมอุตสาหกรรม Da Nang Hi-Tech Park (DHTP) ได้เปิดตัวในปี 2556 ฐานะศูนย์กลางสีเขียวและการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จนสามารถดึงดูดโครงการลงทุน 18 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) 9 โครงการ ด้วยเงินทุนรวม 564 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ ผู้อำนวยการของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ระบุว่านิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวถูกออกแบบให้เป็น 1 ใน 3 ของนิคมอุตสาหกรรมหลักที่สามารถใช้งานได้หลายประเภท ตามมาด้วยกรุงโฮจิมินห์และฮานอย รวมถึงมีจำนวนธุรกิจ FDI 4 แห่ง ประกอบไปด้วยบริษัทญี่ปุ่น 2 ราย, บริษัทเกาหลีใต้ 1 ราย และบริษัทสหรัฐฯ 1 ราย ที่ได้ตัดสินใจทุ่มเงินลงทุน 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกและตลาดในประเทศ รวมถึงมีนักลงทุนในประเทศอีก 2 ราย ได้แก่ Long Hau company และ Bien Dong electric automation technology company ทั้งนี้ จากรายงานของคณะกรรมการ ระบุว่า UAC ได้ลงทุนก่อสร้างโรงงาน 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ ซึ่งได้เสร็จสิ้นการก่อสร้างแล้วและเริ่มต้นการผลิตในสิ้นปี 2562 นอกจากนี้ เมืองแห่งนี้ได้เรียกร้องให้มีการลงทุนจาก Silicon Valley และธุรกิจจากสหรัฐฯที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค การศึกา อสังหาริมทรัพย์และยานยนต์ในนิคมอุตสาหกรรม DHTP และ IZs

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/653256/564-million-poured-in-da-nang-hi-tech-park.html

เวียดนามส่งออกไก่แปรรูปไปยังรัสเซีย

โรงงานไก่แปรรูปในเขตจ่วง (Chuong) เมืองฮานอย เป็นธุรกิจแห่งแรกในเวียดนามที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไก่แปรรูปไปยังรัสเซีย ซึ่งจากข้อมูลของกรมปศุสตว์เวียดนาม ภายใต้กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทในวันที่ 8 มีนาคม ระบุว่าหน่วยงานปศุสัตว์รัสเซียได้ส่งหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ เพื่ออนุญาตให้นำเข้าไก่ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปจากบริษัท C.P. Vietnam Corporation ทั้งนี้ บริษัทเวียดนามจำเป็นต้องมีมาตรฐานที่เข็มงวดในการเลี้ยงสัตว์ ฆ่าสัตว์และแปรรูป รวมไปถึงความปลอดภัยทางชีวภาพและความปลอดภัยทางอาหาร อีกทั้งการตรวจสอบย้อนกลับและปลอดสารพิษ ซึ่งธุรกิจจะต้องผ่านเกณฑ์หรือมาตรฐานและเทคนิคจากสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (EAEU) โดยในปัจจุบัน เวียดนามได้รับอนุญาตส่งออกไก่แปรรูปไปยังรัสเซียได้ แสดงให้เห็นว่าเวียดนามยังสามารถส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอื่นๆในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย อาทิ เบลารุส คาซัดสถาน อาร์เมเนียและคีร์กีซสถาน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-exports-processed-chicken-to-russia-411093.vov

สนง.สถิติแห่งชาติเผยผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาสแรกโต แม้เผชิญกับโควิด-19

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) คาดว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมของเวียดนามไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมร้อยละ 9 และ 10.45 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 และ 2561 ตามลำดับ โดยอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เป็นภาคที่มีสัดส่วนมากที่สุดของอุตสาหกรรมในประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.38 ทั้งนี้ หากไม่เกิดสถานการณ์ของการแพร่ระบาดไวรัส จะส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปจะขยายตัวร้อยละ 10.47 สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัส ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เป็นต้น นอกจากนี้ ทางสำนักงาน GSO ระบุว่าปัจจัยที่ทำให้การผลิตในประเทศมีเสถียรภาพนั้น ภาครัฐฯควรจัดการกับกิจกรรมการค้า โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าและตลาดสำคัญ รวมถึงการแก้ไขปัญหาของผู้ผลิตและผู้ค้าและส่งเสริมธุรกิจที่ประสบปัญหาขาดเงินทุนจากการแพร่ระบาดของไวรัส โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เหล็กและอาหารแปรรูป

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/industrial-production-grows-in-first-quarter-if-covid19-ends-gso-411042.vov

ผลสำรวจชี้ 74% ธุรกิจล้มละลายจากการแพร่ระบาดของไวรัส

ผลการสำรวจของคณะกรรมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจเอกชน ภายใต้สภาที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กินเวลานานกว่า 6 เดือน ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 73.8 ล้มละลาย โดยจากการสำรวจบริษัทมากกว่า 1,200 ราย ในช่วงวันที่ 2-3 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่เป็นขนาดเล็ก ด้วยจำนวนพนักงานน้อยกว่า 100 คน และร้อยละ 98.2 ได้รับผลกระทบเชิงด้านลบจากการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่ มีเพียงร้อยละ 9.2 ที่ได้รับผลกระทบเชิงบวก จากการสำรวจดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าธุรกิจร้อยละ 19 ได้เตรียมมาตรการมารองรับผลกระทบในเชิงลบ ในขณะที่ร้อยละ 7.2 มองหาตลาดใหม่, ร้อยละ 2.4 ยกระดับคุณภาพบริการสูงขึ้น และร้อยละ 1.7 ใช้เวลานี้ในการฝึกอบรมพนักงาน ตามลำดับ ทั้งนี้ บริษัทได้เสนอ 3 ข้อแก่รัฐบาล ได้แก่ ช่วยเหลือปัญหาและอุปสรรคที่บริษัทเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัส ตามมาด้วยการดำเนินนโยบายเฉพาะอย่างที่ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบมากในแง่ของภาษี และการส่งเสริมสินเชื่อและลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/nearly-74-percent-of-firms-to-go-bankrupt-if-epidemic-lingers-survey-411041.vov

รัฐมนตรีเร่งให้ทางจังหวัดทั่วประเทศแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานประจำ 28 จังหวัดชายทะเล เพื่อส่งเสริมในการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไร้การควบคุม (IUU) ซึ่งอาจช่วยให้ภาคการประมงเวียดนามได้ปลดใบเหลืองภายในปีนี้ หลังจากการประชุมของคณะกรรมมาธิการยุโรปครั้งที่ 3 ในช่วงกลางปีนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงานตามคำแนะนำของฝ่ายคณะฯยุโรป ซึ่งหากทีมตรวจสอบของคณะกรรมการดังกล่าว มองว่าเวียดนามยังคงทำการประมงที่ผิดกฎหมายอยู่ในครั้งที่ 3 ปีนี้ ส่งผลให้เวียดนามไม่สามารถปลดใบเหลืองได้ และอาจได้รับใบแดง (ห้ามนำเข้า) ด้วยเหตุนี้ รัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือกับหน่วยงานชายฝั่งทะเล เพื่อต่อต้านการประมงที่ผิดกฎหมายและการดำเนินกฎหมายด้านการประมงอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเข้า-ออกของเรือประมง การตรวจสอบย้อนกลับสำหรับแหล่งกำเนิดสินค้า เป็นต้น โดยหลังจากการตรวจสอบ พบว่าคณะทำงานยุโรปยอมรับถึงความโปร่งใสในการทำงานและการให้ความร่วมมือมากขึ้นของเวียดนาม และในปัจจุบันเวียดนามยังคงทำตามคำแนะนำของคณะทำงานยุโรป อาทิ การติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และเผยแพร่ข้อบังคับกับเจ้าของเรือ รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ทำเครื่องหมายบนเรือ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/653114/minister-urges-provinces-to-boost-fight-against-iuu-fishing.html

ฮว่า ฟ้าด (Hoa Phat) ส่งออกเหล็กเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 3 เท่าต่อปี

บริษัทฮว่า ฟ้าด (Hoa Phat) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ระบุว่าในเดือนกุมภาพันธ์ มีปริมาณการส่งออกมากกว่า 40,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ ยอดส่งออกไปยังแคนาดาเพิ่มขึ้นอย่างมาก คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 54.4 ของการส่งออกรวม รองลงมาไทยและมาเลเซีย สำหรับยอดขายเหล็กก่อสร้างของบริษัทในเดือนที่แล้ว แตะระดับ 205,000 ตัน ทำให้ยอดขายรวมในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 381,000 ตัน รวมถึงปริมาณการส่งออก 69,000 ตัน ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน ผู้ผลิตเหล็กได้วางแผนที่จะทดสอบสายการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (HRC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมของบริษัท โดยในปี 2562 บริษัทดังกล่าวมีปริมาณส่งออกเหล็กก่อสร้างมากกว่า 265,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน กัมพูชาเป็นผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ที่สุดของบริษัท รองลงมาญี่ปุ่น แคนาดา สหรัฐอเมริกาและมาเลเซีย ซึ่งกลุ่มประเทศข้างต้นมีความต้องการสินค้า แสดงให้เห็นจากขีดความสามารถและคุณภาพสินค้าของบริษัทฮว่า ฟ้าด ในตลาดโลก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hoa-phat-s-february-steel-exports-almost-triple-year-on-year/169637.vnp