เวียดนามคาดว่าภาคเกษตรกรรมจะขยายตัว 3% ในปีหน้า : PM

จากการประชุมในกรุงฮานอย ณ วันที่ 23 ธันวาคม นายกรัฐมนตรีเหงียนชวนฟุ๊ก ระบุว่าภาคเกษตรและพัฒนาชนบทจะเติบโตร้อยละ 3 ในปีหน้า รวมไปถึงการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมง จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าเกษตรมากกว่า 5 รายการที่มีมูลค่าการส่งออก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 ทำให้ยอดการส่งออกรวมปรับตัวสูงขึ้นราว 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและส่งผลให้เวียดนามเป็นผู้นำทางด้านการค้าในกลุ่มสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จของภาคการเกษตรเวียดนามในปีนี้ เป็นผลมาจากการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เป็นต้น รวมไปถึงการจัดการกับไข้หวัดหมูแอฟริกา (ASF) นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่าภาคการเกษตรจะดำเนินปรับโครงสร้างใหม่และสร้างมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น รวมไปถึงเพิ่มขีดความสามารถการผลิตสินค้าเกษตรและการแก้ไขปัญหาประมงอย่างเข็มงวด จากสหภาพยุโรปได้ให้ใบเหลือง (Yellow Card)

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agriculture-sector-must-grow-by-3-pct-next-year-pm-407946.vov

โรงงานผลิตและแปรรูปมะม่วงในกัมพูชา 3 แห่งจะเริ่มเปิดทำการในปีหน้า

กระทรวงเกษตรระบุว่าจะมีการเปิดโรงงานแปรรูปมะม่วงอย่างน้อยสามแห่งในปี 2563 โดยโรงงานแห่งใหม่จะส่งเสริมการผลิตมะม่วงในกัมพูชาและช่วยให้เกษตรกรค้นหาตลาดใหม่สำหรับผลผลิตของพวกเขาซึ่งขณะนี้กัมพูชามีโรงงาน 8 แห่ง ที่ดำเนินการแปรรูปมะม่วง โดยสินค้าส่วนใหญ่ของการผลิตถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์จากมะม่วงยังคงส่งออกในระดับที่ต่ำ ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนในภาคการผลิตมะม่วงภายในประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าเขาขอให้เจ้าของโรงงานทำข้อตกลงการทำสัญญากับเกษตรกรเพื่อช่วยลดความเสี่ยงระหว่างกัน นอกจากนี้กระทรวงยังได้ขอให้หน่วยงานพาณิชย์จังหวัดอำนวยความสะดวกในกระบวนการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าสำหรับบริษัทที่ต้องการส่งออกผลิตภัณฑ์จากโรงงานเหล่านี้ ซึ่งกัมพูชากำลังดำเนินการเพื่อเริ่มส่งมะม่วงไปยังเกาหลีใต้และจีน โดยถือว่าเป็นตลาดใหญ่สำหรับตลาดผลไม้ และจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรระบุว่าพื้นที่เพาะปลูกมะม่วงมีมากกว่า 100,000 เฮกตาร์ทั่วประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50670405/three-mango-factories-to-open-next-year-ministry/

งานแสดงสินค้าการเกษตรและสินค้าในประเทศเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรและผู้ผลิตเวียงจันทน์

งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารของเวียงจันทน์และคณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยการส่งเสริมการผลิตและการบริโภคสินค้าในประเทศ ในงานมีธุรกิจท้องถิ่นกว่า 300 แห่งแสดงสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยงมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นใช้และบริโภคผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น รวมถึงผู้ผลิตและเกษตรกรในท้องถิ่นยังได้ขยายตลาดและมีการโปรโมตสินค้าของพวกเขาสู่สาธารณะอีกด้วยในท้ายที่สุดจะช่วยลดปริมาณสินค้านำเข้าได้ ซึ่งปัจจุบันงานดังกล่าวยังจัดขึ้นเฉพาะเวียงจันทร์เท่านั้นแต่ในอนาคตจะมีการจัดงานแสดงสินค้าในหลายๆแขวงเพื่อกระตุ้นการบริโภค รวมถึงส่งเสริมและเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรและผู้ผลิตทั้งประเทศ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/fair-boosts-market-opportunities-vientiane-farmers-producers-109501

เกษตรกร,เจ้าหน้าที่หารือเกี่ยวกับวิธีการขยายตลาด

เกษตรกรจากเวียงจันทน์และพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ ได้พบกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่เผชิญ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้กล่าวว่าต้องลดการนำเข้า แต่ปัญหาคือการเก็บเกี่ยวในท้องถิ่นไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ซื้อ การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตและผู้ซื้อในการหารือเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการและร่วมกันวางแผนสำหรับอนาคต ซึ่งจุดประสงค์คือเพื่อรับฟังปัญหาของเกษตรกรและใช้โอกาสนี้ในการแนะนำมาตรฐานสำหรับการเก็บเกี่ยว เกษตรกรมีความสามารถในการปลูกผักให้เพียงพอต่อความต้องการแต่ไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตลาดและความต้องการของตลาด ด้านเกษตรกรกล่าวว่าสามารถปลูกผักได้มากมายแต่ไม่สามารถขายได้ทั้งหมด บางครั้งพ่อค้าคนกลางก็ให้ราคาที่ต่ำมากสำหรับพืชผล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับฟังปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่และพูดคุยถึงวิธีการที่จะช่วยเพิ่มผลผลิต และขณะนี้รัฐบาลได้แต่งตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลที่ให้ไว้ระหว่างกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และหน่วยงานอื่น ๆ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/farmers-officials-discuss-ways-expand-markets-107604

บริษัท สปป.ลาว ไทย เมียนมา ร่วมเป็นคู่ค้าในการซื้อขายข้าว

บริษัท 3 แห่งจากสปป.ลาว ไทย และเมียนมา เข้าร่วมทุนเพื่อซื้อและขายข้าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเกษตรกรหารายได้เพิ่มเติมจากการเพราะปลูก และปรับปรุงสถานการณ์ของเกษตรกรใน 3 ประเทศด้วยการสนับสนุนให้พวกเขาผลิตข้าวคุณภาพดีเพื่อจำหน่าย การริเริ่มดังกล่าวเริ่มขึ้นในสปป.ลาว ในพิธีลงนามข้อตกลงในสัญญาซื้อขาย ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว บริษัท Laos’ Homxay Agriculture Export-Import ร่วมมือกับบริษัท Thailand’s Siam Golden Horse จะซื้อข้าวจาก บริษัท Myanmar’s ABA NARES  ขายให้กับญี่ปุ่น เวียดนามและฟิลิปปินส์ ทั้งสามบริษัทตกลงที่จะซื้อข้าวคุณภาพดีประมาณ 10 ล้านตัน ในช่วงเวลา 8 ปีเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.63 คาดว่าจะนำเข้าข้าวประมาณ 980,000 ตัน ในช่วงหกเดือนแรก นอกจากนี้ยังเป็นก้าวแรกในการขยายความร่วมมือด้านการค้าในอาเซียนและในอนาคต นอกจากนี้เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร อีกทั้งความร่วมมือของภาคเอกชนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในด้านการค้าการเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการขยายตัวของภาคเอกชนในฐานะหน่วยธุรกิจที่สำคัญเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-myanmar-thai-companies-partner-sale-and-purchase-rice-107602

เวียดนามเผยการส่งออกของภาคการเกษตรกว่า 33 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนของปี 62

จากรายงานทางสถิติของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าการส่งออกของภาคเกษตร ป่าไม้ และประมง มีมูลค่ารวม 33.18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เวียดนามจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าเกษตรกรรมราว 25.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยภาคเกษตร ป่าไม้ และประมงเกินดุลการค้าอยู่ที่ 9.04 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว การส่งออกเวียดนามมีอัตราการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากการซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ ในขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ลดลงร้อยละ 1.3 เนื่องมาจากกฎระเบียบที่เข็มงวดของตลาดจีนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีตกค้าง และข้อกำหนดความปลอดภัยของอาหารและบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ คาดว่าสถานการณ์การค้าทั่วโลกยังคงชะลอตัว และอุปสรรคทางการค้า จะส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อการส่งออกสินค้าเกษตรเวียดนามไปยังจีน รวมไปถึงราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agroforestryaquatic-exports-hit-over-us33-billion-in-ten-months-405376.vov

เวียดนามเผยภาคเกษตรกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.02% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากคำแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) ณ กรุงฮานอย วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่าภาคเกษตรกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.02 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดหมูแอฟริกา โดยยอดการส่งออกแตะระดับ 30.02 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ 6.86 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน ผลผลิตเนื้อหมูลดลงร้อยละ 8 เนื่องมาจากผลกระทบของโรคดังกล่าวเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผลผลิตของสินค้าทางการเกษตรอื่นๆต่างเพิ่มขึ้น ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อสัตว์ปีก ไข่ และนม เป็นต้น นอกจากนี้ ภาคการประมงได้ตระหนักถึงข้อเสนอแนะจากสหภาพยุโรป ในการพัฒนาเพาะพันธุ์สัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้ส่งทีมงานไปยังแหล่งท้องถิ่น เพื่อทำการตรวจสอบผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมาย และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536915/agriculture-sector-expands-by-202-in-nine-months.html#ksgoB5ZZRiwTDJwf.97